บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด จัดกิจกรรม “M Card Taiwan Exclusive Trip ชิม ชม ช้อป” นำคณะผู้บริหาร เดอะมอลล์ และสื่อมวลชน ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์ของไต้หวัน รวมถึงเรื่องอาหารการกินของไต้หวันที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่อาหารท้องถิ่นต้นตำรับ อาหารนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีทฟู้ดก็ไม่เป็นที่สองรองใคร ซึ่งนั่นถือเป็นความสนุกสนานของนักท่องเที่ยวที่ได้ลิ้มชิมรสอาหารประเภทต่างๆ ยามที่ได้มาเยือนที่ไต้หวัน และสำหรับทริปสุดพิเศษในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก “กูรูอิ๊งค์ พาชิม” ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ ผู้เชี่ยวชาญและนักชิมอาหารชื่อดังที่อาสาเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ พาเที่ยวตามสถานที่ต้องห้ามพลาด พร้อมพาชิมลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อระดับมิชลินสตาร์จากร้านดัง
วันที่ 1
โดยวันแรกเริ่มทริปด้วยการเสริมสิริมงคลให้กับทุกท่านด้วยการสักการะพระใหญ่ที่ วัดปากว้าซาน ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวข้างล่างได้ทั้งเมืองจางฮั้ว เมื่อเข้ามาถึงด้านในจะเห็นองค์พระใหญ่ที่มีความสูงถึง 24 เมตร ปางสมาธินั่งเด่นเป็นสง่าบนฐานบัว และปิดท้ายวันด้วยการรับประทานอาหารที่ภัตตาคาร MING YUE XUAN ภัตตราคารจีนตำรับกวางตุ้ง เสิร์ฟอาหารปรุงสดใหม่ด้วยวัตถุดิบดั้งเดิมและเครื่องเทศต่าง ๆ ปรุงสไตล์กวางตุ้ง
วันที่ 2
วันต่อมาออกเดินทางสู่ ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake ) ทะเลสาบที่ได้รับการกล่าวขานว่างดงามราวกับภาพวาด เปรียบเสมือนสวิสเซอร์แลนด์แห่งไต้หวัน ที่นี้ทุกท่านได้ล่องเรือและนั่งกระเช้าชมวิวแบบ 360 องศา เพื่อสัมผัสความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่งจากผืนน้ำสู่ยอดเขามีความสูงระดับ 600 – 2,000 เมตร ยาว 33 กิโลเมตร ทะเลสาบที่มีภูเขาสลับซับซ้อนล้อมรอบ ลักษณะภูมิประเทศที่โดดเด่น ทำให้ตัวทะเลสาบมองดูคล้ายพระอาทิตย์และพระจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าใครได้เยื้องกายเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ เป็นอันต้องตกหลุมรักกันทั้งนั้น ถึงเวลามื้อกลางวันทุกท่านได้ลิ้มรสอาหารที่ภัตตาคารขึ้นชื่อย่านทะเลสาป ภัตตาคารปลาประธานาธิบดี เมนูที่ห้ามพลาดก็ต้องเป็นเมนูปลาประธานาธิบดี เนื่องจากเป็นปลาที่พบได้มากที่ทะเลสาบแห่งนี้ ปลาประธานาธิบดีเป็นปลาสายพันธุ์หนึ่งที่ท่านประธานาธิบดีเจียงไคเช็กของไต้หวันชอบรับประทาน จึงเป็นที่มาของชื่อปลานั่นเอง สำหรับเมนูแนะนำ ได้แก่ “เมนูปลาประธานาธิบดีนึ่ง” โดยธรรมชาติปลาชนิดนี้จะมีเนื้อหวานอร่อย ด้วยเคล็ดลับจากทางร้านที่ทำให้ปลาไร้กลิ่นคาว นำมานึ่งกับน้ำซีอิ๊วกลิ่นหอมหวนที่ปรุงรสมาอย่างดี น้ำซีอิ๊วเมื่อรับประทานพร้อมกับเนื้อปลาแล้วเรียกว่าเป็นอาหารในตำนานเลยก็ว่าได้ ต่อด้วยเมนู “ขาหมูสูตรลับเคี้ยวทั้งกระดูก” ขาหมูที่นี่นอกจากอร่อย ไม่มันเลี่ยนแล้ว มีความพิเศษคือ เคี้ยวได้ทั้งกระดูก ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่สืบทอดการทำมาจากรุ่นสู่รุ่น ต่อด้วยการเยี่ยมชม วัดเหวินอู่ เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งของไต้หวัน ซึ่งภายในจะเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของศาสดาขงจื้อ และเทพกวนอู เป็นที่นับถือของชาวจีนและไต้หวัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาสักการะและขอพรด้านการศึกษา เพราะเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา และและเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาหลายพันปีว่า การได้บูชาเทพเจ้ากวนอู จะทำให้ได้ประสบพบแต่ความซื่อสัตย์ มีคนจงรักภักดีต่อผู้ที่บูชา ปราศจากคนปองร้ายและเชื่อว่าจะสามารถฝ่าฟัน หรือต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้ด้วยดี คิดการวางแผนหน้าที่การงานใดๆ ก็จะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ภายในวัดยังมี สิงโตหินอ่อนเหยียบลูกโลก 2 ตัว ที่ตั้งอยู่หน้าวัดซึ่งมีมูลค่าตัวละ 1 ล้าน โดยมาจากการที่มีคนมาขอพรที่วัดนี้แล้วสมดังใจหมาย จึงนำสิงโต 2 ตัวดังกล่าวมาถวายวัดฯ ปิดท้ายวันด้วยมื้อค่ำที่ TAIHODIEN (ภัตตาคารชาบูชาบูไต้หวันไท่เทยเตี้ยน) ชาบูถือเป็นอาหารยอดนิยมของประเทศไต้หวัน แต่สำหรับร้านชาบูไต้หวันที่เราขอติดดาวให้คือภัตตาคาร “TAIHODIEN” ชาบูระดับพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมกับการบริการที่เป็นเลิศ ที่แม้กระทั้งเซเลบริตี้หรือคนดังต้องยอมต่อคิวเพื่อมาสัมผัสรสชาติ เปิดบริการทุกวันไม่มีวันหยุด ทางร้านคัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ชาบูของร้านจะเสิร์ฟมาในหม้อที่แบ่งออกเป็น 2 น้ำซุป ปรุงรสโดยปราศจากสารปรุงแต่งต่าง ๆ ได้แก่น้ำ ซุปหมาล่า ที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมเครื่องเทศ รสชาติเผ็ดร้อน จัดจ้าน ซ่าที่ปลายลิ้น จาก “ฮวาเจียว” ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งในน้ำพริกหมาล่า อีกหนึ่งน้ำซุปคือน้ำ ซุปกระดูกหมู เมื่อซดไปจะได้มีกลิ่นหอมขึ้นจมูกหน่อยๆ ผสมผสานกับเนื้อปลาป่นที่ช่วยเพิ่มความหอมให้น้ำซุปมากยิ่งขึ้น นอกจากน้ำซุปที่เป็นพระเอกแล้ว ยังมีทีเด็ดคือ “MARBLED PORK” เนื้อหมูลายหินอ่อน เนื้อหมูที่มีไขมันแทรกอยู่ในชั้นเนื้อ เมื่อนำมาลวกกับน้ำซุปเลิศรส จะได้สัมผัสที่นุ่ม จนแทบละลายในปาก อร่อยไม่แพ้เนื้อวัวที่เสิร์ฟทั้ง PRIME FATTY BEEF และเนื้อวัวเกรดพิเศษ MARBLE BEEF นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบสดใหม่ระดับพรีเมี่ยมพร้อมเสิร์ฟอีกมากมาย อาทิ เกี๊ยวปลา เกี๊ยวกุ้ง ลูกชิ้นปลา ผักสด ฯลฯ
วันที่ 3
มุ่งหน้าสู่ เมืองนิวไทเป เขตปกครองใหม่ของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ที่ล้อมรอบเมืองหลวงอย่างไทเปในทุกๆ ทิศทาง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายเช่นเดียวกับเมืองไทเป เริ่มต้นที่ หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาในเมือง เป็นแหล่งเหมืองทองที่มีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยโบราณ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าท้องถิ่นในบรรยากาศบ้านเรือนและอาคารเก่าๆ เช่น โรงน้ำชา ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนมและอาหารต่างๆ โดยเฉพาะขนมเฉพาะสูตรเมืองจิ่วเฟิ่นเช่น บัวลอยเผือก เต้าหู้เหม็น ขนมโมจิ และไอศกรีมถั่วตัดผักชีแบบไต้หวัน ซึ่งในโซนนี้เองที่จะเห็นโรงน้ำชาที่เป็นอาคารไม้ตั้งเรียงรายลดหลั่นกันไปเหมือนกับในรูปภาพที่สวยงามจนเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนตร์ Animation เรื่องดังจากค่าย Studio Ghibli เรื่อง Spirited Away แวะลิ้มรสอาหารทะเลสดๆที่ ภัตตาคารซีฟู้ดกุ้งมังกร ภัตตาคารอาหารซีฟู้ดท้องถิ่น บรรยากาศร้านแบบธรรมดาๆ แต่โดดเด่นด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี สด ใหม่ สำหรับเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน คงจะหนีไม่พ้นเมนูที่ปรุงจาก “กุ้งมังกร” ที่นำมารังสรรค์เมนูที่เรียบง่ายแต่พิเศษที่รสชาติ อย่าง “ กุ้งมังกรนึ่ง ” ด้วยกุ้งมังกรที่สดบวกกับการนึ่งในเวลาที่พอดี ทำให้ได้กุ้งมังกรนึ่งรสหวาน ไม่แข็งกระด้าง “สลัดกุ้งมังกร” รับประทานคู่กับผลไม้สด เข้ากันได้เป็นอย่างดี รับประทานแล้วรู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกเช่น “ซุปปู” และ “ปลาทอด” นำเนื้อปลามาแล่เป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปทอดจน เหเป็นสีทอง เหลืองกรอบ จากนั้นเดินทางกันไปต่อที่ อุทยานเย่หลิว เป็นอีกสถานที่ที่ต้องไปให้ได้ของประเทศไต้หวัน อุทยานเย่หลิวตั้งอยู่ในภาคเหนือของเกาะไต้หวัน พื้นที่ของอุทยานเย่หลิวมีลักษณะเป็นแหลมทอดยาวออกไปในทะเล ประกอบด้วยโขดหินชะง่อนรูปร่างต่างๆ เช่น รูปเทียน ดอกเห็ด รังผึ้ง ที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก และการกัดกร่อนของน้ำทะเลและลมทะเล โดยเฉพาะพระเศียรราชินี รองเท้าเทพธิดา ซึ่งมีชื่อเสียงในเกาะไต้หวัน ยังไม่จบเพียงเท่านี้ไปต่อกันที่เมืองไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน และใหญ่ที่สุดบนเกาะไต้หวัน โดยตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ นอกจากนี้ไทเปยังถูกยกให้เป็นเมืองญี่ปุ่นขนาดย่อมอีกด้วย เป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมของไต้หวันและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด แวะชิมชานมไขมุกร้านดังของไทเป ก่อนจะเดินทางไปต่อที่ ตึกไทเป 101 หนึ่งใน Landmark หลักของเมืองไทเป เป็นตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน และสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก (ปี 2004 เคยสูงที่สุดในโลก) มีความสูงมากถึง 508 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเมื่อมาเยือนไทเป ตึกไทเป 101 มีทั้งหมด 101 ชั้นตามชื่อ และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น ที่ชั้น 1-5 จะเป็นส่วนของห้างสรรพสินค้าที่ขายของแบรนด์เนม ร้านค้าร้านอาหารต่างๆ โดยที่ชั้น 5 จะมีเคาน์เตอร์ขายตั๋วสำหรับขึ้นลิฟท์ไปยังจุดชมวิวที่ชั้น 89 ที่เรียกว่า Taipei 101 Observatory ซึ่งเป็นลิฟท์ที่ได้รับการลงเป็นสถิติว่าเร็วที่สุดในโลกโดยกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด (Guinness Book World Records) ที่ความเร็ว 1,010 เมตรต่อนาที โดยภายในลิฟท์จะมีหน้าจอที่เพดานลิฟท์เหมือนว่าเรากำลังพุ่งออกไปในอวกาศให้ชมระหว่างอยู่ในลิฟท์ด้วย ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีก็ขึ้นมาถึงชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวกว้างๆ อยู่ในอาคาร จากนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปที่ลานชมวิวกลางแจ้งที่ชั้น 91 และสามารถเดินลงที่ชั้น 88 เพื่อไปดูลูกตุ้มยักษ์ Wind Damper ที่ช่วยเรื่องการทรงตัวของตึกเมื่อรับมือกับแผ่นดินไหวและลมพายุอีกด้วย ก่อนส่งทุกท่านเข้านอนด้วยมื้อค่ำสุดพิเศษที่ ติ่น ไท ฟง ( DIN TAI FUNG ) ภัตตาคารจีนต้นกำเนิดจากไต้หวัน จนได้ รับประกันความอร่อยจากนิตยสารไทม์ของอเมริกา อีกทั้งได้รับการจัดเป็นภัตตาคารดีที่สุดติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก ที่สืบทอดตำรับแบบไต้หวันแท้มานานกว่า 40 ปี โดยในปัจจุบันได้ขยายไปยังสาขาต่างๆ ทั่วโลก ด้วยรสชาติอันลงตัว ส่วนประกอบชั้นเลิศ และการปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเมนูโด่งดังของร้านที่ทุกคนต้องลิ้มลอง คือ “เสี่ยวหลงเปา” ที่โชว์ฝีมือเชฟด้วยการจับจีบแป้งให้ได้ 18 จีบ และการใส่น้ำซุปลงไปในไส้ ด้วยเนื้อแป้งที่เนียนนุ่มบางใส กับไส้ที่ปรุงรสแต่พอดีเพื่อให้ได้รสตามธรรมชาติ มีให้เลือกรับประทานหลากหลายไส้ ทั้งไส้หมู ไส้ปู ไส้กุ้ง เมนูที่ห้ามพลาดอีกอย่างคือ เกี๊ยวไส้ผัก เกี๊ยวไส้กุ้ง ซุปขึ้นชื่อของ ติ่น ไท ฟง คือ “ซุปไก่” หอมได้รสชาติไก่ ที่คัดสรรเฉพาะไก่มีคุณภาพ ตุ๋นนานถึง 6 ชั่วโมง จนได้รสชาติน้ำซุปอ่อนๆ ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องใส่เครื่องยาจีน ที่สำคัญร้านนี้ยังให้ความสำคัญกับความสะอาดเป็นที่สุด แต่งกายด้วยเครื่องแบบของางร้าน และเก็บผมให้เรียบร้อย พร้อมสำหรับปรุงอาหาร
วันที่ 4
ปิดท้ายเอ๊กซ์คลูซีฟ ทริป วันสุดท้าย ที่วัดเจ้าแม่กวนอิมหลินซาน วัดเก่าแก่กว่า 260 ปีที่สร้างขึ้นปีค.ศ.1738 ในสมัยราชวงศ์ชิง สักการะเจ้าแม่กวนอิมพันมือ และเสริมสร้างความมั่งคั่งให้ทุกท่านกับพิธีโกยเงินโกยทอง ต่อด้วยมื้อไฮไลท์ประจำทริปสัมผัสรสชาติอาหาร ระดับมิชลิน 2 ดาวที่ภัตตาคาร THE GUEST HOUSE ของโรงแรมเชอราตัน แกรนด์ ไทเป โดยจุดเด่นของร้านอยู่ที่ความเชี่ยวชาญของเชฟกับการรังสรรค์เมนู ดูสวยงามน่าทาน มีรสชาติและ รสสัมผัสดีเยี่ยม เมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารจีนหูหนานและเสฉวน แต่สอดแทรกความเป็นไต้หวันเข้าไป เมนู signature ได้แก่ ซุปกระเพาะปลาตุ๋น ล๊อบสเตอร์นึ่งซอสพริก เป๋าฮื้อและปลิงตุ๋นกับต้นหอม เป็ดกรอบหนังบาง เนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำ ข้าวมันไก่ใส่น้ำมันงาหอมกลิ่นเหล้าจีนตัดเลีย่นได้ดีด้วยขิง สำหรับเมนูของหวานหารับประทานได้ยากยิ่ง “Sweetened Hasma Soup with Crystal Sugar and Pear” ไขมันที่อยู่ในตัวกบ ที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า ไข่กบในน้ำเชื่อมเสริฟคู่น้ำตาลคริสตัลและลูกแพร โดยเมนูของหวานนี้จะถูกเสิร์ฟเฉพาะที่ภัตตาคารจีนระดับสูงเท่านั้น เดินทางต่อเพื่อไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของ อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก จุดหมายหลักที่นักเดินทางทุกคนต้องมาเยือนที่นี่ ตัวอาคารใหญ่โตพร้อมกับลานกว้างนั้นสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงท่านเจียงไคเช็ก อดีตประธานาธิบดีแห่งไต้หวันที่ได้ถึงแก่อสัญกรรมไปแล้ว ตัวอาคารโดดเด่นด้วยสีขาว ตัดกับหลังคาแปดเหลี่ยมกระเบื้องสีน้ำเงินเบื้องบน ภายในจะมีรูปปั้นสำริดของท่านนั่งอยู่ และพลาดไม่ได้กับการเปลี่ยนเวรยามของทหาร ซึ่งจะมีเป็นรอบๆ เท่านั้น แนะนำให้ไปช่วงตอนเปลี่ยนกะ จะได้เห็นพิธีการที่ดูขึงขัง ภายนอกยังมีลานกว้างและซุ้มประตูขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาตามหลักฮวงจุ้ย
รวมทั้งไม่พลาดเลือกช้อปของฝากยอดนิยมจากไต้หวัน อาทิ พายเค้กสับปะรด ขนมสุดฮิตของไต้หวัน, ขนมตังเมไต้หวัน, แผ่นมาส์กหน้า และยังมีสินค้าขึ้นชื่อจากไต้หวันให้เลือกซื้อมากมาย นอกจากนี้ทริปนี้เรียกได้ว่าเป็น เอ็กซ์คลูซีฟทริป สำหรับสมาชิกบัตร M Card เมื่อผู้บริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย ม.ล.ภาสันต์ สวัสดิวัตน์ ได้เซอร์ไพรซ์วันเกิดให้กับลูกค้าที่ร่วมทริปในครั้งนี้ งานนี้สร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับผู้ร่วมเดินทางทุกท่าน โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ แบบนี้ได้ผ่านทาง Facebook: mcardforall, www.mcardshop.com หรือโทรสอบถามได้ที่ M Card Call Center 02-789-5555
