แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ 2012 กับการแข่งขันครั้งแรกในประเทศจีน
รถแข่งซุปเปอร์ โทรฟิโอ เร่งเครื่องผ่านโค้งแรก
ณ สนามออร์ดอส อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
กรุงเทพฯ 20 สิงหาคม 2555 – เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แลมบอร์กินี และ บลองแปง ได้ร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง ในการจัดการแข่งขัน แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ ครั้งแรกในประเทศจีน ณ สนาม ออร์ดอส อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นับเป็นสนามที่ 3 สำหรับการแข่งขันในเอเชีย โดย บริษัท ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี ผู้ผลิตรถสปอร์ตสัญชาติอิตาลี และบลองแปง บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาหรู สัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนรถซุปเปอร์คาร์ชาวจีน และลูกค้าชาวจีน ด้วยตั๋วระดับเฟิร์สคลาส เพื่อยกย่องถึงความยิ่งใหญ่ของซีรีย์การแข่งขันความเร็ว และได้สัมผัสประสบการณ์และความยอดเยี่ยมของเจ้ากระทิงเปลี่ยวสัญชาติอิตาลี และไม่อีกกี่เดือนนับต่อจากนี้ จีน จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีก 3 สนามด้วยกัน โดยจะจัดใน กวางเจา ในเดือนกันยายน เซียงไฮ้ในเดือนตุลาคม และอีกครั้งสำหรับสนามสุดท้ายในเดือน พฤศจิกายน
โดยการแข่งขันสนามแรกในประเทศจีน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้นำนักขับนานาชาติมากมายร่วมกันลงชิงชัยเป็นครั้งแรก ณ สนาม ออร์ดอส อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สำหรับสนามแห่งนี้ได้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2553 ด้วยความยาว 3,751 เมตร 18 โค้ง และทางตรงสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 296 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นสนามแข่งบนภูเขาแห่งแรกในจีน สำหรับทีมที่ร่วมลงชิงชัยและมีประสบการณ์จากการแข่งขันในสนาม ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนลสปีดเวย์ จะมีประสบการณ์ในการรับมือกับการขับขึ้นเขา และลงเขาของสนามนี้ได้อย่างดี
“ด้วยประเทศจีน เป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญที่สุดของแลมบอร์กินี เราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ มายัง ออร์ดอส และได้แสดงให้ลูกค้าชาวจีนเห็นอีกหนึ่งมิติในแบรนด์แลมบอร์กินี” กล่าวโดย คริสเตียโน อินเวอร์นี ผู้ประสานงาน ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ “ ในความเป็นจริงที่ว่า ในปีนี้ เอเชีย ซีรีย์ 2012 ได้จัดการแข่งขันถึง 4 สนามในประเทศจีน ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงจุดมุ่งหมายของแลมบอร์กินีที่มีต่อตลาดในประเทศจีน โดยผ่านทางกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตของเรา ที่เราได้มองไปข้างหน้าว่ากิจกรรมนี้จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตในอนาคตของแลมบอร์กินีในประเทศจีน
