“เจ้าพระยา รีเวอร์ ไลน์” ส่งเรือท่องเที่ยวโฉมใหม่ “Hop on Hop off Boat 4U” ร่องแม่น้ำเจ้าพระยา

0
555
image_pdfimage_printPrint

“เจ้าพระยา รีเวอร์ ไลน์” ส่งเรือท่องเที่ยวโฉมใหม่ “Hop on Hop off Boat 4U” ร่องแม่น้ำเจ้าพระยา ยกระดับคุณภาพ และความปลอดภัยสูงสุด ทั้งตัวเรือ และอุปกรณ์ ผลิตเรือโดย “สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น”

“เจ้าพระยา รีเวอร์ ไลน์” ผู้ให้บริการเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเรือท่องเที่ยว “Hop on Hop offBoat 4U” ที่พัฒนา และยกระดับการให้บริการที่มีมาตรฐาน และความปลอดภัยสูงสุด ทั้งด้านตัวเรือ อุปกรณ์ และการนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารมาใช้ เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับมาตรฐานการให้บริการที่ดีด้วยเรือที่ถูกออกแบบ และผลิตตัวเรือเป็นอลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง แต่น้ำหนักเบา ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัยปลอดภัย พร้อมด้วยการให้บริการที่รวดเร็วตรงเวลา ผลิตเรือโดย “สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น” ประเดิมนำร่อง 2 ลำ จอด 7 ท่า แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ประวัติศาสตร์ พื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ และจะทยอยให้บริการคาดว่าจะครอบทั้ง 4 ลำภายในเดือน เม.ย.นี้

ซึ่งการเปิดตัว “Hop On Hop off Boat 4U” ใหม่นี้ ได้รับเกียรติจาก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดตัวเรือ “Hop On Hop off Boat 4U” พร้อมด้วย นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และนายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เข้าร่วมงาน และแสดงความยินดี พร้อมร่วมทดลองนั่งเรือไปตามเส้นทาง โดยมี นายนำชัย สกุลฎ์โชคนำชัย ประธานกลุ่มบริษัท โชคนำชัย และบริษัทสกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ผู้ผลิตยานยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเรืออลูมิเนียมคอยให้รายละเอียดของตัวเรืออีกด้วย

โดยเรือบริการท่องเที่ยว “Hop On Hop off Boat 4U” เป็นการพัฒนาการให้บริการเรือท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งในด้านวัสดุของตัวเรือ ที่ออกแบบและผลิตออกมาอย่างมีมาตรฐาน เครื่องยนต์ควบคุมการเข้า-ออกเรือที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร อาทิ จีพีเอส จอแสดงผลบอกเส้นทางการเดินเรือ รวมถึงการใช้ระบบออกตั๋วแบบอิเลคทรอนิกส์ (Smart POS) เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเดินทางท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมต่อยอดนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น

นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯจะนำเรือรูปแบบดังกล่าวมาให้บริการจำนวน 4 ลำ ซึ่งได้เปิด 2 ลำแรกก่อน พร้อมให้บริการตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ.เป็นต้นไป ส่วนอีก 2 ลำจะทยอยให้บริการคาดว่าจะครอบทั้ง 4 ลำภายในเดือน เม.ย.นี้ สำหรับการให้บริการนั้นจะรับส่งนักท่องเที่ยวทุกวันตั้งแต่เวลา 9.30น.-19.00 น. ใน 7 ท่าเรือสำคัญพื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ได้แก่ ท่าเรือสาทร ท่าเรือไอคอนสยาม ท่าเรือยอดพิมาน ท่าเรือวัดอรุณฯ ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือพรานนก และท่าเรือพระปิ่นเกล้า ผู้โดยสารสามารถวางแผนท่องเที่ยว

สำหรับบัตรโดยสารมีให้เลือกหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นสำรองบัตรโดยสารออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท www.chaophrayariverline.co.th หรือโทร +662-401-0049 โดยมีให้เลือกหลายราคา ได้แก่ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว ราคา 60 บาทสามารถขึ้นลงได้เพียงครั้งเดียว และบัตรโดยสารประเภทชั่วโมง คือ 24 ชั่วโมง ราคา 200 บาท 48 ชั่วโมง ราคา 300 บาท และ 72 ชั่วโมง ราคา 400 บาท ซึ่งสามารถใช้บริการได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งและมีอายุการใช้งานตามชั่วโมงที่ซื้อ

ทางด้าน นายวีรพลน์ เตชะผาสุขสันติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด ผู้ผลิตยานพาหนะสมัยใหม่ Light Weight Aluminum ผู้ผลิตเรือท่องเที่ยว “Hop On Hop off Boat 4U” กล่าวว่า เรือลำนี้เป็นเรือโดยสารผลิตขึ้นรูปเรือโดยใช้วัสดุ อลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแรง ตัวเรือเป็นรูปแบบ CATAMARAN หรือชนิด 2 ท้อง ขนาด 18 เมตร 2 ชั้น มีความทันสมัย ประหยัดน้ำมัน คล่องตัว มีอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย และมีประกันภัยการเดินทางสำหรับผู้โดยสารทุกท่าน ด้วยเครื่องยนต์อินบอร์ด Cummins ขนาด 247 แรง 2 เครื่อง พร้อมระบบความปลอดภัยมีห้องอัพเฉพาะภายใต้ท้องเรือ ทั้งภายในเรือจะมีอุปกรณ์ช่วยเหลือด้านความปลอดภัย (Safety Equipment) ตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนด และระบบSMART ได้ติดตั้งระบบ GPS แสดงตำแหน่งของเรือที่จะเชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายในเรือ เพื่อแจ้งรายละเอียดการเดินทางและปลายทาง ติดตั้งกล้องวงจรปิด

“ทั้งนี้การให้บริการเรือ ท่องเที่ยว “Hop On Hop off Boat 4U” จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนในการเลือกรับบริการที่ดี มีมาตรฐาน และมีความปลอดภัยสูง จาก “เจ้าพระยา ริเวอร์ ไลน์” ทั้งยังเป็นการส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวทางน้ำ และระบบคมนาคมขนส่งทางน้ำของประเทศ ให้มีภาพลักษณ์ใหม่กับการเดินทางท่องเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยา และส่งเสริมระบบการให้บริการเรือท่องเที่ยวที่มีมาตรฐานให้บริการที่ดีต่อไป” นายวีรพลน์ กล่าวปิดท้าย