เอสไอเอส ร่วมมือกับ อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม เปิดธุรกิจ “คลาวด์เซอร์วิส” ตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดคลาวด์ในประเทศภายใน 3 ปี

0
356
image_pdfimage_printPrint

เน้นจุดแข็งด้านการ customize ให้องค์กรสามารถปรับแต่งระบบคลาวด์ได้ด้วยตนเอง
ชูความต่างโมเดลธุรกิจ นำเสนอโซลูชั่นและบริการผ่านคู่ค้ากว่า 2,000 รายที่เน้นตลาดองค์กร

บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีสำหรับองค์กร และบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคและดาต้าเซ็นเตอร์ แนะนำบริการ “SiS Cloud Services” เพื่อรุกตลาดพับลิคคลาวด์ในประเทศไทย หวังเจาะ 5 กลุ่มองค์กรธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (Property), กลุ่มค้าปลีกที่มีเครือข่ายสาขา (Retail), กลุ่มประกันภัย (Insurance), กลุ่มหน่วยงานหรือองค์กรภาครัฐ (Government Agency) และกลุ่มบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อิสระ (Independent Software Vendor หรือ ISV) ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอบริการคลาวด์เซอร์วิสที่เน้นให้ลูกค้าสามารถ customize ระบบคลาวด์ได้ด้วยตนเอง มีทีมงานที่ผ่านการยอมรับด้านเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีชั้นนำ โดยเปิดให้บริการกับลูกค้าองค์กรไปแล้วมากกว่า 30 ราย ซึ่งเป็นการให้บริการผ่านคู่ค้าทั้งหมด พร้อมก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดพับลิคคลาวด์ในประเทศไทยภายใน 3 ปี

นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ข้อมูลจาก IDC คาดการณ์ว่าภายในปีนี้ ทั่วโลกจะมีมูลค่าการใช้จ่ายพับลิคคลาวด์สูงราว 160,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 5 ล้านล้านบาท) เติบโตขึ้น 23.2% จากปี 2560 สำหรับในไทยตลาดคลาวด์และดาต้าเซ็นเตอร์เติบโตราว 35% จากปีที่แล้ว โดยองค์กรธุรกิจมองหาผู้ให้บริการที่มีทีมงานมากประสบการณ์และมีดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ เพื่อความคล่องตัวและง่ายในการบริหารจัดการและตรงกับกฎระเบียบต่างๆ โดยเอสไอเอสในวันนี้จากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในธุรกิจค้าส่งสินค้าไอทีสำหรับองค์กรที่หลากหลาย ทำให้เรามีความแข็งแกร่งด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี เรามีพันธมิตรระดับโลกที่เป็นผู้นำทั้งด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับคลาวด์ และพันธมิตรที่สำคัญในประเทศไทยคือ บริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคและดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศ”

“ปัจจุบันเราเปิดให้บริการคลาวด์เซอร์วิสแก่องค์กรธุรกิจไปแล้วมากกว่า 30 ราย ซึ่งเป็นการให้บริการผ่านคู่ค้าทั้งหมดด้วยความแข็งแกร่งของเอสไอเอสและอินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม ผมมั่นใจว่าบริการและโซลูชั่นคลาวด์ที่เรานำเสนอวันนี้สามารถตอบโจทย์ทั้งในเรื่องราคาที่คุ้มค่าและสามารถแข่งขันได้ รวมถึงอิสระในการจัดการระบบคลาวด์ และได้มาตรฐานในระดับสากล” นายสมชัยกล่าวเสริม

นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ITEL กล่าวว่า “ดิจิทัล ดิสรัปชั่น วันนี้ได้พลิกโฉมการทำธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง ผลการศึกษา Evolution เมื่อปี 2560 จาก Pure Storage เผยว่า 66% ของธุรกิจในไทยมีแผนที่จะใช้งานบริการคลาวด์สาธารณะมากขึ้นใน 18-24 เดือนข้างหน้า นอกจากคลาวด์ที่เป็นแพลตฟอร์มสำคัญในการเสริมศักยภาพการทำธุรกิจยุคใหม่แล้ว แหล่งเก็บข้อมูลบนคลาวด์อย่างดาต้าเซ็นเตอร์นั้นถือว่ามีบทบาทสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ตั้งแต่เราเริ่มธุรกิจนี้ปัจจุบันเราลงทุนด้านดาต้าเซ็นเตอร์ไปแล้วสองแห่ง และความร่วมมือกับเอสไอเอสในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่สามารถช่วยยกระดับการบริหารจัดการคลาวด์ขององค์กรธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น บริษัทฯ ใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสองแห่งเพื่อจัดเก็บข้อมูลลูกค้าของเอสไอเอส ทั้ง Interlink Data Center ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็น Data Center โดยเฉพาะ ก่อสร้างตามข้อกำหนดของดาต้าเซ็นเตอร์ ประเภท TIER 3 ได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน ISO9001:2008 , ISO27001 และ Genesis Data Center ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากลทั้ง PCI, ISO/IEC27001:2013 และการรับรอง TIER 3 จาก Uptime Institute ทั้งในส่วนงานด้านการออกแบบ (Design Documents) และด้านการก่อสร้าง (Constructed Facility) ถึง 4 มาตรฐานที่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ทำให้ศูนย์รับฝากข้อมูลของเรามีเสถียรภาพและความปลอดภัยสูง สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและใช้ค่าใช้จ่ายโดยรวมในการบริหารจัดการด้านการดำเนินธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าองค์กรธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าที่นี่เป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย”

นายพันธนา ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้จัดการทั่วไป แผนกคลาวด์ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “คลาวด์ เซอร์วิสของเอสไอเอสมีความเหนือชั้น เพราะเป็นผู้ให้บริการในประเทศ และดาต้าเซ็นเตอร์อยู่ในประเทศ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงเพื่อแก้ไข ทดลองและปรับแต่งได้ โดยเราเน้นเรื่องความยืดหยุ่นในการปรับแต่งบริการต่างๆ ให้เข้ากับลูกค้าแต่ละรายเป็นหลัก รวมทั้งสามารถเป็นไปตามกฎระเบียบต่างๆ ได้ อาทิ ภาคการเงินที่กำหนดว่าดาต้าเซ็นเตอร์ต้องอยู่ในประเทศเท่านั้น ที่สำคัญคือ การที่เราใช้ดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศทำให้มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เหนือกว่าผู้ให้บริการต่างประเทศ และการที่เรามีพันธมิตรเป็นบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม ทำให้เราสามารถให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติคความเร็วสูงเชื่อมต่อลูกค้าทั่วประเทศเข้ากับคลาวด์ได้ ในขณะนี้เรามีการเปิดให้บริการ 6 รูปแบบ ประกอบด้วย
● Data Center On Cloud (IaaS)
● Disaster Recovery to Cloud (DRaaS)
● Backup to Cloud (BaaS)
● Container on Cloud (PaaS)
● Virtual Desktop on Cloud
● ERP on Cloud Powered by SAP B1

เรามีพันธมิตรที่เป็นคู่ค้ากว่า 2,000 ราย ที่มีความรู้ความชำนาญ นอกเหนือจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของเราเอง ซึ่งเราเน้นการให้บริการคลาวด์ทั้งหมดผ่านคู่ค้า เราใช้เทคโนโลยีชั้นนำในการให้บริการคลาวด์ อาทิ VMware, Nutanix, Veeam, Trend Micro, HPE, Fortinet, Microsoft ด้วยความเป็นเอสไอเอส เรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทำให้ลูกค้าสามารถ customize ระบบคลาวด์ตามที่ตนเองต้องการได้ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถแข่งขันและเติบโตในตลาดคลาวด์ได้คือความยืดหยุ่นการให้บริการ และโมเดลการทำธุรกิจที่เน้นการเติบโตไปด้วยกันกับเหล่าพันธมิตรที่เป็นคู่ค้า ที่สำคัญทั้งราคาและคุณสมบัติก็สามารถแข่งขันในตลาดได้ ช่วงที่ผ่านมากลุ่มองค์กรธุรกิจที่ใช้คลาวด์ของเราส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบริษัทประกันภัย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือหน่วยงานราชการโดยส่วนใหญ่แล้วลูกค้าของเรามักจะนำ Core Business Application ขององค์กร เช่น ERP มาใช้งานบนคลาวด์เนื่องจากความต้องการระบบที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและเรื่องเสถียรภาพ และผมมั่นใจว่าจะเราจะสามารถขยายบริการครอบคลุมไปยังกลุ่ม ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ (ISV) ได้มากขึ้นในปี 2562”

SiS Cloud Services ให้บริการอยู่บนศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ 2 แห่งของบริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ได้แก่ Interlink IDC และ Genesis Data Center ซึ่งผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ISO 27001:2013 และ Tier 3 Data Center โดยศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งสองแห่งมีการเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายไฟเบอร์ความเร็วสูง มีระบบรักษาความปลอดภัยครบถ้วน ได้แก่ การป้องกัน Denial-of-Service (Dos) หรือ Distributed Denial-of-Service (DDos), Web Application Firewall, IPS, Advanced Persistent Threat (APT) สามารถรองรับการสำรองและกู้คืนระบบในกรณีที่ไซต์หลักได้รับความเสียหาย เรารับรองคุณภาพบริการที่ 99.90% Monthly Uptime SLA พร้อมศูนย์บริการหลังการขายแบบ 24×7

เกี่ยวกับ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
จัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2541 เพื่อประกอบธุรกิจขายส่งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์สำนักงานอัตโนมัติต่าง ๆ และได้เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2542 โดยมีการร่วมทุนกับบริษัทฯ ในกลุ่ม SiS โดยมีนายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ และนายสมบัติ ปังศรีนนท์ เป็นหุ้นส่วนและผู้บริหาร เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2547 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ แปรสภาพเป็น บริษัทมหาชน และเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2547 บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจขายส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์ สำนักงานอัตโนมัติต่างๆ ในประเทศไทย โดยอาศัยการสนับสนุนจากกลุ่ม SiS

บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกมากกว่า 70 ราย ให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในประเทศไทย อาทิ Compaq, Acer, Hewlett Packard, Samsung, Lenovo, IBM, Toshiba, Apple, APC, Xerox, Linksys เป็นต้น โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์อยู่ทั่วประเทศมากกว่า 4,500 ราย ที่เป็นผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์ ทั้งที่เป็นร้านค้าปลีก บริษัทผู้ค้าที่จำหน่ายเข้าภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการ และผู้รับวางระบบ เป็นต้น

เกี่ยวกับ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการด้านการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างออฟฟิศสำนักงานของผู้ใช้งานและรองรับการพัฒนาและเติบโตของระบบโทรคมนาคมของประเทศไทย ซึ่งมีความต้องการระบบเครือข่ายเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลที่มีเสถียรภาพสูงและสามารถรองรับการรับ-ส่งข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ประเภทมีโครงข่ายเป็นของตนเอง จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อทำธุรกิจเป็นผู้ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง ซึ่งมีระยะเวลา 15 ปี และเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2555 บริษัทฯยังได้รับอนุญาตจากการทางรถไฟแห่งประเทศไทยให้มีสิทธิที่จะติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงไปตามเส้นทางรถไฟ เป็นระยะเวลา 30 ปี ซึ่งเป็นเส้นทางที่แตกต่างจากโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่มีอยู่เดิมของผู้ให้บริการรายอื่นๆ โดยภายหลังจากได้รับใบอนุญาตแล้ว บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงข่ายใยแก้วนำแสงซึ่งโครงข่าย ของบริษัทฯ เป็นโครงข่ายที่ผสมผสานระหว่างโครงข่ายหลักตามเส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศไทยรวมทั้งเส้นทางหลัก เส้นทางสำรองและเส้นทางย่อยตามเส้นทางถนนผ่านเสาไฟฟ้าเพื่อเชื่อมต่อเข้าถึงลูกค้า ทำให้การเชื่อมต่อข้อมูลด้วยโครงข่ายของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นโครงข่ายภาคเอกชนที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด สามารถให้บริการได้ครอบคลุมตั้งแต่ Data Services, Installation , Data Center และ Turnkey Data Center จากประสบการณ์การให้บริการด้านโทรคมนาคมมายาวนานประกอบกับเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนาแนวทางการให้บริการเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่มีโซลูชั่นที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท เอฟเอคิว จำกัด
ปิยพงษ์ มิดชิด / วีรนันท์ แหไธสง
โทร. 02-971-3711
อีเมล์ piyapong@pc-a.co.th / weeranun@pc-a.co.th