1

เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เปิดแผนรุกตลาดด้วยหนังโฆษณาใหม่ ย้ำแบรนด์อันดับ 1 เจาะกลุ่มผู้หญิง-สุขภาพ

ค่ายทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด เจ้าตลาดเครื่องดื่ม ฟังก์ชั่นนอลดริ้ง ภายใต้แบรนด์  “เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์” (Sappe Beauti Drink) เผยยอดรายรับปีที่ผ่านมากว่า 1.8 พันล้านบาท เตรียมเดินหน้ารุกตลาดไตรมาส 2 เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ “สถิติความสวย” เพื่อตอกย้ำแบรนด์ผู้นำอันดับ 1 เครื่องดื่มเพื่อความสวยของผู้หญิง ตั้งเป้าปี 56 เติบโตขึ้นอีก 20%

 

นายอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานในอัตราที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยสร้างยอดขายรวมทั้งหมดเป็นมูลค่ากว่า 1,800 ล้านบาท จากกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัททั้ง 6 แบรนด์ ประกอบด้วย เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, เซ็ปเป้ สมา-ที ดริ้งค์, เซ็ปเป้ ฟอร์วันเดย์, โมกุ โมกุ, เซนต์แอนนา และเพรียว (คอฟฟี่, คลอโรฟิลล์) เนื่องจากบริษัทเน้นกลยุทธ์ในเรื่องของการคิดค้น และพัฒนาสินค้าประเภทเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพ ของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ผู้บริโภคทานแล้วเห็นผลที่ชัดเจน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ และความสวยงาม และผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 เอง ก็มีอัตราการเติบโตกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่ายังคงครองยอดขายเป็นอันดับ 1 ของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์โดยรวมนั่นเอง

 

สำหรับในช่วงไตรมาส 1 ปี 2556 ที่ผ่านมา แนวโน้มของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ มีอัตราการเติบโตจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น และมีการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นการรับรู้ของผู้บริโภค ทำให้มีการขยายกลุ่มเป้าหมายรวมมากขึ้น สำหรับเซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ นั้น ได้เตรียมรุกตลาดในไตรมาส 2 ต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ “สถิติความสวย” เพื่อสื่อสารและตอกย้ำความเป็นผู้นำของตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชั่นนอลดริ้งค์ ที่มียอดขายมากกว่า 52 ล้านขวดในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งจะมีการใช้กลยุทธ์ทางการสื่อสารใหม่ๆ อาทิ การตลาดแบบออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช้สื่อใหม่อย่างกลุ่ม นักศึกษา คนวัยทำงานอายุ 18-35 ปี และกลุ่มผู้หญิงที่ต้องการสวยดูดีในแบบของตัวเอง ซึ่งจากการเปิดตัวแคมเปญครั้งนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถสร้างรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาทหรือเติบโต 20%