แมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ควบรวมกิจการกับ สตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เวิลด์ไวด์

0
511
image_pdfimage_printPrint

Marriott-International1

แมริออท อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ (NASDAQ: MAR) ได้ควบรวมกิจการกับสตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เวิลด์ไวด์ เป็นผลสำเร็จ และกลายเป็นบริษัทการโรงแรมที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก ขณะนี้แมริออทนำเสนอที่พักที่ครอบคลุมหลากหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำ แบรนด์ที่ครอบคลุมทุกมุมโลก และเป็นผู้นำในระดับชั้นบริการอันหรูหราและการบริการที่ได้คัดสรรมาแล้ว รวมทั้งการบริการด้านสถานที่ประชุมและรีสอร์ท เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แมริออทจะปรับเทียบสถานะของแมริออทรีวอร์ด (Marriott Rewards) ทั้งหมด ซึ่งได้แก่ ริทซ์คาร์ลตันรีวอร์ด (Ritz Carlton Rewards) และสตาร์วูด พรีเฟอร์เกสต์ (Starwood Preferred Guest(R), SPG(R)) ทั่วทุกโปรแกรม ช่วยให้สมาชิกสามารถโอนคะแนนระหว่างโปรแกรมสำหรับการเดินทางและประสบการณ์สุดพิเศษ เมื่อสมาชิกเชื่อมโยงบัญชีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ( ลิงก์ไปยังข่าวประชาสัมพันธ์ )

“ตลอดระยะเวลา 90 ปีของเรา เราไม่เคยหยุดแสวงหาแนวทางใหม่ ๆ ในการให้บริการแขกของเรา ด้วยแบรนด์จากกลุ่มสตาร์วูดที่แข็งแกร่ง ที่พักที่เป็นเลิศและพนักงานที่มีความสามารถ ในครั้งนี้ ถือว่าเราได้ขยายขีดความสามารถในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา เรายังได้เปิดโอกาสอันมหาศาลในฐานะบริษัทการโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในการเป็นผู้ให้บริการที่ดีที่สุดระดับโลก จัดสรรโอกาสให้พนักงานและสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนที่เราเรียกว่าบ้าน” J.W. Marriott, Jr. ประธานบริหาร และประธานกรรมการของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

“เราเชื่อว่าในขณะนี้แมริออทเป็นแบรนด์โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในโลก และมีโปรแกรมส่งเสริมการเป็นสมาชิกของลูกค้า ส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับแขกของเรา การรวมแบรนด์ของเราเข้ากับแบรนด์ของสตาร์วูดช่วยให้แมริออทบรรลุเป้าหมายในการมีแบรนด์ที่ ใช่ ในสถานที่ที่ ใช่ เพื่อให้บริการแขกประจำและต้อนรับแขกใหม่ ๆ ของเรา” นายอาร์นี โซเรนเซ่น ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “เราสามารถจัดสรรตัวเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นให้กับแขกของเรา โอกาสที่ดียิ่งขึ้นให้แก่พนักงาน และสิทธิประโยชน์ทางการเงินที่มากขึ้นให้กับเจ้าของ เจ้าของแฟรนไชส์ และผู้ถือหุ้นของเรา”

บริษัทใหม่จะดำเนินกิจการหรือบริหารแฟรนไชส์ให้กับที่พัก 5,700 แห่ง และห้องพัก 1.1 ล้านห้อง เป็นตัวแทนแบรนด์ชั้นนำ 30 แบรนด์ ตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับหรูหราในกว่า 110 ประเทศ ด้วยความสำเร็จในการควบรวมกิจการ การขยายตัวของแมริออทจะมากเป็นสองเท่าในเอเชียและตะวันออกกลาง

โปรแกรม ลอยัลตี้ ของลูกค้าที่ดีที่สุด

แมริออทรีวอร์ด ซึ่งได้แก่ ริทซ์คาร์ลตันรีวอร์ด และ SPG เป็นโปรแกรมลอยัลตี้ของลูกค้าที่ได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลสูงสุดในอุตสาหกรรมการโรงแรม เมื่อนำมารวมกัน โปรแกรมนี้จะนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้นแก่สมาชิก เมื่อพวกเขาเชื่อมโยงบัญชีเข้าด้วยกัน รวมทั้งจุดหมายปลายทางใหม่ๆอย่าง อารูบา เซอชิโอของทัสคานี อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ในแอฟริกาใต้ สำหรับสมาชิก SPG ตลอดจนมัลดีฟส์ โบราโบรา และซานโตรินีในกรีซ สำหรับสมาชิกแมริออทรีวอร์ดและริทซ์คาร์ลตันรีวอร์ด

