– ยอดขายเพิ่มขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์เป็น 2.4 พันล้านยูโร
– EBITDA pre exceptionals เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนถึง 35 เปอร์เซ็นต์เป็น 347 ล้านยูโร
– EBITDA margin pre exceptionals เพิ่มขึ้น 14.4 เปอร์เซ็นต์
– กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (net income pre exceptionals) เพิ่มขึ้น 29 ยูโรรวมเป็น 106 ล้านยูโร
– ปรับการประมาณการผลประกอบการทั้งปี 2017 มีผลกำไรสุทธิที่สูงขึ้น : คาดการณ์ว่า EBITDA pre exceptionals อยู่ระหว่าง 1.25 – 1.3 พันล้านยูโร
กรุงเทพมหานคร, วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560 – แลนเซสส์ (LANXESS) ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สามของปี 2017 ออกมายอดเยี่ยมตามคาดการณ์ และจะเป็นปีที่บริษัทมีผลกำไรสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ยอดขายทั่วโลกในไตรมาสที่สามของปีนี้เพิ่มขึ้น 25.1 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 483 ล้านยูโร ( 18,837 ล้านบาทที่อัตราแลกเปลี่ยน 39 บาทต่อ 1 ยูโร) รวมเป็น 2.4 พันล้านยูโร ( 93,600 ล้านบาท) จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วที่ทำได้ 1.9 พันล้านยูโร ( 74,100 ล้านบาท) ไตรมาสนี้จึงมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา จากการดำเนินงานตามปกติ (EBITDA pre exceptionals) เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์เป็น 347 ล้านยูโร ( 13,533 ล้านบาท) เปรียบเทียบกับ 257 ล้านยูโร ( 10,023 ล้านบาท) ของไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ผลการดำเนินงานที่ออกมาเป็นบวกนี้เกิดจากการควบรวมกิจการของบริษัทเคมทูรา (Chemtura) ร่วมกับยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์ทั่วโลก ไตรมาสที่สามของปีนี้จึงมีสัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคา ต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติ (EBITDA margin pre exceptionals ) คิดเป็น 14.4 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำได้ 13.4 เปอร์เซ็นต์
“แลนเซสส์กำลังพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง กลยุทธ์ของเราชัดเจน มุ่งไปที่การเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์เคมีเฉพาะด้านซึ่งทำผลกำไรได้ค่อนข้างสูง และเราทำได้สำเร็จตามคาดหมาย ประกอบกับประสิทธิภาพในการทำงานของเราสูงขึ้นเช่นกันหลังจากการปรับเปลี่ยนภายใน เรารู้สึกยินดีที่ยอดขายในทุกภูมิภาคและในทุก ๆ กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีเฉพาะด้านของเราล้วนเพิ่มขึ้นและส่งผลให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน” กล่าวโดยคุณคุณแมตเธียส แซกเชิร์ต (Matthias Zachert) ประธานคณะกรรมการบริหารของ แลนเซสส์
เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเป็นกรณีพิเศษ ทำให้กำไรสุทธิมีเพียง 55 ล้านยูโร น้อยกว่า 62 ล้านยูโรที่ทำได้ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เป็นผลมาจากการเข้าซื้อโรงงานผลิตสารตั้งต้นผลิตภัณฑ์หล่อลื่น (lubricant precursors) และมีบางส่วนได้ยกเลิกการผลิตไปที่ Ankerweg ในเมือง Amsterdam (ประเทศเนเธอร์แลนด์) แต่ถ้ามองที่กำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติ (net income per exceptionals) กลับเพิ่มขึ้นถึง 37.7 เปอร์เซ็นต์เป็น 106 ล้านยูโร ( 4,134 ล้านบาท) เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วทำได้เพียง 77 ล้านยูโร ( 3,003 ล้านบาท)
หลังจากตัวเลขที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไตรมาสที่สาม ประมาณการณ์ว่าผลประกอบการของทั้งกลุ่มบริษัททั้งปี 2017 จะดีขึ้นคาดว่าจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 25 ล้านยูโร ( 975 ล้านบาท) EBITDA pre exceptionals จะอยู่ระหว่าง 1.25 – 1.3 พันล้านยูโร ( 48,750 – 50,700 ล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่าตัวเลข 1.2 พันล้านยูโร ( 46,800 ล้านบาท) สูงสุดที่เคยทำได้ในปี 2012 (พ.ศ. 2555) เสียอีก
การปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง
