นายสุเทพ ตีระพิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานการพัฒนาประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการผลิต เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ตลอดมาเครือเบทาโกร มีนโยบายอนุรักษ์พลังงานที่ มุ่งเน้นการจัดการพลังงานอย่างมีระบบแบบมีส่วนร่วม และดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางของ ISO 50001 (Energy Management Standard) เพื่อยกระดับสู่ความเป็นมาตรฐานในด้านการจัดการพลังงานเพิ่มเติมจากการจัดการพลังงานตามที่กฎหมายกำหนด
ในปีนี้ เครือฯ ได้จัดโครงการ “เบทาโกรร่วมใจ ฉลาดใช้พลังงาน” เพื่อสนองตอบนโยบายประหยัดพลังงานของประเทศ โดยการรณรงค์และสื่อสารขอความร่วมมือจากพนักงานให้ใช้พลังงานอย่างฉลาด ทั้งในสำนักงาน และอาคารต่างๆ ในเครือ อาทิ การปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งานเกิน 15 นาที เปิดแอร์ที่ 25 องศาเซลเซียส ปิดแอร์ก่อนเลิกงาน 30 นาที เปิดหลอดไฟเท่าที่จำเป็น ปิดหลอดไฟตอนพักเที่ยงและหลังเลิกงาน การใช้กระดาษ 2 หน้า รวมถึงรณรงค์ใช้การระบบ IT มาช่วยจัดการ ทดแทนระบบงานเอกสาร โดยสามารถลดการใช้ทรัพยากรกระดาษ ได้เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
ส่วนในโรงงาน เครือเบทาโกรเน้นการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงาน ภายใต้แนวคิด 3 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านความร้อน มุ่งเน้นการนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้งาน (Waste Heat Recovery) โครงการหลักคือการนำความร้อนเหลือทิ้งจากระบบไอน้ำและระบบผลิตน้ำมันร้อนกลับมาใช้งานด้วยอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน (Economizer) โดยดำเนินการกับระบบไอน้ำและระบบผลิตน้ำมันร้อนที่ติดตั้งไปแล้วทุกโรงงาน โรงงานที่สร้างใหม่กำหนดให้ระบบไอน้ำและระบบผลิตน้ำมันร้อนให้มีการติดตั้ง Economizer มาจากโรงงานผู้ผลิตตั้งแต่เริ่มต้น ด้านไฟฟ้า มุ่งเน้นการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเหมาะสม โครงการหลักคือ การใช้งานมอเตอร์และปั๊มน้ำ มีการควบคุมด้วยระบบควบคุมความเร็วรอบ VSD (Variable Speed Drive) เพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีการผลิตน้อย และด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก โครงการหลักคือ ฟาร์มและโรงงานในเครือเบทาโกรมีการบำบัดน้ำเสียขั้นต้นด้วยระบบปิด ซึ่งนอกจากช่วยลดปัญหากลิ่นจากระบบบำบัดน้ำเสียแล้วยังสามารถรวบรวมแก๊สชีวภาพไว้ในระบบและนำแก๊สชีวภาพที่ได้มาผลิตไฟฟ้า และได้มีการศึกษาและใช้งานพลังงานทางเลือกด้านอื่น เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ การใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) และการใช้ Heat Pump ประสิทธิภาพสูง (ระบบดึงพลังงานความร้อนที่อยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์) เพื่อทดแทนการใช้เชื้อเพลิง เป็นต้น
