ผ่านพ้นไปแล้วกับคอนเสิร์ตที่เต็มอิ่มไปด้วยบทเพลงความสุข ในคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรกรอบ 18 ปี “ละอองฟอง ลานนี้ไม่มีเบื่อ คอนเสิร์ตใหญ่ Size S” คอนเสิร์ตของกลุ่มนักออกแบบดนตรีสีสวยอย่าง วง “ละอองฟอง” ที่มีสมาชิกประกอบไปด้วย ประกอบด้วย “ออน – กรกมล ชัยวัฒนเมธี (ร้องนำ), เอ๊ะ – พงศ์จักร พิษฐานพร (เบส), แมน – ตนุภพ โนทยานนท์ (กีต้าร์)” ศิลปินกลุ่มสังกัด “สไปรซ์ซี่ ดิสก์”(Spicy Disc) ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 17 สิงหาคม 56 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนี้ละอองฟองได้ขนเพลงฮิตตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุด มามอบความสุขให้กับละอองแฟนแบบ นันสต๊อปกว่า 30 บทเพลงอย่างไม่มีเบื่อ… และยังมีพี่น้องในวงการฯ มาให้กำลังใจ อาทิ “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, โต้ง มณเฑียร แก้วกำเนิด, ปุ๊บปั๊บ วงน็อค เดอะ น็อค, บอม วงกาเนชา, น้ำฝน ภักดี, โอ อนุชิต” และ ศิลปินน้องใหม่ สังกัด “สไปร์ซซี่ ดิสก์(Spicy Disc)” อย่าง วง “เดอะ เมสเซนเจอร์” และ หัวเรือใหญ่ อย่าง “คุณพิชัย จิราธิวัฒน์” ก็ได้บุกถึงหลังเวที มอบกำลังใจด้วยช่อดอกไม้ช่อโตถึงหลังเวทีให้กับวงละอองฟอง อีกทั้งยังได้ “ก้อ – ณฐพล ศรีจอมขวัญ” มารับหน้าที่เป็น Music Director(มิวสิค ไดเร็คเตอร์) ให้กับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วย บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยสีสันความสุขพร้อมโชว์สุดอลังการ งานนี้พวกเขาได้ชวนพี่น้องศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น “บอย – ตรัย ภูมิรัตน, ก้อ – ณฐพล จอมศรีขวัญ, เต็น – ธีรภัค มณีโชติ, ลิปตา, สิงโต นำโชค” และ แขกรับเชิญคนสุดท้ายสุดเซอร์ไพรส์ที่เก็บเป็นความลับมาโดยตลอด “แสตมป์ – อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข”
ก่อนลานแห่งความสุขจะเริ่มเปิดให้ละอองแฟนได้เข้าไปกอบโกยรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะจากโชว์สุดอลังการของละอองฟอง พวกเขาก็ได้ออกมาพูดคุยเปิดใจถึงความรู้สึกคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบครั้งแรก กับพี่น้องสื่อมวลชนที่ยกทีมกันมาทำข่าว บริเวณหน้างานว่า… “สำหรับพวกเราวง ละอองฟอง ครั้งนี้พวกเราก็นำเสนอออกมาในธีมที่เหนือจินตนาการ และนอกจากความรู้สึกดีๆแล้ว จริงๆ แล้วพวกเราก็ไม่คิดว่าจะมีคอนเสิร์ต พวกเราเลยพยายามทำคอนเสิร์ตในครั้งนี้ออกมาให้ดีที่สุด แต่พวกเราก็คุยกันว่าจะมีคอนเสิร์ตมานานแล้ว เรียกได้ว่าแขกรับเชิญทุกท่านที่มาในคอนเสิร์ตครั้งนี้ล้วนแต่เป็นบุคคลเบื้องหลังของพวกเราทั้งนั้น