• บริษัทเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ใน 7 ประเทศ อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ได้รับการยกย่องในด้านแนวปฏิบัติที่ให้บุคลากรในองค์กรเป็นศูนย์กลาง
• รางวัลที่ได้รับจาก Top Employers Institute ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ในการเป็นนายจ้างที่สร้างสรรค์สถานที่ทำงานที่เอื้อต่อการทำงานและใส่ใจในพนักงาน
เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ใน 7 ประเทศ อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ได้รับการยกย่องให้เป็นนายจ้างดีเด่นในปี 2563 โดยได้รับมอบจาก Top Employers Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านความเป็นเลิศทางทรัพยากรบุคคลระดับโลก ซึ่งเกียรติบัตรนี้เป็นเครื่องยืนยันความมุ่งมั่นของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ในความใส่ใจที่ดีเยี่ยมต่อการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานให้กับพนักงาน และยึดแนวปฏิบัติงานเชิงองค์รวมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีในการทำงานให้แก่พนักงานในหลากหลายด้าน อาทิ ค่าตอบแทนและสวัสดิการ และรวมถึงการพัฒนาบุคคลากรเพื่อการเติบโตไปพร้อมกันกับองค์กร
เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์มีพนักงานที่มีศักยภาพในการทำงานและมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนสูงกว่า 2,000 คน ใน 24 สัญชาติทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลีใต้ บริษัทใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อทำความเข้าใจต่อความต้องการของพนักงาน โดยเน้นการสร้างสถานที่ทำงานที่เอื้อต่อการให้การยอมรับและเห็นถึงคุณค่าของความแตกต่างซึ่งกันและกัน บริษัทรับทราบถึงการทำงานของพนักงานโดยตลอดและให้การสนับสนุนพวกเค้าเพื่อเป็นการต่อยอดให้การทำงานประสบความสำเร็จ ในปี 2562 บริษัทได้เริ่มดำเนินการหลายประการทั่วทั้งภูมิภาค เพื่อปรับปรุงสวัสดิการของบริษัทให้เหมาะสมและแข่งขันกับตลาดได้ บริษัทยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัว นอกจากนั้น บริษัทยังสร้างโปรแกรมการพัฒนาพนักงานที่มีความสามารถ เพื่อให้เค้าเติบโตในองค์กรได้เร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรมการดูแลพนักงานใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับบริษัท (Onboarding Program)
นอกเหนือจากการที่เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ได้รับยกย่องให้เป็นนายจ้างดีเด่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกแล้วนั้น เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ประเทศไทยยังคงได้รับเกียรติบัตรในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน
นายเจอร์ราร์ด แม็คเคนนา กรรมการผู้จัดการของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ – เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลีใต้ กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นนายจ้างดีเด่นปี 2563 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ซึ่งเกียรติบัตรที่ได้รับนั้นเป็นผลของความร่วมมือของพนักงานทั่วภูมิภาค และเป็นสิ่งย้ำเตือนถึงวิสัยทัศน์ของเราในการทำงานที่สร้างคุณค่าผ่านนวัตกรรม ทั้งยังตั้งมั่นที่จะสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ก้าวหน้าและเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาตนเองอย่างเท่าเทียมกัน และการได้รับรางวัลนี้ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงานในแต่ละวัน ด้วยความปรารถนาที่จะปรับปรุงคุณภาพชีวิตของมนุษย์และสุขอนามัยของสัตว์”
ดร. อาร์มิน วีสเลอร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์กล่าวว่า “การได้รับยกย่องจาก Top Employers Institute ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้เราดูแลพนักงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพวกเค้าให้พร้อมที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จในอนาคตด้วยกัน ในฐานะองค์กรที่เป็นทางเลือกแรกที่คนต้องการทำงานด้วย เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้พนักงานของเรามีศักยภาพที่เหนือชั้นเพื่อแข่งขันได้ในธุรกิจ โดยประยุกต์ใช้กรอบความคิดหรือทัศนคติและแนวคิดแบบยืดหยุ่นเพื่อพัฒนาตนเองต่อไปข้างหน้า (Growth Mindset) และสร้างบรรยากาศการแข่งขันในที่ทำงานซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กรได้มีส่วนร่วมโดยเท่าเทียมกัน”
เป็นเวลากว่า 130 ปีแล้วที่เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการมอบประสบการณ์การทำงานที่ครบองค์รวมแก่พนักงานโดย นายเดวิด เซเรส ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของเบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ – เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเกาหลีใต้ กล่าวถึงความสำเร็จของบริษัทว่า “ที่เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ พนักงานของเราเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด เรามีหน้าที่ในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่พวกเขาและสนับสนุนให้พนักงานของเราเรียนรู้และพัฒนาทักษะเพิ่มขึ้นเพื่อก้าวไปได้ไกลกว่า รางวัลนี้เป็นการสะท้อนถึงความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการสร้างผู้นำในอนาคตและพัฒนาทีมงานที่มีความคล่องตัวสูงผ่าน
กลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคลที่รอบด้านและยั่งยืน”
Top Employer Institute ได้ให้การรับรองบริษัทกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกตามแนวปฏิบัติด้านทรัพยากรบุคคล ทั้งนี้ บริษัทที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมดจะต้องผ่านกระบวนการวัดผลที่ละเอียดเพื่อให้ได้รับการรับรอง โดยพิจารณาจากผู้ปฏิบัติงาน 600 คนใน 10 ด้านหลักที่เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคล เช่น กลยุทธ์การสรรหาพนักงานที่มีความสามารถ โปรแกรมการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพพนักงาน การให้ค่าตอบแทนและสวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กร และการพัฒนาความเป็นผู้นำ