แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อทั้งสิ้น 160 คำสั่งซื้อและภาระผูกพันรวมมูลค่า 44 พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐที่ดูไบ

งานแสดงเครื่องบินดูไบ แอร์โชว์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกว่าที่เคยมีมาในประวัติการณ์สำหรับแอร์บัส

แอร์บัสได้รับคำสั่งซื้อทั้งสิ้น 160 คำสั่งซื้อและภาระผูกพันในงานแสดงเครื่องบินดูไบ แอร์โชว์ครั้งที่ 13 ซึ่งถือเป็นมูลค่ารวม 44 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งเน้นหนักไปที่เครื่องบินลำตัวกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินรุ่นเอ380และเอ350เอ็กดับเบิ้ลยูบี ที่ตอบโจทย์ตรงจุดความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า การสั่งซื้อรวมจาก 142 บริษัท มูลค่า 40.4 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา (ประกอบไปด้วยเครื่องบินเอ380 50 ลำ, เอ350-900 40 ลำ, เอ350-1000 10 ลำ, เอ321นีโอ 26 ลำ, เอ320นีโอ 10 ลำและเอ330-200เอฟ อีก 6 ลำ) และหมายเหตุสัญญา 18 ฉบับเป็นมูลค่า 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

โดยมูลค่า สายการบินเอมิเรตมีสั่งคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดโดยหนึ่งคำสั่งซื้อประกอบด้วยเครื่องบินเอ380 จำนวน 50 ลำคิดเป็นมูลค่าถึง 20 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ซี่งเป็นเครื่องบินรุ่นที่ได้รับคำชมเชยว่ามีประสิทธิภาพและผู้โดยสารเรียกร้องและยืนยันสถานะเครื่องบินเอ380 เป็นเครื่องหมายของฝูงบินของพวกเขา

โดยตัวเลข สายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์มีคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดเช่นกัน สำหรับแอร์บัสที่ดูไบ แอร์โชว์ด้วย จำนวนเครื่องบินทั้งสิ้น 87 ลำ (ประกอบไปด้วยเครื่องบินเอ350-900 40 ลำ, เอ350-1000 10 ลำ, เอ321นีโอ 26 ลำ, เอ320นีโอ 10 ลำและเอ330-200เอฟ อีก 1 ลำ) มูลค่า 19 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา

เครื่องบินเอนกประสงค์รุ่นเอ330-200เอฟ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องกับ 5 คำสั่งซื้อจากสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ คาร์โก้ (รวมทั้งอีกแปดภาระผูกพัน) และหนึ่งคำสั่งซื้อจากเอทิฮัด แอร์เวย์ ซึ่งรวมทั้งหมดเป็น 14 คำสั่งซื้อและภาระผูกพันมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา ร่วมด้วยแอร์แอลจีเรียซึ่งลงนามภาระผูกพันในเครื่องบินโดยสารเอ330-200 จำนวน 3 ลำ มูลค่า 648 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือสูงสุดของพวกเขา

ลิเบียน วิงส์ สายการบินซึ่งมีฐานอยู่ที่ตริโปลี ประกาศเริ่มต้นการดำเนินงานของสายการบินที่งานแสดงเครื่องบิน ดูไบ แอร์โชว์ โดยเลือกแอร์บัสในการเริ่มต้นสร้างฝูงบินด้วยภาระผูกพันในเครื่องบินเอ350-900 จำนวน 3 ลำและเครื่องบินเอ320นีโอ อีก 4 ลำ

มร.จอห์น เลฮีย์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัส ให้ความเห็นว่า “ด้วยตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลาง การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีจำนวนประชากรมากมายแต่สามารถบินถึงกันได้แค่เอื้อม สายการบินในตะวันออกกลางเป็นตัวแทนเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการเจริญเติบโตของการเดินทางทางอากาศ ยอดการสั่งซื้อที่งานแสดงเครื่องบิน ดูไบ แอร์โชว์ โดยมูลค่าแล้วเป็นจำนวนมากที่สุดที่เคยมีมาในประวัติการณ์สำหรับแอร์บัส เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังลงทุนในเครื่องบินที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพที่สุดเพื่อเก็บเกี่ยวในการเจริญเติบโตนี้” จอห์น เลฮีกล่าวเสริม

อัตราการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มสูงขึ้นจะนำไปสู่ความต้องการเครื่องบินโดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดใหญ่ ‘เพิ่มขึ้น’ คิดเป็นร้อยละ 25 ของปริมาณงานผลิตเครื่องบินในมือ โดยเครื่องบินขนาดใหญ่อย่าง เอ380 ที่มีพิกัดบรรทุกมากขึ้นจะสามารถใช้ประโยชน์จากสล๊อตเวลาที่มีจำกัดและรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มมากขึ้นได้โดยไม่ต้องมีการเพิ่มเที่ยวบินดังที่ท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ได้ประกาศก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นการให้ความสำคัญในเรื่องการเติบโตอย่างยั่งยืน มีผลให้อัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงและเสียงรบกวนลดลงถึงร้อยละ 70 ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาและยังคงดำเนินต่อไปด้วยการนำเครื่องบิน อาทิ เอ320นีโอ เอ320 ติดตั้งชาร์คเล็ต เอ380 และเอ350 เอ็กซ์ดับเบิลยูบี

แอร์บัสเป็นบริษัทในเครือ EADS (European Aeronautic Defence and Space Company) เป็นผู้ผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์ชั้นนำของโลก ที่นำเสนอเครื่องบินโดยสารหลายตระกูลที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด มีตั้งแต่ 100 ที่นั่ง ไปจนถึงกว่า 500 ที่นั่ง สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส