เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย โชว์ฟอร์มผลประกอบการปี 57 ยอดเยี่ยม กวาดเบี้ยประกันภัยทะลุกว่า 3,600 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าปี 58 เติบโต 10%
เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยปลื้มผลประกอบการปี 57 วิ่งฉิวเติบโต 6.5% สร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,627 ล้านบาท โกยกำไรสุทธิกว่า 240 ล้านบาท ลั่นสิ้นปี 58 ขอโตต่อเนื่องลุยทุกช่องทางการขาย พร้อมผลักดัน ‘MSIG iAPP’ แอพพลิเคชั่นตัวช่วยลูกค้า ซื้อ-เคลม-จ่ายเงินออนไลน์ครบวงจร พร้อมเปิดตัว MSIG In-House Motor Surveyor บริการสำรวจอุบัติเหตุรถยนต์ระดับมาตรฐานของเอ็ม เอส ไอ จี เน้นชูจุดเด่นคุณภาพบริการที่เหนือกว่า เผยสิ้นไตรมาส 4 เปิดตัวครอบคลุมทุกหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
นายรัฐพล กิติศักดิ์ไชยกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลประกอบการประจำปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ว่า “เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 3,627 ล้านบาท โดยจำแนกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 59% ประกันภัยเบ็ดเตล็ด 25% ประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเล 13% และประกันอัคคีภัย 3% เราค่อนข้างพอใจกับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา เพราะเติบโตเกินกว่าเป้าหมาย โดยเราตั้งไว้อยู่ที่ 4% ซึ่งเป็นการตั้งเป้าหมายจากการประเมินภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเราเติบโตถึง 6.5% สูงกว่าการเติบโตโดยรวมของตลาดประกันวินาศภัย ซึ่งหากแยกตามประเภทการประกันภัย จะพบว่าประกันภัยรถยนต์เติบโตเพิ่มขึ้น 20% ประกันภัยขนส่งสินค้าทางทะเลเติบโต 8% ประกันภัยอุบัติเหตุเติบโตลดลง 1% ประกันภัยอัคคีภัยเติบโตลดลง 7% ประกันภัยเบ็ดเตล็ดเติบโตลดลง 20%”
“ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่ดีของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย เพราะเราได้รับการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากคู่ค้าทางธุรกิจผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะช่องทางตัวแทนที่มีการเติบโตในส่วนของเบี้ยประกันภัย 22%และช่องทางบริษัทนายหน้า 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ในส่วนผลประกอบการอื่นๆ เรามีกำไรจากการรับประกันภัย 240.8 ล้านบาท กำไรจากการลงทุน 81.2 ล้านบาท และบริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 241.4 ล้านบาทหลังหักภาษี นอกจากนี้ เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยยังมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 351% ซึ่งมากกว่าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) กำหนดไว้ถึง 3.5 เท่า”
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2558 นายรัฐพลกล่าวต่อว่า “สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2558 บริษัทฯตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตที่ 10% หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,000 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายบุคคล 80% ผ่านช่องทางสาขาที่เรามีครอบคลุมทั่วประเทศ และการขายออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีอัตราการเติบโตค่อนข้างดี และสะดวกสบาย สอดรับกับพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ส่วนอีก 20% มาจากกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายบรรษัท ซึ่งเป็นงานมาจากธุรกิจบริษัทนายหน้าและตัวแทนเป็นหลัก”
“ในปี 2558 เราวางแผนที่จะรุกลูกค้ารายบุคคลเต็มที่ โดยเจาะช่องทางสาขาที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน 20 สาขา รวมถึงที่จะเปิดใหม่ในปีนี้อีกหลายแห่ง นอกจากนี้เราพร้อมแข่งขันในตลาดออนไลน์อย่างเต็มที่ เนื่องจากปัจจุบันช่องทางนี้มีโอกาสการเติบโตค่อนข้างสูง และเข้าถึงลูกค้าได้ง่าย โดยเราจะผลักดันให้ลูกค้าหันมาใช้บริการ MSIG iAPP มากขึ้น เนื่องจากแอพพลิเคชั่นผู้ช่วยตัวนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ทั้งในการซื้อและจ่ายเบี้ยประกันภัยออนไลน์ โดยเฉพาะประกันภัยการเดินทาง ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ 3+ และพรบ. พร้อมแจ้งเคลมสินไหมรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งหาศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ อู่ซ่อม รวมถึงโรงพยาบาลในเครือของเอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยได้อย่างง่ายดาย”
นายรัฐพล กล่าวอีกว่า “เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยยังมีแผนที่จะสร้างความเชื่อมั่นโดยการชูจุดเด่นด้านการบริการหลังการขายเป็นหลัก ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่คือ Business & Customer Solution Center เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อรับผิดชอบดูแลงานด้านบริการลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว เนื่องจากเราต้องการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและติดต่อบริษัทฯ ได้ทันที ไม่เพียงเท่านั้น เรายังได้เปิดฝ่ายบริการสินไหมรถยนต์ที่สถานที่เกิดเหตุของตัวเองขึ้น หรือ MSIG In- House Motor Surveyor เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า และช่วยให้บริษัทฯ สามารถควบคุมคุณภาพการสำรวจอุบัติเหตุได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที อันเป็นการสร้างมาตรฐานในการบริการด้านการเคลมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน MSIG In-House Motor Surveyor เริ่มให้บริการสำรวจอุบัติเหตุรถยนต์ที่สถานที่เกิดเหตุให้แก่ลูกค้าแล้ว โดยให้บริการครอบคุลมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในในไตรมาส 1-2 แต่อย่างไรก็ตาม ตามแผนงานที่ตั้งไว้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 จะขยายการให้บริการ MSIG In-House Motor Surveyor ครอบคุลมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนในไตรมาสที่ 4 จะสามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมตามจังหวัดใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ”
ในส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมประกันภัยประจำปี 2558 นายรัฐพลได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับแนวโน้มของอุตสาหกรรมประกันภัยในปี 2558 ผมมองว่าตลาดประกันภัยจะเติบโตประมาณ 9% ตามที่คปภ. ได้คาดการณ์ไว้ หรือประมาณ 2 เท่าของ GDP โดยรวมของประเทศ โดยมีปัจจัยหลักมาจากตลาดรถยนต์ที่อาจจะมีการปรับตัวดีขึ้น การเปิดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) รวมไปถึงด้านกำลังการซื้อที่จะฟื้นตัวตามแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งตัวแปรเหล่านี้จะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยให้เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้”
เกี่ยวกับ บมจ.เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย)
บริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทประกันวินาศภัยชั้นนำในประเทศไทย ที่ให้บริการรับประกันวินาศภัย เช่น รถยนต์ อุบัติเหตุส่วนบุคคล อัคคีภัย บ้านและทรัพย์สิน ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก ประกันภัยขนส่งทางทะเลและอากาศ และอื่น ๆ มากกว่า 100 ปี โดยมีเบี้ยประกันภัยรับมากกว่าปีละ 3,600 ล้านบาท บริษัทฯ พร้อมให้บริการด้วยบุคคลากรกว่า 600 คน และมีสาขา 20 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศ