เจ.ดี.พูลส์ ประกาศรุกตลาดสระว่ายน้ำ พร้อมก้าวสู่บริษัทพันล้าน

0
275
image_pdfimage_printPrint

กลุ่มบริษัท เจ.ดี.พูลส์ ปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ หลังซุ่มลงทุนกว่า 200 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิต รองรับตลาดสระว่ายน้ำเติบโต พร้อมพัฒนารูปแบบการลงทุนขยายสาขา ด้วยระบบแฟรนไชส์รับสร้างสระว่ายน้ำ เผยปี58 กวาดยอดขายกว่า 800 ล้านบาท ปัจจัยความสำเร็จเกิดจากการตอบสนองตลาดทั้งในและต่างประเทศ ชี้เศรษฐกิจชะลอแต่ไม่กระทบธุรกิจ สระว่ายน้ำ เล็งขยายสาขาเพิ่มครบ 23 สาขาปีนี้ ตั้งเป้าโกยยอดขายแตะ 1,000 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 20 ชูจุดแข็งประสบการณ์ 19 ปี ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นแบรนด์เจ.ดี.พูลส์

นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เจ.ดี.พูลส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายสระว่ายน้ำนวัตกรรม สร้างสระเร็ว มาตรฐานสูง และรับประกันยาวนานกว่า พร้อมบริการหลังการขายอย่างครบวงจร เปิดเผยว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ จากเดิมที่เป็นผู้นำเข้าสระว่ายน้ำและอุปกรณ์เพื่อจำหน่ายในปี 2540 ได้พัฒนาธุรกิจสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอง โดยก่อสร้างโรงงานเพิ่ม 10,000 ตารางเมตร บนพื้น 12 ไร่ เพื่อขยายกำลังการผลิตและเป็นสถาบันสอนธุรกิจสระว่ายน้ำในปี 2557 ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท พร้อมทั้งปรับรูปแบบลงทุนขยายสาขามาเป็นระบบแฟรนไชส์รับสร้างสระว่ายน้ำในปีเดียวกัน ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศรวม 19 สาขา ภายใต้นโยบายการให้บริการและคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคิดค้นนวัตกรรมการสร้างสระเร็ว มาตรฐานสูงและรับประกันยาวนานกว่า และสินค้าใหม่ๆ นำเสนอเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น

“ปี 2558 บริษัทฯ มียอดขาย 800 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนร้อยละ 20 โดยปัจจัยของความสำเร็จเกิดจากการตอบสนองพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค ที่หันมานิยมติดตั้งสระว่ายน้ำภายในบ้านมากขึ้น ด้วยเพราะเล็งเห็นว่าสระว่ายน้ำเสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งของบ้าน ทำให้บ้านดูมีความทันสมัยและมีระดับ รวมถึงกระแสความนิยมการรักษาสุขภาพ ใช้สระว่ายน้ำเพื่อการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยของผู้สูงอายุ ใช้การแช่สระน้ำอุ่นเพื่อให้เกิดความอบอุ่นของร่างกาย รวมทั้งการเติบโตของตลาดสระว่ายน้ำในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศแถบอาเซียนที่เปิดประเทศรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC และปรับตัวเข้าสู่ประเทศท่องเที่ยว ซึ่งมีความต้องการสระว่ายน้ำเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในแต่ละประเทศ โดยเจ.ดี.พูลส์ เป็นผู้ส่งออกสระว่ายน้ำในหลายๆ ประเทศ” นายธนูศักดิ์ กล่าว

นายธนูศักดิ์ ประเมินว่าตลาดรับสร้างสระว่ายน้ำในประเทศปี 2559 มีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มเติบโต แต่อาจไม่หวือหวามากนัก สืบเนื่องจากผู้บริโภคและนักลงทุนบางกลุ่มยังมีความระมัดระวังการลงทุน และรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดสระว่ายน้ำยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เนื่องจากสระว่ายน้ำกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง ที่บ่งบอกความทันสมัย สะท้อนถึงฐานะ กอปรกับเทรนด์ดูแลสุขภาพที่กำลังมาแรงได้ส่งผลดีต่อตลาดสระว่ายน้ำอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโรงแรม รีสอร์ท และโครงการพักอาศัย ก็จำเป็นต้องมีสระว่ายน้ำเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ เพื่ออัพเกรดให้มีความเป็นพรีเมี่ยมและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการอีกทางหนึ่ง ปัจจัยบวกอีกประการที่เอื้อต่อการเติบโตของตลาดสระว่ายน้ำคือ ปัจจุบันราคาของสระว่ายน้ำถูกลงกว่าในอดีต และธนาคารจัดหมวดหมู่สระว่ายน้ำเป็นของตกแต่งบ้าน ผู้บริโภคสามารถกู้สร้างสระพร้อมบ้านได้ด้วย ส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของสระว่ายน้ำได้ง่ายขึ้น

“ปี 2559 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยกลยุทธ์การตลาดที่วางไว้จะเน้น 3 ส่วนหลักๆ คือ 1. ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้กว้างขึ้น โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าใหม่ และเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าเดิม เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ผ้าปิดคลุมสระว่ายน้ำเพื่อความปลอดภัย (Safety Pool Cover) การออกแบบสระว่ายน้ำลายกระเบื้อง ระบบเกลือฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำแทนคลอรีน เป็นต้น และ 2.การขยายโชว์รูมในรูปแบบแฟรนไชส์ ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์สระว่ายน้ำ ในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 4-5 จังหวัด ทั้งในจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง 3. การขยายตลาดต่างประเทศ ในกัมพูชา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย”

ในส่วนของกิจกรรมทางการตลาดปีนี้ จะเน้นออกบูธงานแฟร์ต่างๆ เพื่อแนะนำบริษัทและผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่รู้จักแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้ง 2 กลุ่มคือ กลุ่มลูกค้าทั่วไป ที่ต้องการติดตั้งสระว่ายน้ำภายในบ้าน และกลุ่มนักลงทุน ได้แก่ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ท พูลวิลล่า หมู่บ้านและคอนโดฯ แบ่งสัดส่วนเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไปร้อยละ 70 และกลุ่มนักลงทุนร้อยละ 30 ทั้งนี้ เจ.ดี.พูลส์ นั้นอยู่ในธุรกิจสระว่ายน้ำมานานกว่า 19 ปี เป็นที่รู้จักและยอมรับในฐานะผู้นำนวัตกรรมสระว่ายน้ำที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก ผลิตจากโรงงานชั้นนำใหญ่ที่สุดในอาเซียนด้วยพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 12 ไร่ มีจุดเด่นที่แตกต่างจากตลาด คือ มีสระว่ายน้ำให้เลือก 2 แนวคิด คือ 1.แบบยุโรป สระว่ายน้ำคอนกรีตผนังสำเร็จอัจฉริยะ (iPanel Liner Pools) 2. แบบออสเตรเลีย สระดีไซน์สำเร็จรูป (Composite Pools) ใช้ระยะเวลาก่อสร้างและติดตั้งรวดเร็วภายใน 1-3 สัปดาห์ มีโชว์รูมหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการสาขาใกล้บ้านที่สะดวกที่สุด และที่สำคัญมีบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน โดยที่ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล เมื่อติดตั้งสระเจ.ดี.พูลส์ นายธนูศักดิ์ กล่าวสรุป

เกี่ยวกับบริษัท
กลุ่มบริษัท เจ.ดี.พูลส์ เป็นบริษัทของคนไทย ได้ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี พ.ศ. 2540 ณ จังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ริเริ่มนำมาตรฐานใหม่ของสระว่ายน้ำมาสู่ตลาดเมืองไทย ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ของสระว่ายน้ำอย่างไม่หยุดยั้ง จนได้รับมาตรฐาน ISO9000 พร้อมสร้างสมความเชี่ยวชาญการให้บริการอย่างครบวงจรแบบ One Stop Services ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งอุปกรณ์ และติดตามดูแลรักษาสภาพสระ จากประสบการณ์ 19 ปี ในการสร้างสระว่ายน้ำกว่า 12,000 ลูก ทั่วประเทศไทย ปัจจุบัน เจ.ดี.พูลส์ มีสาขาในประเทศรวม 19 สาขา ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เชียงราย หาดใหญ่ หัวหิน กาญจนบุรี ขอนแก่น เกาะช้าง กระบี่ นครราชสีมา นครสวรรค์ พิษณุโลก ภูเก็ต ระยอง สมุย สมุทรปราการ สระบุรี อุบลราชธานี และอุดรธานี และมีสาขาในต่างประเทศ 6 สาขา ได้แก่ พม่า ลาว เวียดนาม อินเดีย อียิปต์ และโมร็อคโค และส่งออกสระว่ายน้ำ ชิ้นส่วนประกอบสระว่ายน้ำ สู่ตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง ยุโรป และออสเตรเลีย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังก่อตั้งบริษัท พูล โปรแอนด์แล็บ จำกัด เพื่อเป็นศูนย์บริการ และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสระว่ายน้ำ และการดูแลปรับสภาพน้ำในสระผ่านแล็บ ด้วยเครื่องมือ และนวัตกรรมการตรวจสอบคุณภาพน้ำ Smart Water Scanning และพิมพ์รายงานคุณภาพน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้ปรับคุณภาพน้ำ และรับบริการดูแลสระว่ายน้ำทุกประเภท เพื่อให้น้ำในสระมีคุณภาพดีที่สุด ด้วยความใส่ใจดูแลลูกค้าจากใจจริงอย่างมืออาชีพ