อลัน เดอลามูราช รองประธานและหัวหน้าฝ่ายการตลาด บลองแปง กล่าวว่า “ ไม่กี่ปีมานี้ บลองแปง ได้เคลื่อนไหวในทวีปเอเชียเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นผู้ผลิตนาฬิกาสัญชาติสวิสรายแรกที่เข้ามาอยู่ในประเทศจีน และเรามีความตื่นเต้นที่ได้กลับมายัง ออร์ดอส อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พร้อมกันกับ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา บลองแปง ได้เข้าร่วมเข้าการแข่งที่ออร์ดอส กับ FIA GT1 World Championship และเราหวังเป็นอย่างยิ่งการแข่งขันสนามแรกในประเทศจีนของ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย จะนำความตื่นเต้นมาสู่แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ต และการแข่งขันชิงแชมป์รายการนี้จะทำให้ลูกค้า ตลอดจนสื่อมวลชน ได้ค้นพบกับความเชื่อมโยงกันระหว่างศิลปะในการผลิตนาฬิกาและกีฒามอเตอร์สปอร์ตระดับโลก”
ในฐานะที่มีส่วนช่วยสนับสนุน China Touring Car Championship (CTCC) แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ได้ตั้งตนเอง ด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในการทำการแข่งขัน ด้วยการนำเอารถขับเคบื่อนสี่ล้อของแลมบอร์กินีอย่าวเจ้า ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ที่ได้ชื่อว่า รวดเร็วที่สุด ซึ่งได้เปิดให้ผู้เข้าแข่งขันเป็นเพศชายเท่านั้น ประกอบด้วย (รุ่น amateur & pro-amateur) สำหรับ ซุปเปอร์ โทรฟิโอ อนุญาติให้แต่ละทีมสามารถส่งนักขับลงชิงชัยได้ 2 คน และบังคับให้สามารถเปลี่ยนนักขับในพิทได้นาทีที่ 20 และ 30 ของการแข่งขัน สำหรับทีมที่มีนักขับคนเดียว บังคับให้หยุดในช่วงเวลาเดียวกันเป็นระยะเวลา 1 นาที เพื่อให้เกิดความยุติธรรมของการแข่งขัน และจากการที่การแข่งขันได้รวบรวมนักขับและทีมที่เข้าแข่งขันไว้ จะช่วยสร้างความตื่นเต้นให้กับการแข่งขันจนถึงเส้นชัย
คริสเตียโน อินเวอร์นี ผู้ประสานงาน ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ ให้การยอมรับกับทีมจากไต้หวัน #38 (Chao) สำหรับสปริตที่ยอดเยี่ยมของทีม
การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นด้วยความน่าทึ่ง เมื่อการแข่งขันในรอบคัดเลือกมีรถแข่งชนประสานงานกันระหว่างรถของทีมญี่ปุ่น #10 (Suzuki) และรถของทีมไต้หวัน #38 (Chao) ซึ่งทำให้ทั้ง 2 ทีมไม่สามารถลงแข่งขันในการแข่งขันรอบแรกของบ่ายวันอาทิตย์ได้ โดย จิออร์จิโอ ซานนา แลมบอร์กินี อาร์ & ดี และผู้อำนวยการเทสไดร์ฟ กล่าว “สนามแห่งนี้มีลักษณะเฉพาะ มีโค้งจำนวนไม่น้อยที่คุณไม่สามารถไลน์ได้อย่างถูกต้อง และด้วยกระแสลมที่พัดเอาทรายเข้ามาอยู่ในสนาม มันได้สร้างอุปสรรค์ให้กับนักแข่งเพิ่มมากยิ่งขึ้น” แต่ทั้ง 2 ทีมและนักขับต่างตัดสินใจลงแข่งขันอีกครั้งในวันอาทิตย์ ซึ่งได้แสดงให้เห็นสปิริตของทีมที่ยอดเยี่ยมและเป็นไปตามข้อกำหนดของการแข่งขัน โดยรถได้ทำการซ่อมแซมเพียงแค่ช่วงข้ามคืน และยังสามารถผ่านมาตราฐานความปลอดภัย เพื่อลงแข่งขันในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการแข่งขันในเรซที่ 2
สำหรับเรซแรก ในวันเสาร์ ได้เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแสงแดดเจิดจ้า โดย หลิว และ ริซโซ่ (#37) จากจีน ออกสตาร์ทในอันดับที่ 3 ตามมาด้วย แรมลี (#9) จากมาเลเซีย และ ชาร์ลส์ (#99) จาก สิงคโปร์ ในตำแหน่ง โพล โพสิชั่น โดย แรมลี (#9) ที่โชคร้ายจากการออกสตาร์ทที่สนาม เซปัง ได้สร้างเซอร์ไพรส์แก่ผู้เข้าชมใน ฟูจิ ด้วยการกระโดนจากตำแหน่งที่ 14 มา เป็นที่ 2 ระกว่างการแข่งขันในเรซที่ 1 และเรซที่ 2 สำหรับการแข่งขันในออร์ดอส แรมลี ได้แสดงความสุดยอดด้วยการคว้าอันดับที่ 1 บนโพเดี่ยม โดยรอบที่ทำเวลาดีที่สุดอยู่ที่ 1:46:522 แซงหน้า หลิว และ ริซโซ่ (#37) และตามมา ชาร์ลส์ (#99) ที่คว้าอันดับ 3 ไปครอง
