เทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า มาแรง SETA 2017 จัดต่อเนื่องปีที่ 2 ภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society”

0
740
image_pdfimage_printPrint

เทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า มาแรง SETA 2017 จัดต่อเนื่องปีที่ 2 ภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society”

กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมด้วย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงอุตสาหกรรม จัดประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560” หรือ “SETA 2017” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society” ใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ นโยบายและการวางแผนด้านพลังงาน เทคโนโลยีระบบผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อปล่อยคาร์บอนต่ำ พลังงานเพื่อการคมนาคมขนส่งเพื่อปล่อยคาร์บอนต่ำ และ เมืองอัจฉริยะและอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อผลักดันและพัฒนาองค์ความรู้ด้านพลังงานและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้เน้นเทรนด์อุตสาหกรรมไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นายธรรมยศ ศรีช่วย รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า “ภารกิจหลักของกระทรวงพลังงาน คือ การบริหารพลังงานให้ประชาชน มีใช้อย่างมั่นคง ในราคาที่เป็นธรรม ในปีที่ผ่านมาเราก็ได้ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญๆ อาทิ การลอยตัว NGV การเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ LPG ผลักดันให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ เสริมประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงานด้วยมาตรการทางการเงินต่างๆ ในปีนี้ กระทรวงพลังงานจะมุ่งเน้น นโยบายด้าน Energy 4.0 เช่น การขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า EV การเพิ่มสถานีชาร์จ Smart City ระบบการจัดเก็บพลังงาน Energy Storage และการส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานทดแทนในรูปแบบใหม่ SPP Hybrid Firm และ VSPP ชุมชน เวทีงาน SETA 2017 นี้ กระทรวงพลังงานจะได้มีโอกาสชี้แจง และส่งสัญญาด้านนโยบายที่สำคัญๆดังกล่าวต่อนักลงทุน และผู้สัมมนาจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เข้าใจในทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายของประเทศไทย ในส่วนของนิทรรศการ ทางผู้จัดก็ได้เตรียมเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า EV และการจำลองสถานการณ์สถานีชาร์จ เพื่อให้ผู้สนใจได้ชมและเรียนรู้”

รศ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ในงาน SETA 2017 ปีนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการจัดแสดงเทคโนโลยี สะท้อนความมุ่งมั่นคิดค้นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การผลิตก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทดแทน อีกทั้งกำกับ ติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานในสังกัด รวมทั้งสร้างระบบการบริหารจัดการที่ดี จัดสรรและบริหารทรัพยากรของกระทรวงให้เกิดความประหยัด คุ้มค่า รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย เสนอแนะนโยบายและยุทธศาสตร์ รวมทั้งการบริหารจัดการด้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ตามมาตรฐานสากลเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน โดยแบ่งเป็น งานกำกับดูแลความปลอดภัยทางรังสี กำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ และด้านการสนับสนุนการกำกับดูแลความปลอดภัยจากพลังงานปรมาณู”

นางสาวกอบกุล โมทนา ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางอากาศ กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า “กระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงพลังงานในการขับเคลื่อนการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ในการมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nation Framework Convention on Climate Change : UNFCC) ว่าจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายหลังปี 2020 (พ.ศ.2563) ให้ได้ร้อยละ 20-25 โดยสัดส่วนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคการขนส่งจะอยู่ที่ร้อยละ 7.8 หรือ 41 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เนื่องจากภาคการขนส่งมีสัดส่วนการใช้พลังงานแยกตามรายสาขาเป็นอันดับ 2 รองจากภาคอุตสาหกรรม งานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้สังคมไทยตื่นตัวและเห็นความสำคัญด้านการจัดการพลังงานและการใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในทุกระดับ”

