เจาะกลยุทธ์การผลิตหน้ากากอนามัยของรัฐบาลและบริษัทของไต้หวันช่วงโควิด-19 ระบาด
ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่มีใครคาดคิดว่าหน้ากากอนามัยชิ้นบางเบาจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ตามมาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาที่ต้องรับมือกับโรคระบาด สินค้าหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพจากไต้หวันแสดงถึงศักยภาพที่โดดเด่นของไต้หวันในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยปกติแล้ว ตลาดสินค้าหน้ากากอนามัยมีการแข่งขันสูงทำกำไรได้น้อยและต้องคืนทุนอย่างรวดเร็ว แต่ผู้ผลิตของไต้หวันสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดโดยการผลิตหน้ากากอนามัยคุณภาพสูงเพื่อความมั่นใจในการปกป้องในช่วงเวลาที่ต้องรับมือกับโรคระบาด จาก 94 เปอร์เซ็นต์ของหน้ากากอนามัยประเภทที่มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศ ไต้หวันเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่โดยมีมูลค่าการส่งออกเกิน 40 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการส่งออกหน้ากากอนามัยทั้งหมด โดยประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกหน้ากากอนามัยสูงสุด ได้แก่ สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์และสวิตเซอร์แลนด์
มาตรการควบคุมการผลิตและส่งออกที่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลไต้หวันในปัจจุบันหลายประเทศกำลังรับมือกับการแพร่กระจายของโรคระบาดที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดและเริ่มควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศ ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563 รัฐบาลไต้หวันออกประกาศห้ามส่งออกหน้ากากอนามัยที่ผลิตในไต้หวัน เพื่อรักษาปริมาณสินค้าในประเทศและเสถียรภาพในการทำงานของหน่วยงานแนวหน้าในการป้องกันโรค รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากผู้ผลิตหน้ากากอนามัยในประเทศ 29 รายเพื่อควบคุมจำนวนสินค้าในประเทศและควบคุมราคาขายให้เสมอภาคกัน
ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ไต้หวันได้ใช้ระบบรวบรวมข้อมูลหน้ากากอนามัย มาตรการควบคุมดังกล่าวนำมาใช้ร่วมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของไต้หวัน ซึ่งระบบการควบคุมนี้กำลังถูกนำมาใช้ทั่วโลกอย่างรวดเร็ว หน้ากากอนามัยซึ่งเคยหาซื้อได้ง่ายในชีวิตประจำวันกลายเป็นสิ่งพิสูจน์ความสำเร็จของไต้หวันและมีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคระบาด นอกจากนี้ผู้ผลิตเครื่องจักรในไต้หวันยังช่วยสนับสนุนการสร้างไลน์การผลิต โดยในช่วงกลางมีนาคมนี้ ไต้หวันจะผลิตหน้ากากอนามัยได้ถึง 10 ล้านชิ้นต่อวัน
ในปี พ.ศ. 2562 มูลค่าการส่งออกหน้ากากอนามัยของไต้หวันมีมูลค่า 18.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.2 เปอร์เซ็นต์จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่า 16.79 ล้านเหรียญสหรัฐ โรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยมากที่สุดจำนวนสามแห่งในไต้หวัน ได้แก่ MOTEX, CSD และ CHAMP
ในปัจจุบันโรงงานทั้งสามแห่งกำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลในการผลิตหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะ MOTEX ซึ่งตั้งอยู่ที่ชางหัวเป็นแบรนด์ที่ได้รับรางวัลดีเด่นในไต้หวัน ซึ่งแสดงถึงจุดแข็งด้านคุณภาพและนวัตกรรมของแบรนด์
โรงงานของ MOTEX เป็นโรงงานหน้ากากอนามัยแห่งแรกที่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าชมโรงงาน โรงงานได้บูรณาการองค์ความรู้ด้านสุขภาพเข้ากับการทำตลาด โดย MOTEX ได้รับสิทธิบัตรสำหรับผลิตภัณฑ์ “หน้ากากอนามัยรูปทรงเพชร” ซึ่งนอกจากความคุ้มค่าแล้ว หน้ากากยังออกแบบพิเศษเป็นทรงสามมิติเพิ่มพื้นที่บริเวณปากและจมูกทำให้สวมใส่สบายขึ้น ในช่วงเวลาสำคัญของการรับมือกับโรคระบาดผลิตภัณฑ์ของ MOTEX ให้การปกป้องระดับสูงสุดและแสดงถึงศักยภาพของสินค้าจากไต้หวันในการสร้างนวัตกรรมสำหรับทุกคนในสังคม
ในช่วงเวลาแห่งความท้าทายในการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ไต้หวันสามารถรักษาความเชื่อมั่นและสามารถพึ่งพาการผลิตภายในไต้หวันโดยผสานจุดแข็งทางอุตสาหกรรม, การตอบสนองที่รวดเร็วของรัฐบาลและความเชี่ยวชาญอุตสาหกรรมการแพทย์ในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดด้วยการสนับสนุนจากองค์กร TAITRA ต่ออุตสาหกรรมการแพทย์ของไต้หวัน ในวันที่ 11-13 มิถุนายนปีนี้ ไต้หวันจะจัดงาน MEDICAL TAIWAN 2020 เพื่อเป็นเวทีที่บริษัทเอกชนในอุตสาหกรรมสุขภาพและอุปกรณ์การแพทย์จะได้พบปะกันบริษัทที่ได้รับรางวัล Taiwan Excellence จะได้เข้าร่วมงาน AGExpo ที่มาเลเซีย, IDEM ที่สิงคโปร์, AACC ที่สหรัฐอเมริกาและ MEDICA ที่เยอรมมนี รางวัล Taiwan Excellence จะช่วยส่งเสริมบริษัทไต้หวันประสบความสำเร็จในการรับมือกับการระบาดของไวรัส
รางวัล Taiwan Excellence Awards ก่อตั้งโดยกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA) ในปี พ.ศ. 2536 ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้ต้องผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มงวด โดยมีเกณฑ์การพิจารณา 4 หัวข้อ คือ การวิจัยและพัฒนา, การออกแบบ, คุณภาพและการตลาดที่คัดเลือกโดยรัฐบาล และผลงานที่ได้รับรางวัลนี้เป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยม และความเป็นเลิศด้านนวัตกรรม สัญลักษณ์นี้ได้รับการยอมรับ และเป็นที่รู้จักทั่วโลกมากกว่า 106 ประเทศ
TAITRA #News #TaiwanExcellence #EverydayExcellence #Healthcare #Medical #Taiwan #ข่าวไต้หวัน
ทำความรู้จักกับ Taiwan Excellence ได้ที่ : http://bit.ly/37XipEA หรือผ่านทาง Facebook : https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/