“แมริออทจะเลือกสรรข้อเสนอที่ดีที่สุดจากแต่ละโปรแกรม และเราตื่นเต้นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอโปรแกรมเหล่านี้ให้กับสมาชิกประจำ โดยนำความสามารถและสิทธิประโยชน์จากแมริออทและ Starwood มารวมกัน” Stephanie Linnartz รองประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ทั่วโลก กล่าว

แมริออทจะเปิดตัวไมโครไซต์ภายในวันนี้ www.members.marriott.com เพื่อให้สมาชิกลอยัลตี้โปรแกรมทั้งหมดของบริษัทที่ควบรวมกิจการแล้วนี้ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่มีให้บริการ และเชื่อมโยงบัญชี

สมาชิกใหม่ในคณะกรรมการบริหารและข้อมูลหุ้น

คณะกรรมการบริหารของแมริออทมีสมาชิกเพิ่มจาก 11 คน เป็น 14 คนโดยมีผลในวันนี้ โดยได้เพิ่ม Bruce Duncan อดีตประธานคณะกรรมการบริหารของสตาร์วูด โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท เวิลด์ไวด์ และประธานกรรมการ ซีอีโอ และผู้อำนวยการของ First Industrial Real Estate Trust, Inc. กรรมการใหม่อีกสองคนได้แก่ Eric Hippeau หุ้นส่วนของ Lerer Hippeau Ventures และ Aylwin Lewis ประธานและซีอีโอของ Potbelly Corporation สำหรับ Hippeau และ Lewis ทั้งคู่ยังเป็นอดีตสมาชิกในคณะกรรมการบริหารของ Starwood อีกด้วย สามารถรับชมประวัติฉบับเต็มของกรรมการใหม่ทั้งสามคนนี้ได้ที่ www.Marriott.com/investor

ก่อนที่ตลาดจะเปิดในวันนี้ หุ้นของ Starwood จะหยุดซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก โดยตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นของ Starwood จะได้รับเงินสด 21 ดอลลาร์และหุ้นสามัญ Class A ของแมริออท อินเตอร์เนชันแนล อิงค์ คิดเป็นมูลค่า 0.80 ของหุ้นดังกล่าวสำหรับหุ้นสามัญแต่ละหุ้นของ Starwood Hotels & Resorts Worldwide, Inc.

ประโยชน์จากธุรกรรมการควบรวมกิจการ

การเข้าควบรวมกิจการ สตาร์วูด ของแมริออททำให้บริษัทสามารถขยายการจัดจำหน่ายและกลุ่มสินทรัพย์ลงทุนไปพร้อมๆ กับการดำเนินการในสเกลที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรับรู้การประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานขององค์กรและสถานประกอบการของตน ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ แมริออทมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถลดต้นทุนได้ 250 ล้านดอลลาร์ต่อปีจากการดำเนินงานร่วมกัน การดำเนินงานร่วมกันอื่นๆ จะอยู่ในรูปแบบของการใช้ประโยชน์จากการปฏิบัติงานและการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดซึ่งกันและกัน ทักษะความเชี่ยวชาญในการขายและการครอบคลุมลูกค้าที่ผสานเข้าด้วยกันนี้คาดว่าจะทำให้บริษัทมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

“ประสิทธิภาพและโอกาสในการสร้างรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรในระดับสถานประกอบการมากขึ้น ตลอดจนสร้างความพอใจให้แก่เจ้าของธุรกิจและแฟรนไชส์ซีได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาใหม่ๆ สำหรับโรงแรม” โซเรนเซ่น กล่าว “ในขณะที่จุดหมายปลายทางใหม่ๆ ในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เชื่อได้ว่าแมริออทจะพร้อมรับมือได้เป็นอย่างดี”

สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการทำธุรกรรมควบรวมกิจการแบบครั้งเดียวคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 140 ล้านดอลลาร์ แมริออทตั้งใจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการทำให้หนี้สาธารณะที่คงค้างของสตาร์วูดอยู่ในระดับเท่ากับหนี้สาธารณะที่คงค้างของแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ภายในสิ้นปี 2559 แมริออทยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาอันดับความน่าเชื่อถือให้อยู่ในกลุ่มอันดับเครดิตที่ลงทุนได้และจัดการงบดุลโดยใช้นโยบายระมัดระวังหลังการควบรวมกิจการ

นายอาร์นี โซเรนเซ่น จะยังคงเป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแมริออท อินเตอร์เนชันแนล และสำนักงานใหญ่ของแมริออทจะยังคงอยู่ที่เบเธสดาในรัฐแมริแลนด์ต่อไป