นายธาตรี ริ้วเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการกิจกรรมสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า “SETA 2017 ถือเป็นเวทีสำคัญที่จัดขึ้นสำหรับองค์กรต่างประเทศ ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมในการอภิปรายและทำงานร่วมกันในการพัฒนานโยบายด้านพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของภูมิภาคในอนาคต นอกจากนี้ กฟผ. ยังมีแผนยุทธศาสตร์ 2560-2569 ในการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนควบคู่กับนโยบายการใช้เชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสร้างสมดุลย์การใช้เชื้อเพลิงและควบคุมราคาค่าไฟฟ้าในระยะยาว ด้วย กฟผ.ตระหนักว่า พลังงานหมุนเวียนจะเป็นพลังงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) พ.ศ. 2558-2579 ที่จะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้มีสัดส่วนถึงร้อยละ 20 ในปี 2579 ในงานครั้งนี้ กฟผ. มีส่วนร่วมในการนำเสนอการดำเนินงานของ กฟผ. ใน 2 ส่วนด้วยกัน คือ การร่วมเป็นผู้บรรยายวิชาการ ในส่วนของ Conference Program และการจัดแสดงนิทรรศการ ภายใต้แนวคิด Balance Energy and Go Together ซึ่งผู้เยี่ยมชมนิทรรศการจะได้ทราบถึงการดำเนินงานของ กฟผ. ที่สอดคล้องกับนโยบาย Energy 4.0 ของกระทรวงพลังงาน ทั้งยังร่วมในข้อผูกพัน COP21 หรือสนธิสัญญาปารีส ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมายอีกด้วย”

รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร ประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 กล่าวว่า “งาน SETA 2017 เป็นการจัดงานระดับนานาชาติ โดยในปีนี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากการประสบความสำเร็จในการจัดงานในปีแรกที่ผ่านมา ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในความร่วมมือของหน่วยงานหลักของประเทศ รวมทั้งองค์กรรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยในงานประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปในประเด็นที่ทั้งเอเชียและทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ โดยเฉพาะประเด็นด้านแหล่งพลังงานคาร์บอนต่ำ ในปีนี้มีการเพิ่มพื้นที่แสดงนิทรรศการอีกเท่าตัว โดยมีความเป็นพิเศษ มุ่งเน้นถึงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีไฮบริด และรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ กว่า 200 บริษัท เพื่อส่งเสริมการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านพลังงานให้กับประเทศ โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมและร่วมงานตลอดทั้ง 3 วัน จำนวนกว่า 10,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก”

ด้านกิจกรรมในงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560” หรือ “SETA 2017” ได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก ดร.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน วิทยากรปาฐกถาหลัก ได้แก่ พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

นาย อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดอกเตอร์แมกซิมัส จอนนิตี้ อองกิลิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน น้ำ และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ประเทศมาเลเซีย (Dr. Maximus Johnity Ongkili, Minister of Energy, Green Technology and Water, Malaysia) ฯพณฯ เฆซุส มิเกล ซันส์ เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (H.E. Jesús Miguel Sanz, Ambassador and Head of Delegation of the European Union in Thailand) แอคเนตา ไรซิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่สมาคมนิวเคลียร์โลก (Ms. Agneta Rising, Director General of World Nuclear Association) ฯพณฯ ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัคราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย (H.E. Mr.Shiro Sadoshima, Ambassador of Japan in Thailand), ซูเฮล โมฮัมเหม็ด ฟาราจ อัล มาซโรไน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (Suhail Mohamed Faraj Al Mazrouei, UAE minister of energy), ฯพณฯ วิคเตอร์ โจนา ผู้อำนวยการด้านพลังงาน กระทรวงเหมืองแร่และพลังงาน แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (H.E. Victor Jona, Director General of Energy, General Department for Energy, Ministry of Mines and Energy of Cambodia)

นอกจากนี้ ยังมีการจัดให้มีการบรรยาย ประชุมสัมมนา และเวิร์คช็อปจากองค์กรระดับนานาชาติ และบริษัทที่เป็นผู้นำในหัวข้อต่างๆ อาทิ “CEO Energy Forum” “CLMVT Energy Forum“ Financing in Energy โดย มูดีส์ (Moodys)” “Hybrid & EV Technology” เป็นต้น ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนร่วมงานได้ในเว็บไซต์ www.SETA.Asia

งานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560” หรือ “SETA 2017” จะมีผู้เข้าร่วมงานเป็นผู้บริหาร ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ผู้ผลิต บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้า นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ บริษัทผู้ผลิตพลังงานทดแทน ธนาคาร นักลงทุน จากทุกภาคส่วนและผู้สนใจทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ กว่า 10,000 คน พื้นที่จัดงาน 9,600 ตารางเมตร บูธจัดงาน กว่า 200 บูธ โดยมีโซนไฮบริดและเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า โซนโซล่าเซลส์ และโซนระบบเมืองอัฉริยะ จากเมืองโตเกียวและกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงพาวิเลียนจากต่างประเทศ อีก 11 ประเทศ พร้อมกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ อาทิ ประเทศแคนาดา เยอรมัน ไต้หวัน เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 เวลา 10.00-18.00 น. ณ ฮอลล์ 103-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา