จุดประกายวงการดิจิตอลไทยร่วมเปิดความคิด เปลี่ยนมุมมองเรื่องTV+ YouTube
กรุงเทพฯ 2 มิถุนายน 2558 – บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทเดนท์สุ อีจิส เน็ตเวิร์ค (Dentsu Aegis Network) ได้ร่วมกับ Google ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวแนวคิดใหม่ของกลยุทธ์ด้านการจัดการบริหารการซื้อสื่อ ที่เรียกว่า TV+ โดย TV+ ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุดภายใต้โปรแกรม iGRP ของเดนท์สุ มีเดียฯ ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนธุรกิจและแบรนด์ต่างๆให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงในยุคแห่งโลกออนไลน์ ผ่านการวางแผนการจัดการสื่อบนแพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง TV+ ยังมีความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เด็กนักเรียน นักศึกษา และวัยหนุ่มสาวที่มีไลฟ์สไตล์ใกล้ชิดกับ YouTube ได้ดียิ่งขึ้น
จากผลการศึกษา YouTube Thailand Profiling Study 2015 ระบุว่า 85% ของคนไทยนิยมค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจผ่านช่องทาง YouTube ซึ่งมีความง่ายดายกว่าการค้นหาเนื้อหาที่สนใจผ่านทางสื่อโทรทัศน์ อีกทั้ง YouTube กลายเป็นช่องทางแรกที่จะถูกนึกถึงเมื่อผู้ชมพลาดรายการสำคัญทางโทรทัศน์ อย่างไรก็ดี โปรแกรม TV+ ถือเป็นกลยุทธ์รูปแบบใหม่ของการซื้อสื่อที่ได้ผนวกรวม YouTube และสื่อโทรทัศน์เข้าไว้ในแผนการจัดซื้อเดียวกัน โดยจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้าได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
มร. มิตซูยูกิ นาคามูระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด และประธานบริษัท เดนท์สุ มีเดีย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอดิจิตอลที่สามารถเชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าของเราให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยทั่วไปที่เลือกรับชมรายการผ่านสื่อโทรทัศน์ปกติได้อีกด้วย ปัจจุบันเดนท์สุ มีเดียฯ กำลังดำเนินการเชิงรุกในการแนะนำ TV+ ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดภายใต้โปรแกรม iGRP ให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีที่เดนท์สุ มีเดียฯได้ร่วมงานกับ Google ประเทศไทย เพื่อผนึกกำลังสร้างความสำเร็จให้แก่ลูกค้าของเราทั้งในปัจจุบันและอนาคต”
ด้าน นายอริยะ พนมยงค์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจ Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ ต้องยกเครดิตให้ YouTube ที่สามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การรับชมของผู้บริโภครุ่นใหม่ในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เพราะคนรุ่นใหม่จะมีอิสระในการเลือกสื่อ ช่องทางการรับชม และรูปแบบรายการให้ตรงตามความต้องการของตนเองได้เหมาะสม อย่างไรก็ดี TV+ ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของการจัดซื้อสื่อในประเทศไทย ที่สามารถตอบโจทย์ด้วยการนำเสนอรูปแบบทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเน้นความคุ้มค่าของสื่อ หรือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจะสร้างแบรนด์จากเนื้อหาที่ออกแบบมาสำหรับเว็บไซต์โดยเฉพาะ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Brand Engagement) ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นภายใต้กลยุทธ์ด้านเนื้อหาที่ครอบคลุมและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย”
“ผมรู้สึกยินดีที่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทเดนท์สุ มีเดียฯ ในการผลักดัน TV+ ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น และผมมั่นใจศักยภาพของเดนท์สุ มีเดียฯ ที่มีความแข็งแกร่งด้านรูปแบบวีดีโอดิจิทัล รวมถึงความชำนาญในการนำเสนอแคมเปญสื่อโฆษณาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆได้” นายอริยะกล่าวเสริม
อย่างไรก็ดี เดนท์สุ มีเดียฯ และ Google ประเทศไทย จะร่วมกันวางแผนการบริหารสื่อเชิงบูรณาการ เรียกว่า การวางแผนสื่อโทรทัศน์แบบองค์รวม (TV Planning ecosystem) โดยเริ่มต้นกระบวนการตั้งแต่การจัดการวางแผน กำหนดเรตติ้ง วิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการวางกลยุทธ์ กำหนดแผนงาน และการปรับปรุงงานออกแบบสร้างสรรค์อย่างเหมาะสม (Creative Optimization)
“TV+ มีศักยภาพที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการวางแผนสื่อโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะ TV+ สามารถที่จะปรับการวางแผนสื่อให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคได้ทันการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเนื้อหาไม่ถูกจำกัดอยู่หน้าจอเดียวอีกต่อไป และทุกแบรนด์สามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกที่ ทุกเวลา” มร. นาคามูระกล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง บริษัท เดนท์สุ มีเดีย (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับรางวัล Thailand Media Agency of the year Silver Award จากงานประกาศผลรางวัล Campaign Asia-Pacific Agency of the Year ประจำปี 2014 ซึ่งงานดังกล่าวถูกจัดขึ้นโดยนิตยสาร Campaign Asia-Pacific ที่ถือได้ว่าเป็นนิตยสารชั้นนำด้านโฆษณาและการสื่อสารการตลาดในแถบภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค โดยรางวัลดังกล่าวนับเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจเพราะได้ตอกย้ำให้เห็นถึงศักยภาพของทีมงานที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ จนเป็นที่กล่าวขานและได้รับยอมรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