สำหรับเรซที่สอง ชาน และ เจ๋อ (#88) จากฮ่องกง ได้ไต่อันดับขึ้นมา จากการออกสตาร์ทในอันดับที่ 6 และจบการแข่งขันที่อันดับ 3 ในขณะเดียวกัน หลิว และ ริซโซ่ (#37) และ แรมลี (#9) ต่างรับแรงกดดันตลอดการแข่งขัน ต่างผลัดกันขึ้นนำ ทำเอาผู้เข้าชมอ้าปากค้าง แต่สุดท้ายแล้ว แรมลี (#9) ก็สามารถนำการแข่งขันและจบการแข่งขันด้วยการคว้าอันดับ 1 ไปครอง สำหรับการแข่งขันในสนามต่อไปจะมีขึ้นที่ กวางโจว อินเตอร์เนชั่นนอล เซอร์กิต ในวันที่ 15-16 กันยายน และแน่นอนแฟนกีฬาความเร็วทุกท่านจะได้สัมผัสกับการแข่งขันที่สุดยอด
###
ผลการแข่งขัน
Race 1
1. Ramli (#9), Malaysia
2. Liu / Rizzo (#37), China
3. Charlz (#99), Singapore
4. Choi (#8), Hong Kong
5. Wiser / Zheng (#66), China
6. Taniguchi (#12), Japan
7. Chan / Tse (#88), Hong Kong
8. Cheng / Lok (#2), China
9. Chen (#3), China
10. Yuan / Bao (#16), China
11. Chou (#24), Thailand
12. Xu / Zhang (#7), China
13. Kuan / Liu (#22), China
14. Han / Lu (#36), Taiwan
Not classified
15. Suzuki (#10), Japan
16. Chao (#38), Taiwan
Race 2
1. Ramli (#9), Malaysia
2. Liu / Rizzo (#37), China
3. Chan / Tse (#88), Hong Kong
4. Chen (#3), China
5. Yuan / Bao (#16), China
6. Taniguchi (#12), Japan
7. Wiser / Zheng (#66), China
8. Chou (#24), Thailand
9. Xu / Zhang (#7), China
10. Han / Lu (#36), Taiwan
11. Chao (#38), Taiwan
12. Kuan / Liu (#22), China
13. Suzuki (#10), Japan
Not classified
14. Cheng / Lok (#2), China
15. Choi (#8), Hong Kong
16. Charlz (#99), Singapore
แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ 2012
เป็นปีที่ 4 แล้วในยุโรป สำหรับ แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ แชมป์เปี่ยนชิพ ใน เอเชีย เป็นการแข่งขันของนักขับชาย ที่สามารถเข้าร่วมแข่งขันได้ทั้งประเภทเดี่ยวหรือทีม จำกัดทีม ละ 2 คน ในการชิงชัยด้วยรถที่ใช้แข่งขันอย่าง รถ แลมบอร์กินี ซุปเปอร์ โทรฟิโอ ซึ่งถือเป็นหนึ่งซีรีย์การแข่งขันความเร็วที่เร็วที่สุดในโลก โดยผู้เข้าแข่งขันจะถูกแบ่งเป็น 2 ระดับ คือ ประเภทสมัครเล่น และ โปร-แอม ในแต่ละการแข่งขันจะมีการฉลองบนสองโพเดียม ได้แก่ 1. ไม่คำนึงถึงประเภทของผู้เข้าแข่งขัน และ 2. โพเดี่ยมสำหรับประเภทสมัครเล่นโดยเฉพาะ สำหรับทีมที่เข้าแข่งขันมีทั้งหมด 18 ทีม ด้วยกันที่มาจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยเอเชีย ซีรีย์ ถือ เป็นรายการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบที่สามารถเข้าถึงเจ้ากระทิงเปลี่ยวสัญชาติอิตาลีนี้ได้อย่างแท้จริง
การแข่งขันจะเป็นดังนี้:
a. รอบฝึกซ้อม 1 รอบ (50 mn)
b. รอบคัดเลือก 1 รอบ (35 mn)
c. รอบตัดสินอย่างเป็นทางการแข่งขัน 2 รอบ (50 mn ในแต่ละรอบ) – สามารถเปลี่ยนคนขับ / เข้าพิท ได้ตั้งแต่นาทีที่ 20 ถึง นาทีที่ 30
ตารางการแข่งขัน 2012
ทดสอบอย่างเป็นทางการ 28-29 เมษายน เซปัง, มาเลเซีย
สนามแรก 26-27 พฤษภาคม เซปัง, มาเลเซีย
สนามที่ 2 14-15 กรกฎาคม ฟูจิ, ญี่ปุ่น
สนามที่ 3 18-19 สิงหาคม ออโดส, จีน
สนามที่ 4 22-23 กันยายน กวางเจา, จีน
สนามที่ 5 6-7 ตุลาคม ไทเป, ไต้หวัน
สนามที่ 6 10-11 พฤศจิกายน เซียงไฮ้, จีน
สำหรับรายละเอียดข้อมูล และรูปภาพเพิ่มเติมของซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ กรุณาเยี่ยมชม
http://ftp.supertrofeo.com
เกี่ยวกับบริษัท ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี
บริษัท ออโตโมบิลี แลมบอร์กินีก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2506 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง โบโลญญ่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก สืบเนื่องจากในปีพ.ศ. 2554 ทางแลมบอร์กินี ได้มีการจัดแสดงกระทิงเปลี่ยวรุ่น อเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 และในปีนี้ได้เปิดตัวเจ้ากระทิง URUS รถต้นแบบประเภท SUV ขันแรกของบริษัทไป ณ งาน ปักกิ่งออโต้โชว์ที่ผ่านมา ทำให้แลมบอร์กินีได้ผลิกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการซุปเปอร์คาร์ ด้วยการที่มีผู้จัดจำหน่ายทั่วโลกแล้วมากกว่า 120 ราย สำหรับบริษัท ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี ได้ผลิตรถยนต์ซุปเปอร์คาร์สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์และความสวยงาม อาทิเช่น รุ่น 350จีที, มิวร่า, เอสปาด้า, คูนทาช, ดิอาโบล, เมอร์เซลาโก, รีเวนตัน คูเป้, รีเวนตัน โรสเตอร์, กัลญาร์โด้ แอลพี 560-4 คูเป้ และ สไปเดอร์, กัลญาร์โด้ แอลพี 570-4 ซุปเปอร์เรจจิร่า และรุ่นที่เปิดตัวล่าสุดอย่าง แอลพี 570-4 สไปเดอร์ เพอร์ฟอร์มานเต้
หากต้องการรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ www.lamborghini.com
หากต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์
http://www.lamborghini.com/press
หากต้องการวีดีโอเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์
http://www.thenewsmarket.com/lamborghini
เกี่ยวกับ บลองแปง
ในปีค.ศ. 1735 Jehan-Jacques Blancpain ได้เลยประดิษฐ์นาฬิกาและได้ทำการก้อตั้งร้านบนเนื้อที่ของตระกูลเขาเองใน Villeret หมู่บ้านแห่งหนึ่งในภูเขาจูรา สวิตเซอร์แลนด์
จากประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของบลองแปง ยังคงมุ่งหน้ารักษาขีดความสามารถสำหรับความทันสมัยและยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมให้คงอยู่ ในด้านความพิถีพิถัน ในด้านการออกแบบและการผลิต หรือการผลิตสิ่งใหม่ๆ จนถึงปัจจุบันบลองแปงผลิตนาฬิกาคุณภาพมาแล้วกว่า 275 ปี และยังคงนำศิลปะในด้านการสร้างสรรค์นาฬิกามารังสรรค์ โดยตั้งแต่นาฬิการุ่นแลกจนกระทั่งปัจจุบันทุกรุ่นเกิดขึ้นมาจากโรงงาน ซึ่งบลองแปงได้ใส่ความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมผสมผสานกับความทันสมัยลงไปนาฬิกาทุกรุ่น สำหรับสิ่งสำคัญที่ทำให้บลองแปลงประสบความสำเร็จ นั่นคือทุกส่วนการผลิตมีความชำนาญเฉพาะทางในการผลิตชิ้นส่วนของนาฬิกา – เริ่มตั้งแต่การเคลื่อนไหวของนาฬิกา ไปจนถึงฟังก์ชั่นในการออกแบบ รวมทั้งวัสดุที่นำมาใช้และทุกขั้นตอนล้วนแล้วทำได้มือทั้งสิ้น
หากต้องการรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ www.blancpain.com
พิเรลลี่
หนึ่งในผู้ผลิตและจัดจำหน่ายยางรถยนต์ชั้นนำของโลก ที่จำหน่ายให้กับ ออโตโมบิลี แลมบอร์กินี พิเรลลี่ ถือ เป็นอีกหนึ่งหุ้นส่วน สำหรับ แลมบอร์กินี บลองแปง ซุปเปอร์ โทรฟิโอ เอเชีย ซีรีย์ สำหรับ พิเรลลี่ ที่ได้สร้างความสำเร็จในวงการมอเตอร์สปอร์ต ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันแรลลี่ รถสปอร์ต หรือฟอร์มูล่า วัน ทำให้พิเรลลี่ คือ ผู้นำ ทั้งอุปกรณ์ต้นฉบับ และ อะไหล่ประเภท aftermarket และมีโรงงานกว่า 24 แห่ง ใน 12 ประเทศทั่วโลก
หากต้องการรายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ http://www.pirelli.com
