เวทีอึด ฮึด ฟัง ส่งท้ายข้อสรุปการเมืองไทยก้าวไปทางไหน

0
290
image_pdfimage_printPrint

 

สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวทีสันติประชาธิปไตย (เวทีอึด ฮึด ฟัง) ในวันพุธที่ 19 ธันวาคม 2555 ณ ห้องคริสตัล ชั้น 3 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค โดยเป็นเวทีสันติฯ ครั้งสุดท้ายของกลุ่มสันติประชาธิปไตย โดยคณะทำงานนำเสนอข้อค้นพบ ข้อเสนอแนะ ข้อสรุปของโครงการฯ และการสานเสวนาอึด ฮึด ฟัง โดยจากการขับเคลื่อนและจัดเวทีระดับชาติและระดับภูมิภาคที่ผ่านมาตลอดทั้งปี พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการก้าวข้ามความขัดแย้ง ให้สังคมมีความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ผู้บริหารยึดหลักธรรมาภิบาล และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง อีกทั้งเพิ่มการศึกษาของพลเมือง เพื่อวางกลไกให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมกับรัฐธรรมนูญมากขึ้น

 

ประเด็นสำคัญทางการเมืองที่ทางโครงการร่วมกันถกแถลงและขับเคลื่อน ประกอบด้วย 4 ประเด็นหลัก ดังนี้

  1. ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
  2. รัฐธรรมนูญ
  3. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
  4. การศึกษาของพลเมือง

 

ทั้งนี้จากการถกแถลงในเวทีต่างๆ ทั้งในระดับจังหวัด ระดับภูมิภาค และส่วนกลาง พบว่ามีลักษณะที่เชื่อมโยงและคล้ายคลึงกัน โดยต่างให้ความสำคัญในลักษณะพื้นฐาน ดังนี้

  1. ส่งเสริมการขับเคลื่อนของท้องถิ่น  (Localization) โดยไม่ละเลยความคิดแบบโลกาภิวัฒน์ (Globalization)
  2. ส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นในรูปแบบจังหวัดจัดการตนเอง โดยให้ความเคารพในเรื่องพหุวัฒนธรรม
  3. ยึดหลักธรรมาภิบาล สร้างความเป็นธรรม ต่อต้านทุจริตคอรัปชั่น และการรัฐประหาร
  4. สามารถวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาในรัฐธรรมนูญและแก้ไขได้ตามยุคสมัย
  5. สร้างพื้นที่สื่อสารให้สังคมเข้าใจ โดยมีการปฏิรูปสื่อให้นำเสนอความจริงสู่สังคม

 

นอกจากนี้ เวทีสันติฯ ระดับภูมิภาคได้มุ่งพิจารณาประเด็นท้องถิ่น เช่น การกระจายอำนาจ ความเป็นธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ หรือประเด็นความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้

 

กลุ่มสันติประชาธิปไตยยังได้สรุปว่า ในส่วนของกระบวนการแก้ปัญหาควรมีโครงสร้างที่เป็นเครือข่ายแกนกลาง อาจเป็นตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ เป็นแกนผูกร้อยให้กลไกการแก้ปัญหาดำเนินไปได้ และจะมีข้อตกลงร่วมกันของกลุ่มสันติประชาธิปไตย เพื่อผลักดันให้เป็นนโยบายสาธารณะ ที่จะร่วมกันแสวงหาทางออกให้กับสังคมไทย

 

ในช่วงอภิปรายเรื่อง “บริบทของงานสันติประชาธิปไตยในอนาคต : การเมืองไทยจะก้าวไปทางไหน” ได้ รศ.ดร.โสรัจจ์ หงศ์ลดารมภ์ อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ ดร.เจษฎ์ โทณวณิก ผู้อำนวยการบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสยาม ร่วมอภิปราย รศ.ดร.โสรัจจ์ กล่าว “สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ หนีไม่พ้นการแก้เรื่องรัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่าจะสำเร็จ แต่อาจไม่ใช่ภายในปี 2556 เพราะมีแรงต้านพอสมควร คิดว่าโอกาสจะอยู่ภายในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเนื้อหาที่เปลี่ยนเชื่อได้ว่า จะเลิกมาตราที่ว่าด้วยเรื่องยุบพรรค ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ส่วนใหญ่จะกลับไปคล้ายๆ ปี 2540 และคงบทบัญญัติที่เกี่ยวกับวาระของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถเป็นได้เกิน 2 วาระ และหากมองระยะยาว เห็นว่า ความแตกต่างระหว่างเสื้อเหลือ-แดง ยังจะอยู่ไปมากกว่า 50-60 ปี แต่เป็นความแตกต่างธรรมดา ไม่รุนแรงเหมือนปัจจุบัน เพราะมีช่องทางที่จะแสดงออกถึงความแตกต่างในระบบปกติ เช่น การเลือกตั้ง”

 

อนึ่ง “โครงการเวทีสันติประชาธิปไตย” (อึด ฮึด ฟัง) นำโดย รศ.ดร.โคทม อารียา จากสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และทีมงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ผ่านโครงการสะพานเสริมสร้างประชาธิปไตย (SAPAN) โครงการเวทีสันติประชาธิปไตย (อึด ฮึด ฟัง) เป็นกิจกรรมต่อเนื่องระยะยาวตลอดปี พ.ศ. 2555 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ทั้งในกรุงเทพฯ และ  6 จังหวัดนำร่องได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช และนราธิวาส ซึ่งได้เชิญประชาชนในจังหวัดใกล้เคียงในแต่ละพื้นที่กว่า 24 จังหวัดเครือข่าย เข้าร่วมสานเสวนาในแต่ละเวทีเพื่อสานสัมพันธ์และหาทางออกร่วมกันอย่างเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ โดยหวังว่าจะช่วยสร้างความปรองดอง และเป็นพื้นที่ถกแถลงในระยะยาวต่อไป