เคเอฟซี เติบโตไม่ยั่ง ฉลองเปิดไดร์ฟทรูสาขาที่ 50 สาขาเกษตร-นวมินทร์
เคเอฟซี ประเทศไทย ผู้นำอันดับหนึ่งธุรกิจร้านอาหารบริการด่วนในไทย ย้ำการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฉลองเปิดร้าน เคเอฟซี ไดร์ฟทรูสาขาที่ 50 บนถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเป็นร้านที่ดำเนินการโดยบริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป แฟรนไซน์ซี่รายแรก พร้อมประกาศจับมือยัมฯ อย่างเหนียวแน่นร่วมรุกเดินหน้าขยายการเติบโตตามเป้า 800 สาขาในปี 2563
แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์และแฟรนไชส์แบรนด์เคเอฟซี กล่าว “ในวันนี้ เคเอฟซี มีความยินดีอย่างมากในการฉลองการเปิดร้านเคเอฟซีแบบไดร์ฟทรูสาขาที่ 50 ซึ่งบริหารโดยแฟรนไซน์ซี่ บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) แม้เคเอฟซีจะครองความเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในไทยติดต่อกันด้วยจำนวนร้านและจำนวนการให้บริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศก็ตาม เรายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงผู้บริโภคให้ตรงตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ทีต้องการความสะดวกสบายและชื่นชอบการท่องเที่ยว ความสำเร็จที่กล่าวนี้ เกิดขึ้นได้ส่วนหนึ่งจากความร่วมมืออันดีของพันธมิตรแฟรนไชซี ในปีนี้ ซีอาร์จี ได้เดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่องถึง 25 สาขา เป็นรูปแบบร้านเคเอฟซีทั่วไป 19 สาขา และร้านแบบไดร์ฟทรู 6 สาขา ร้านเคเอฟซี ไดร์ฟทรู สาขาถนนเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งเปิดขึ้นใหม่นี้ นับเป็นเคเอฟซี ไดร์ฟทรูสาขาที่ 50 ของประเทศไทย”
ด้านผู้บริหารแฟรนไซน์ซี่ ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ แบรนด์เคเอฟซี บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ได้กล่าวถึงการเปิดสาชาไดร์ฟทรูในครั้งนี้ว่า “ซีอาร์จี เป็นพันธมิตรแฟรนไซน์ซี่รายแรกของแบรนด์เคเอฟซีในประเทศไทย และได้ให้ความร่วมมืออย่างดีกับบริษัท ยัมฯ ในการสร้างการเติบโตและแข็งแกร่งของร้านเคเอฟซีมาตลอด 33 ปีนับจากร้านเคเอฟซีสาขาแรกเกิดขึ้นในไทย ในปี 2560 นี้ ซีอาร์จีได้ร่วมขยายการเติบโตด้วยการเปิดสาขาใหม่เป็นสัดส่วนถึง 44% ของการร้านเปิดใหม่ทั้งหมด รวมถึงมุ่งพัฒนาระบบการดำเนินงานในร้านทั้งด้านบุคลากรและด้านเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานในร้านให้สามารถบริการลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความพึงพอใจสูงสุดของผู้มารับบริการ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงวางแผนการปรับปรุง และคาดว่าจะสามารถเริ่มปรับเปลี่ยนได้ในไตรมาสแรกของปี 2561 โดยเทคโนโลยีที่ซีอาร์จีจะนำเข้ามาใช้นั้น เป็นระบบปฎิบัติการชั้นนำระดับโลกสำหรับร้านอาหาร NCR ALOHA POS สำหรับแคชเชียร์ และ MACROMATIX BOH สำหรับการบริหารจัดการภายในร้านทั้งหมด หากนำเข้ามาใช้แล้ว ร้านเคเอฟซี ภายใต้การดำเนินการของซีอาร์จีร้านนี้ จะเป็นร้านเคเอฟซี สาขาแรกของภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคที่มีเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกเข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านเคเอฟซีประทับใจได้ดีมากยิ่งขึ้น”
“ในฐานะผู้บริหารแบรนด์และดูแลแฟรนไชส์ซี เรายินดีสนับสนุนแฟรนไชซีอย่างเต็มที่ในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาแบรนด์ให้เข้มแข็ง รวมถึงการรักษามาตรฐานด้านคุณภาพและรสชาติอาหาร ด้านการปฏิบัติงานของร้านฯ และด้านแบรนด์ดิ่งให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของเคเอฟซี ผ่านเมนูอร่อย มีคุณภาพและคุ้มค่า รวมถึงประสบการณ์น่าประทับใจแก่ลูกค้าผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เพื่อให้เคเอฟซีเป็นแบรนด์อันดับหนี่งในใจของคนไทยและก้าวต่อไปอย่างแข็งแกร่งต่อไป” แววคนีย์ กล่าวสรุป
ในปี 2560 นี้ เคเอฟซีได้เปิดสาขาใหม่จากการดำเนินงานของยัมฯและจากพันธมิตรแฟรนไชซีเป็นไปตามเป้าที่ประกาศไว้เมื่อต้นปี 2560 รวม 56 สาขา โดยเป็นรูปแบบร้านเคเอฟซีทั่วไป 41 สาขาและร้านแบบไดร์ฟทรู 15 สาขา อัตราการขยายสาขาเฉลี่ยอยู่ที่สัปดาห์ละ 1 สาขาตามแผนที่วางไว้
รายชื่อผู้บริหารในรูป
– ผู้บริหารแบรนด์และแฟรนไชส์เคเอฟซี บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด แววคนีย์ อัสโสรัตน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ (รูปซ้าย: ขวาสุด)
ซาเมียร อัคคาวอล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการเงินและพัฒนาธุรกิจ (รูปขวา : ขวาสุด)
– แฟรนไชส์ซี่ ผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซี บริษัท เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด
ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ (รูปซ้าย : ที่สองจากขวา)
สุชีพ ธรรมาชีพเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปฏิบัติการ (รูปซ้าย : ที่สามจากขวา)
กิตติยาภรณ์ กุลไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ แบรนด์เคเอฟซี (รูปซ้าย : ที่สี่จากขวา)
ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด (รูปซ้าย : ที่ห้าจากขวา)
