1

เอาท์ซิสเต็มส์เปิดตัวชุดความสามารถเอไอใหม่ หนุนการพัฒนาแอพอัจฉริยะในเอเชียแปซิฟิก

– ผู้นำตลาดการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ low-code ทำให้การรวมเอไอในแอปพลิเคชันเป็นเรื่องง่าย เพื่อมอบประสบการณ์ที่ก้าวล้ำไปอีกขั้นแก่ลูกค้า

เอาท์ซิสเต็มส์ (OutSystems) ประกาศยกระดับแพลตฟอร์มการพัฒนาแบบ low-code ของบริษัท (low-code development platform) ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถใหม่ๆ ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง เพื่อเสริมศักยภาพให้องค์กรต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกสามารถใช้ประโยชน์จากระบบอัตโนมัติในการสร้างพอร์ทัลบริการตนเอง การตอบข้อความอักษรและข้อความเสียง การปรับปรุงบริการลูกค้า และอีกมากมาย

การ์ตเนอร์คาดการณ์ว่า “ภายในปี 2563 ลูกค้า 85 เปอร์เซ็นต์จะสามารถติดต่อสื่อสารกับองค์กรได้โดยไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์” ปัจจุบันองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจึงต่างคาดหวังถึงการประสานงานที่ดีขึ้นระหว่างเอไอกับประสบการณ์ลูกค้า เมื่อพิจารณาจากขีดความสามารถของเอไอในการยกระดับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าผ่านทางข้อมูล

ด้วยชุดความสามารถเอไอใหม่ของเอาท์ซิสเต็มส์ ทำให้ปัจจุบันเหล่านักพัฒนาสามารถรวมช่องทางใหม่ๆ ในการสร้างการมีส่วนร่วมและความผูกพันกับลูกค้าไว้ในแอพของตนเอง เพื่อให้ลูกค้าและผู้ใช้งานเข้าถึงความช่วยเหลือและข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา ขีดความสามารถเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถสร้างฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียงเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว (virtual assistant) แบบเดียวกับกูเกิล, สิริ และอเล็กซา รวมถึงแชทบอทที่สนับสนุนเฟซบุ๊กแมสเสนเจอร์, คอร์ทานา, สไกป์ และอีกมากมาย โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล หรือทักษะความเชี่ยวชาญภายในองค์กรแต่อย่างใด

จากข้อมูลของการ์ตเนอร์นั้น การใช้เอไอเติบโตขึ้นสามเท่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่กลับมีองค์กรเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่นำเอไอมาใช้งานจริงในบางรูปแบบ

มิสเตอร์ แอนโทนิโอ อัลจิเรีย หัวหน้าฝ่ายปัญญาประดิษฐ์ของเอาท์ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “ชุดความสามารถขั้นสูงใหม่นี้รวมทุกสิ่งที่องค์กรต้องการสำหรับการนำไปใช้งานอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ต้นจนจบ และจะส่งผลให้มีบริษัทจำนวนมากขึ้นหันมาใช้เอไอและแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางธุรกิจ” และเสริมว่า “การรวมตัวกันของ low-code และเอไอจะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถรับมือกับปัญหาการขาดแคลนทักษะ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ฉุดรั้งการเติบโตของบริษัทเหล่านี้”

รายงานสถานการณ์การพัฒนาแอปพลิเคชัน (State of Application Development Report) ประจำปี 2562 เผยให้เห็นว่า มีองค์กรในเอเชียแปซิฟิกเพียง 36% ที่ขยายทีมพัฒนาแอปพลิเคชันจากปีก่อน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ AI/ML ติดอันดับตำแหน่งงานที่หายากที่สุดในภูมิภาคนี้

“การเปิดตัวชุดความสามารถเอไอใหม่ของเอาท์ซิสเต็มส์นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพของเอไอในการปฏิวัติการพัฒนาซอฟต์แวร์ ด้วยรูปแบบการใช้งานที่ขยายวงกว้างมากขึ้น จากการทดสอบและการแก้จุดบกพร่องหรือดีบั๊ก ไปสู่สถาปัตยกรรม ประสบการณ์ผู้ใช้ และการพัฒนาอัตโนมัติ ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งของเราในการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่หลากหลายในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่น การตอบสนองที่ดี และการส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้าได้เร็วขึ้น ถือเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของธุรกิจในภูมิภาคนี้” Mark Weaser รองประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเอาท์ซิสเต็มส์ กล่าว

ปีที่แล้วเอาท์ซิสเต็มส์ได้เปิดตัว outsystems.ai ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนของการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์องค์กร ด้วยการศึกษาวิจัยการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยใช้เอไอช่วย และตั้งแต่ที่เริ่มโปรแกรมดังกล่าว เอาท์ซิสเต็มส์มองเห็นการตอบรับที่น่าพอใจในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า องค์กรต่างๆ ในภูมิภาคนี้หันมาใช้ประโยชน์จากการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอกันมากขึ้น เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ และสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชุดความสามารถเอไอใหม่ของเอาท์ซิสเต็มส์ สามารถอ่านรายละเอียดทั้งหมดได้จากบทความ https://www.outsystems.com/blog/posts/ai-for-apps/ หรือเข้าชมเพจปัญญาประดิษฐ์ของเราที่ https://www.outsystems.com/ai/

เกี่ยวกับ เอาท์ซิสเต็มส์ – ลูกค้าหลายพันรายจากทั่วโลกให้ความไว้วางใจเอาท์ซิสเต็มส์ แพลตฟอร์มการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ low code อันดับหนึ่งที่ช่วยให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างรวดเร็ว ทีมวิศวกรที่พิถีพิถันเป็นผู้รังสรรค์ทุกรายละเอียดของแพลตฟอร์มเอาท์ซิสเต็มส์เพื่อช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ในการสร้างแอพระดับองค์กร และช่วยให้การพลิกโฉมธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เอาท์ซิสเต็มส์เป็นโซลูชั่นหนึ่งเดียวที่ผนวกพลังในการพัฒนาแบบ low code เข้ากับประสิทธิภาพสุดล้ำของโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานร่วมกับระบบต่างๆ ที่มีอยู่เดิมได้อย่างง่ายดาย รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.outsystems.com หรือติดตามเราได้ทางทวิตเตอร์ @OutSystems หรือลิงก์อิน https://www.linkedin.com/company/outsystems