หลังจากการซื้อกิจการโรงงานผลิต chrome chemical และ lubricant precursors บริษัทได้ประกาศนโยบายการปรับเปลี่ยนการผลักดันเฉพาะผลิตภัณฑ์หลักที่ทำกำไรได้สูงเท่านั้น โดยจะมีการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หลัก (non-core business) อย่างเช่น chlorine dioxide disinfectant solutions ให้แก่ the Canadian Superior Plus Corp. โดยธุรกิจ chlorine dioxide นี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ North Kingtown ประเทศสหรัฐ ฯ และมีพนักงาน 40 คนเป็นส่วนหนึ่งของแผนก Clean & Disinfect ที่แลนเซสส์ได้มาพร้อมการควบรวมกิจการบริษัทเคมัวร์ (Chemours) ในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ยอดขายสูงขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์
ยอดขายของ Advanced Intermediates Segment ในไตรมาสที่สาม 2017 อยู่ที่ 479 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วที่ 435 ล้านยูโร ส่วน EBITDA pre exceptionals เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นเงิน 4 ล้านยูโร ทำให้ยอดรวมเป็น 87 ล้านยูโร เทียบกับ 83 ล้านยูโรของปีที่แล้ว และ EBITDA margin pre exceptionals เป็น 18.2 เปอร์เซ็นต์เทียบกับปีที่แล้วที่ 19.1 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกัน
ยอดขายของ Specialty Additives ซึ่งเป็นแผนกใหม่สูงขึ้นโด่งถึง 124 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 256 ล้านยูโรรวมเป็น 478 ล้านยูโร จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วทำได้ 213 ล้านยูโร ส่วน EBITDA pre exceptionals เพิ่มขึ้นเกือบ 120 เปอร์เซ็นต์เป็นเงิน 42 ล้านยูโร ทำให้ยอดรวมเป็น 77 ล้านยูโร เทียบกับ 35 ล้านยูโรของปีที่แล้ว กำไรที่เพิ่มขึ้นนี้ผลส่วนใหญ่มาจากการควบรวมธุรกิจ additives ของบริษัทเคมทูร่า แต่ EBITDA margin pre exceptionals กลับเป็น 16.1 เปอร์เซ็นต์ลดลงนิดหน่อยจากปีที่แล้วที่ทำได้ 16.4 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกัน
ยอดขายของ Performance Chemicals สูงขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 36 ล้านยูโรรวมเป็น 364 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วทำได้ 328 ล้านยูโร ส่วน EBITDA pre exceptionals เพิ่มขึ้น 16.1 เปอร์เซ็นต์หรือ 9 ล้านยูโร ทำให้ยอดรวมเป็น 65 ล้านยูโร เทียบกับ 56 ล้านยูโรของปีที่แล้ว ทุกผลิตภัณฑ์มียอดขายเพิ่มขึ้น รวมทั้งแผนก Clean & Disinfect ที่พึ่งควบรวมกิจการมาในปีที่แล้วซึ่งทำกำไรได้ดีมาก ทำให้ EBITDA margin pre exceptionals เป็น 17.9 เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 17.1 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกัน
ยอดขายของ Engineering Materials สูงขึ้น 36.6 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 94 ล้านยูโรรวมเป็น 351 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วทำได้ 257 ล้านยูโร ส่วน EBITDA pre exceptionals เพิ่มขึ้น 52.4 เปอร์เซ็นต์หรือ 22 ล้านยูโร ทำให้ยอดรวมเป็น 64 ล้านยูโร เทียบกับ 42 ล้านยูโรของปีที่แล้ว ทุกผลิตภัณฑ์มียอดขายและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น รวมทั้งธุรกิจ urethane ที่พึ่งควบรวมกิจการมาจากเคมทูร่าซึ่งทำกำไรได้สูงสุด ทำให้ EBITDA margin pre exceptionals เป็น 18.2 เปอร์เซ็นต์เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ทำได้ 16.3 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกัน
และยอดขายของ ARLANXEO สูงขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์หรือเพิ่มขึ้นอีก 42 ล้านยูโรรวมเป็น 717 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วทำได้ 675 ล้านยูโร ส่วน EBITDA pre exceptionals ลดลง 17 เปอร์เซ็นต์หรือ 15 ล้านยูโร ทำให้ยอดรวมเหลือ 76 ล้านยูโร เทียบกับ 91 ล้านยูโรของปีที่แล้ว กำไรลดลงเพราะราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นและการอ่อนค่ของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ฯ เทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ทำให้ EBITDA margin pre exceptionals ลดลงเหลือ 10.6 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้วที่ทำได้ 13.5 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกัน
Home ธุรกิจ|ตลาด|โฆษณา|อุตสาหกรรม แลนเซสส์ (LANXESS) ยังคงมีผลประกอบการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 ของปี 2017