เบทาโกรชูนวัตกรรมฟาร์มสุกรใหม่ ใช้ระบบโรงเรือนและการเลี้ยงตามหลัก สวัสดิภาพสัตว์สากล ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้าง

0
232
image_pdfimage_printPrint

เครือเบทาโกร เปิดดำเนินการฟาร์มสุกรแห่งที่ 10 อย่างเป็นทางการ ด้วยนวัตกรรมโรงเรือนและระบบการเลี้ยงที่คำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) อย่างเต็มรูปแบบ นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาสายพันธุ์และการเลี้ยงสุกร พร้อมระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบชุมชนใกล้เคียง

 

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเบทาโกร เปิดเผยว่า ฟาร์มสุกร แห่งล่าสุดที่เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ ที่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี นับเป็นฟาร์มสุกรแห่งที่ 10 ของเครือเบทาโกร โดยยึดหลักนโยบายการผลิตอาหารคุณภาพสูงและปลอดภัยของเครือเบทาโกร ตลอดจนมาตรฐานและข้อกำหนดต่างๆ ในระดับสากล จุดเด่นของฟาร์มแห่งใหม่นี้ ใช้นวัตกรรมการสร้างโรงเรือนที่คำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) เป็นสิ่งสำคัญ โดยนำเข้าเครื่องให้อาหารอัตโนมัติ (Sow Electronic Feeder) จากยุโรป ซึ่งเป็นระบบ RFID (Radio Frequency Identification) มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้อาหารสุกร โดยสามารถกำหนดการให้อาหารสุกรอุ้มท้องได้แบบรายตัว ทำให้แม่สุกรไม่ต้องยืนซอง ไม่เกิดภาวะเครียด สามารถแสดงลักษณะเด่นทางพันธุกรรมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ยังสามารถวัดอัตราการแลกเนื้อในการทดสอบสุกรพันธุ์รายตัวได้ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับสุกรภายในฟาร์ม เป็นสุกรพันธุ์แท้ระดับทวดพันธุ์ (GGP) และระดับปู่ยาพันธุ์ (GP) ประกอบด้วยสายพันธุ์ลาร์จไวท์(Large White) สายพันธุ์แลนด์เรซ (Landrace) และสายพันธุ์ดูร็อค (Duroc) โดยมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 2,500 แม่ มีคุณสมบัติแข็งแรง สุขภาพดี ให้ลูกดก และปลอดโรค คาดว่าจะเต็มกำลังการผลิตภายในปี 2557 และจะเป็นต้นทางของแหล่งผลิตสุกรขุนไปเป็นเนื้อสุกร S-Pure ที่มีคุณภาพสูงของประเทศไทย

นอกจากนี้ เครือเบทาโกรยังให้ความสำคัญและตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบฟาร์ม โดยก่อสร้างระบบก๊าซชีวภาพ (Biogas) เพื่อใช้ในการกำจัดของเสียภายในฟาร์ม ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทน ลดกลิ่นจากมูลสุกร ลดแหล่งกำเนิดของสัตว์พาหะนำโรค เช่น แมลงวัน ทั้งยังมีการจัดการของเสียอย่างเป็นระบบ โดยจะนำมูลสุกรที่ผ่านการบำบัดไปทำปุ๋ยอินทรีย์ และมีแผนปลูกป่าในที่ดินว่างรอบฟาร์ม เพื่อช่วยลดมลภาวะทางกลิ่น รวมทั้งมีการก่อสร้างฝายทดน้ำในพื้นที่ ช่วยลดความรุนแรงของน้ำหลากในช่วงฤดูฝน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อพืชไร่ของชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย

“เบทาโกรในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจสุกรมาอย่างต่อเนื่องกว่า 40 ปี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนา     สายพันธุ์สุกร ซึ่งถือเป็นต้นทางของการผลิตสุกรให้มีคุณภาพดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการผลิต การควบคุมมาตรฐานและคุณภาพ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในทุกๆ ด้าน  ฟาร์มสุกร

 

 

 

แห่งที่ 10 หรือฟาร์มแห่งใหม่ล่าสุดนี้ นับเป็นการขยายงานครั้งสำคัญของเครือเบทาโกร และเป็นก้าวที่สำคัญของการผลิตและพัฒนาสายพันธุ์สุกรของประเทศไทยให้มีคุณภาพเพื่อนำไปสู่การเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ซึ่งเราจะพัฒนาและก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง” นายวสิษฐกล่าว

ฟาร์มสุกรแห่งที่ 10 ของเครือเบทาโกร ดำเนินงานโดย บริษัท เบทาโกรไฮบริด อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ ณ ตำบลศิลาทิพย์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี บนพื้นที่กว่า 319 ไร่ โดยเริ่มก่อสร้างตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 ใช้งบประมาณก่อสร้างมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท การก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์และเริ่มนำสุกรเข้าเลี้ยงในฟาร์มได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555