เลี้ยงลูกแบบ “Play and Learn”เรียนรู้จากการเล่น

“อนาคตเป็นของลูกให้เขาเป็นคนเลือกเอง เราเลือกได้เพียงแค่ให้เขาได้เรียนในสถาบันการศึกษาที่ดี อนาคตสุดแล้วแต่เขา”สำหรับผู้ปกครองบางท่านตั้งเป้าหมายสำหรับลูกไว้สูง อยากให้ลูกเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น แต่มีใครหันกลับมาดูเขาเหล่านั้นบ้างหรือเปล่าว่าเขาอยากเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นหรือเปล่า?

ดร.ฐิติพงศ์  นันทาภิวัฒน์คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นอีกท่านหนึ่งที่มีลูก และกำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตซึ่งท่านได้มีโอกาสเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความคิดเห็นในเรื่อง การหาที่เรียนให้ลูกๆ ว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนไทย, นานาชาติ และ EP มากมาย แต่สิ่งที่ผมต้องการให้ลูกผมได้เรียนคือโรงเรียนที่สอน 2 ภาษา ทั้งไทย และอังกฤษ ต้องการให้เขาได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย โดยที่ยังไม่ละทิ้งภาษาไทยและวัฒนธรรมไทยด้วย

ซึ่งก่อนที่ผมจะเลือกโรงเรียนให้ลูกของผม จะต้องศึกษาหาข้อมูลมากมาย ไม่ว่าจะสอบถามเพื่อน ๆ อาจารย์ด้วยกัน และสอบถามข้อมูลคนรอบข้าง ทั้งวิธีการเลือกโรงเรียนให้ลูกจากการศึกษาหาข้อมูลทาง Internet  ซึ่งที่ตั้งใจคืออยากให้ลูกเรียนโรงเรียนสองภาษาต้องการให้เขาได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ซึ่งจะได้ความเป็นวัฒนธรรมไทยอีกด้วย และตัดสินใจเลือกเรียนที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต เนื่องจากได้มีการใช้เทคโนโลยี ในการศึกษาวัดระดับไอคิว และอีคิวเบื้องต้น โดยให้น้องได้ผ่านการสแกนลายนิ้วมือ ลายมือ และลายเท้า เพื่อหาอัจฉริยภาพในตัวเขา ทำให้ทราบว่า น้องเหมาะกับการเรียนรู้แบบปฏิบัติ ซึ่งตรงกับการเรียนการสอนของที่นี่ เนื่องจากที่นี่เน้นการเรียนรู้ผ่านการเล่น

ผมมีเทคนิคยึดเป็นแนวทางในการดูแลลูกด้วยการ“เลี้ยงลูกแบบ Play and Learn ให้เรียนรู้จากการเล่น” และการทำกิจกรรม ทำให้น้องมีความสุขในการมาโรงเรียน  ซึ่งลูกๆมีพัฒนาการที่ดี ดีขึ้นเรื่อยๆ ดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้ ผลการเรียนของเทอมที่ผ่านมาก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก คุณครูต่างชาติชมว่า น้องมีสำเนียงการพูดเหมือนเจ้าของภาษา น้องสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้ และสามารถดูภาพยนตร์ที่บรรยายด้วยเสียงภาษาอังกฤษได้อย่างเข้าใจข้อดีของโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิตที่นี่จะมีอาจารย์ประจำห้อง ห้องละสามท่าน โดยมีคุณครูต่างชาติหนึ่งท่าน และคุณครูไทยจำนวนสองท่าน ทำให้ดูแลเด็ก ๆ ได้อย่างทั่วถึง, มีกล้องวงจรปิด ทำให้ทางบ้านสามารถเข้าไปดูการเรียนได้ตลอดเวลา, มีการจัดการเรียนการสอนแบบ“Constructivism”คือการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ ซึ่งตรงกับเป้าหมายของครอบครัวเราที่ต้องการให้น้องเรียนรู้แบบPlay and Learn ซึ่งน้องมีความสุขกับการมาโรงเรียน, มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี รวมทั้งมีการตรวจวัดไข้ก่อนที่น้องจะเข้าโรงเรียนในตอนเช้า ทำให้สามารถคัดกรองผู้ป่วยก่อนเข้ามาแพร่เชื้อในโรงเรียน ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครองหลายๆ  ท่าน ทำให้ทราบว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดในย่านนี้