(เวียตเจ็ท, โฮจิมินห์ ซิตี้, 5 มิถุนายน 2558) เวียตเจ็ท เปิดตัวเส้นทางบินใหม่ ระหว่างเมือง โฮจิมินห์ ซิตี้ – กรุงโซล ทั้งหมด 7 ไฟล์ทไป-กลับต่อสัปดาห์ โดยเที่ยวบินปฐมฤกษ์จะออกเดินทางจากสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (Tan Son Nhat) ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 เวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ถึงสนามบินนานาชาติอินชอนเวลา 07.25 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และเดินทางกลับจากสนามบินนานาชาติอินชอน เวลา 11.20 (ตามเวลาท้องถิ่น) ถึงสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต เวลา 14.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) จากการเปิดเส้นทางบินใหม่นี้ทำให้เวียตเจ็ท มีบริการเที่ยวบินจาก กรุงโซลไปยังกรุงฮานอยและโฮจิมินห์ ซิตี้ทุกวัน ทั้งนี้เพื่อ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ ในประเทศเวียดนาม เช่น ดานัง, นาตรัง(นาตราง) และเกาะฟูก๊วก ฯลฯ ในราคาสมเหตุสมผล
พร้อมกันนี้ ทางเวียตเจ็ท ได้จัดโปรโมชั่น “It’s time to Vietjet!” ตั๋วราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 0 บาท (ไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม) จำนวนมากถึง 50,000 ที่นั่ง (เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนด) โดยจะเปิดให้สำรอง ที่นั่งตั้งแต่วันที่ 18 – 25 มิถุนายน 2558 ในช่วงเวลา 12.00 – 14.00 น.เท่านั้น (เวลาประเทศไทย) ทุกวัน หรือสำรองที่นั่งผ่านเว็บไซต์ที่ www.vietjetair.com รวมถึงสมาร์ทโฟน www.m.vietjetair.com และ www.facebook.com/vietjetvietnam (เลือกจองตั๋ว) โดยเส้นทางโฮจิมินห์ ซิตี้ – กรุงโซล จะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2558 – 27 มีนาคม 2559 และเส้นทางฮานอย-กรุงโซล จะเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2558 – 27 มีนาคม 2559 ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิตที่ได้ลงทะเบียนการใช้บริการทางอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว
นอกจากการจำหน่ายบัตรโดยสารผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว ลูกค้ายังสามารถซื้อบัตรโดยสารได้ที่สำนักงานขายบัตรโดยสารของเวียตเจ็ทและตัวแทนจำหน่ายทั่วโลก
เกี่ยวกับเวียดเจ็ท
เวียตเจ็ท เป็นสายการบินเอกชนแห่งแรกในประเทศเวียดนาม ดำเนินงานด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 และแอร์บัส A321 รวมทั้งหมด 24 ลำ ให้บริการทั้งหมด 150 เที่ยวบินต่อวัน ปัจจุบันสายการบินเวียตเจ็ทเปิดให้บริการ 30 เส้นทางบินภายในประเทศ และระหว่างประเทศในภูมิภาค ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย เกาหลีใต้ ไต้หวันและกัมพูชา ด้วยจำนวนผู้โดยสารสูงถึง 12 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี
ทั้งนี้ เวียตเจ็ทพร้อมที่จะเดินหน้าตามแผนการขยายเครือข่ายการบินให้ครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงยุโรป ด้วยการเดินหน้าเซ็นต์สัญญาซื้อขายเครื่องบินลำใหม่ที่ทันสมัยกับผู้ผลิตเครื่องบินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกด้วย