เพราะถ้าไม่มีบุคคลเหล่านี้เราก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้อย่างวันนี้ หลังคอนเสิร์ตครั้งนี้ พวกเราก็จะมีโปรเจคพิเศษออกมาเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนเพลง เพราะว่า ก่อนหน้านี้พวกเราได้ไปพบเจอแฟนเพลงที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็ประทับใจในเสียงตอบรับที่มีต่อวงละอองฟอง ก็ฝากไว้ให้ติดตามสำหรับโปรเจคนี้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป สำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างวงละอองฟองมาตลอด”…ละอองฟอง กล่าว
ลานแห่งความสุขเริ่มเปิดตัวด้วย เสียงเพลงจากกล่องดนตรีไขลานน่ารักๆ ที่เมื่อได้ฟังแล้วก็ชวนเผลอหลุดเข้าไปยังโลกแห่งจิตนาการของ ละอองฟอง… และไม่นานสมาชิกวงละอองฟองในชุดตุ๊กตาไขลานสุดอลังการ ที่ยืนนิ่งรอมอบความสุขให้กับละอองแฟน โดยเพลงแรก “อะไร” ซึ่งเพลงนี้ก็โกอินเตอร์ดังไกลไปถึงประเทศญี่ปุ่น ต่อเนื่องด้วยเพลงที่สอง “กอดเธอได้ไหม” เพลงที่ปล่อยพลังรักไปยังละอองแฟน หลังจากนั้น สาวออน (นักร้องนำ) ก็ได้เล่าเรื่องราวกว่าจะเป็นละอองฟองต้องผ่านบททดสอบอะไรบ้างผ่านบทเพลง “แรกสัมผัสรัก” เพลงที่ให้บรรยายความรู้สึกตกหลุมรักที่มีต่อวงละอองฟองตั้งแต่แรกเจอ ต่อจากนั้นละอองฟองได้พูดถึงคนพิเศษ และมอบความห่วงใยผ่านเพลง “กินข้าวยัง” และก็มาเผยเอาตอนท้ายเพลงว่าคน “พิเศษ” ที่พูดถึงนั้นก็คือ เหล่าละอองแฟน ที่ตามมาให้กำลังใจในคอนเสิร์ตวันนี้
หลังจากจบโชว์เปิดตัว ก็ได้เข้าสู่บรรยากาศย้อนวันวานกับวงละอองฟองยุคแรก เมื่อ 18 ปีที่แล้ว ด้วยการเปิดมิวสิคฯ เพลง “วัน” ที่หวนอดีตวัยใสของพี่เอ๊ะ และพี่แมนขึ้นมาอีกครั้ง มิวสิคฯ เพลงนี้ทำเอาละอองแฟนยุคก่อนๆ ส่งเสียงแสดงความดีใจที่ได้กลับมาเห็นผลงานชิ้นนี้อีกครั้ง และต่อจากนั้นละอองฟอง ยังเรียกรอยยิ้มให้กับแฟนๆ มากยิ่งขึ้นเมื่อพวกเขาย้อนวัยกลับในชุดนักเรียน พร้อมคนพิเศษของละอองฟอง นั้นคือ “ฟลุ๊ค” (อดีตมือกลองยุคแรก) ได้มาร่วมย้อนวันวานไปด้วยกันในเพลง “วัน” ต่อเนื่องความรู้สึกด้วยเพลง “ขอบฟ้า” และ เพลง “ลา” ที่เป็นเพลงเก่าในอัลบั้มแรกๆ ของละอองฟอง หลังจากนั้นแฟนๆ ได้ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด ช่วยกันเรียก แขกรับเชิญสุดพิเศษกันลั่นฮอลล์ พร้อมกับภาพชายคนหนึ่ง “แสตมป์ อภิวัชร์” เดินออกมาจากหลังฉากในชุดนักเรียนพร้อมกับปล่อยมุขเรียกเสียงฮาให้กับคนดู ครั้งนี้แสตมป์ได้ย้อนเหตุการณ์ตอนเขาเคยนำเพลง “ลม” ของวงละอองฟองไปแกะประกวด และส่งท้ายโชว์ย้อนวันวานไปด้วยเพลงฮิตของเขา “มันคงเป็นความรัก” เพลงนี้ทำเอาแฟนเพลงของทั้งละอองฟอง และแสตมป์ร้องตามกันกระหึ่มฮอลล์
ต่อจากนั้นก็มาถึงมิวสิคโชว์ที่ละอองฟองเตรียมมาดับความฮอตของแขกรับเชิญคนแรก ครั้งนี้พวกเขาได้ยกบรรยากาศใต้มหาสมุทรมาไว้บนเวที เพื่อย้อนไปถึง อัลบั้ม ชุด 2 “Cozy Collection” ที่มาพร้อมกับสาวออน ที่แปลงร่างเป็นเจ้าหญิงเพิร์ล ที่เปิดตัวด้วยชุดไข่มุขสีขาวสุดอลังการ พร้อมกับฉากบัลลังก์หอยมุข และสาวออน ก็ค่อยๆ เผยตัวอย่างสง่างามจากเปลือกหอย และไม่น่าเชื่อซีนนี้สามารถสะกดสายตาคนดู ให้นิ่งไปกับโชว์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แถมเจ้าหญิงเพิร์ลยังหนีบ ชาวเล เอ๊ะ กับ แมน ที่สวมบทบาทเป็นลิ่วล้อให้กับเจ้าหญิงออน หลังจากนั้นทั้งสามได้พูดถึงคอนเสิร์ตครั้งนี้สั้นๆ และ มอบเสียงเพลงแทนความรู้สึกผ่าน 4 บทเพลง ได้แก่ “เธอกับฉัน, คิดถึง, ลันลาเมื่อได้พบเธอ” และสุดท้าย “คนบนฟ้า”
หลังปล่อยให้ละอองแฟนเพลิดเพลินกับเพลงซึ่งๆ เพราะๆ อยู่ไม่นาน เหตุการณ์โจรสลัดบุกก็เกิดขึ้น ซึ่งก็คือ แขกรับเชิญอีกหนึ่งคน “สิงโต นำโชค” ที่เดินทางมาหาความสุข จนเจอกับเจ้าหญิงออน และเติมพลังความสุขเต็มเปี่ยมแบบที่ไม่เคยได้มาก่อน หลังจากนั้นสาวได้ร่วมร้องเพลง “ต่างใจเดียว” ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นโจรสลัดกับเจ้าหญิงสุดท้ายทุกคนก็มีใจดวงเดียวกัน และแล้วก็ถึงเวลาที่เจ้าหญิงต้องจากไป สิงโตถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเสียงเพลง “อยู่ต่อเลยได้ไหม” พร้อมกับมุขฮาที่มาเรียกความคึกครื้นให้กับคนดูได้อย่างมาก หลังจากที่โจรสลัดสิงโตไป ละอองฟอง ก็ได้กลับมาในอารมณ์เหงา เศร้าไปกับบทเพลง “ใครหนอ, เหงาจนชิน” และ “เมื่อไหร่จะเช้า” พร้อมกับอีกหนึ่งแขกรับเชิญ “เต็น ธีรภัค” ที่หอบเพลงรักเศร้าๆ มาเรียกน้ำตาให้กับละอองแฟน เขาได้ออกมาพูดถึงความรู้สึกกับคอนเสิร์ตครั้งนี้ และได้หว่านเพลงเศร้าอย่าง “รักไม่มีตรงกลาง” และ “ดีเกินไป” ให้แฟนๆได้ฟัง พร้อมกับขอบคุณ และจบโชว์นี้ได้อย่างน่าประทับใจ
ก่อนจะเข้าสู่โชว์ช่วงสุดท้าย ละอองฟองก็ยังเซอไพรส์แฟนเพลงอย่างต่อเนื่อง และพูดได้ว่าโชว์ครั้งนี้ไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้ทำแบบนี้ที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน “แมน”(มือกีตาร์) ผู้ชายทีพูดน้อยที่สุด ออกมาในมาดลูกทุ่ง ไม่ใช่แค่เรื่องชุดเท่านั้น แมนยังหว่านเสน่ห์ผ่านเสียงขลุ่ยในเพลง “ขอเป็นพระเอกในหัวใจเธอ” เรียกแม่ยก พร้อมพวงมาลัยพวงโต ต่อจากนั้นก็ถึงคิวพี่เอ๊ะ ที่เปิดตัวสุดฮาในรถเข็นปูเสื่อเหมือนพรหมของอะลาดิน พร้อมเพลงเพลงซึ้งๆ “A Whole new world” ต่อด้วยเพลงที่สร้างเสน่ห์ให้กับละอองฟองอย่างเพลง “ฝันลำเอียง” หลังจากจบบทเพลง พี่เอ๊ะ ได้ควักตะเกียงวิเศษออกมาเรียกยักษ์จินนี่จากดินแดนภารตะ และอีกหนึ่งแขกรับเชิญที่เพิ่งเป็นคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดง อย่าง “บอย – ตรัย ภูมิรัตน” ก็ได้เผยโฉมออกมาในลุคของยักษ์จินนี่ และพี่บอยของเราก็ได้พกเพลง “ร่ม” พร้อมกับขอพรผ่านบทเพลง “ขอพื้นที่เล็กๆ” หลังจากร่วมร่ายรำไปกับยักษ์จินนี่แล้ว ก็ถึงเวลาข้ามดินแดนไปพบกับแขกรับเชิญคนสำคัญอีกคนหนึ่ง “ก้อ – ณฐพล ศรีจอมขวัญ” ที่มาในบทบาทจอมยุทธ์ ที่เตรียมเพลงน่ารักๆ อย่าง “เธอจะเชื่อไหม” หลังจากจบเพลง พี่เอ๊ะก็ได้หากิจกรรมสนุกๆ มาให้แฟนเพลงได้พักเบรคความสนุกกับเกมส์ทายเสียง “ใครคือพี่ก้อตัวจริง” เกมส์นี้พูดได้ว่าเรียกเสียงร้องของแฟนเพลงได้เป็นอับดับต้นๆ ของคอนเสิร์ตเลยทีเดียว หลังจากเกมส์น่ารักๆ ระหว่างเพื่อนร่วมวงการ และก็ถึงเวลาจอมยุทธ์ก้อจะต้องจากไปแล้ว เขาเลยมอบเพลง “เธอทั้งนั้น” ที่ทั้งละอองฟอง และพี่ก้อได้ร่วมร้องเพลงส่งท้ายโชว์
“ละอองฟอง ลานนี้ไม่มีเบื่อ คอนเสิร์ตใหญ่ Size S” ก็ได้เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายจริงๆ แล้ว แต่พวกเขาก็ได้มอบความสุขให้กับแฟนเพลงกันอย่างต่อเนื่องกับแขกรับเชิญคนสุดท้าย “ลิปตา” ที่ออกตัวในคราบแดนซ์เซอร์เท้าไฟเต้นใส่เสต็ปกันอย่างเต็มที่ พร้อมชวน ละอองฟอง มาร้องในเพลง “ง้อแง้งอแง” ต่อเนื่องด้วยอารมณ์แอบรักกับเพลง “ปฏิเสธอย่างไร” และ เพลง “รักเปิดเผย” บทเพลงที่ชวนเอาแขกรับเชิญ อย่าง “ก้อ – ณฐพล, บอย – ตรัย ภูมิรัตน” และ “ลิปตา” ออกมาโชว์ท่าเต้นน่ารักๆ ไปด้วยกันในแบบฉบับละอองฟอง ก่อนที่จะจบโชว์แสนประทับใจ ยังมี VTR ที่รวมเอาความรู้สึกของแฟนเพลงกับงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ ร้อยเรียงและตัดต่อกันสดๆ ออกมาเป็น VTR น่ารักๆ ให้ทุกคนได้เห็นถึงความรัก และความรู้สึกที่สัมผัสได้ของพวกเขาที่มีต่อละอองฟอง
และก็มาถึงเวลาของสองเพลงสุดท้ายที่ละอองฟอง จะมอบให้กับละอองแฟนเพื่อแทนความรัก ความห่วงใยถ่ายทอดออกมาเป็นเพลง “แอบชอบ” อีกทั้งยังมีกำลังใจก้อนโตจากแฟนเพลงชูป้าย “WE LOVE ละอองฟอง” และเพลงสุดท้ายที่ทำขึ้นมาพิเศษเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ในเพลง “รักไม่มีเบื่อ” ความประทับใจ และภาพความทรงจำในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ของทุกคนที่ได้มาในคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็นบทเพลง หรือโชว์สุดอลังการที่ทุกคนตั้งใจทุ่มเทที่จะมอบความสุขให้กับละอองแฟนทุกคนที่อยู่เป็นกำลังใจเคียงข้างกันมาตลอด เชื่อได้ว่าพลังรักที่ได้จากละอองแฟนในค่ำคืนนี้จะส่งให้ละอองฟองผลิตผลงานดีๆ ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันอีกนานแสนนาน