เครือเบทาโกรตอกย้ำความมั่นใจ กระบวนการผลิตไก่ครบวงจรปลอดภัย ไร้ไข้หวัดนก

ลพบุรี – เมื่อเร็วๆ นี้ เครือเบทาโกร ร่วมกับ กรมปศุสัตว์ และจังหวัดลพบุรี จัดงาน “ไก่ไทยปลอดภัยสู่ครัวโลก” เพื่อตอกย้ำให้ทุกภาคส่วนเชื่อมั่นว่า จังหวัดลพบุรีซึ่งเป็นแหล่งผลิตไก่เนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปลอดภัยจากสถานการณ์ไข้หวัดนก มีระบบการควบคุมป้องกันอย่างเคร่งครัดได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมี นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในงาน พร้อมหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ณ บริษัท บี.ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ในเครือเบทาโกร ซึ่งเป็นโรงงานผลิตและแปรรูปเนื้อไก่สดและเนื้อไก่ปรุงสุก  ตั้งอยู่ที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี

นายสุเทพ  ตีระพิพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร สายงานการพัฒนาประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการผลิต เครือเบทาโกร กล่าวในโอกาสต้อนรับส่วนราชการต่างๆ ว่า เครือเบทาโกรมุ่งผลิตและพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพสูงและปลอดภัย จากฐานอุตสาหกรรมการเกษตรที่ทันสมัย เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากรโลก เครือฯ ให้ความสำคัญในเรื่องมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมไข้หวัดนกอย่างเคร่งครัด กระบวนการผลิตไก่ของเครือเบทาโกร มีการควบคุมมาตรฐานการผลิตอย่างเข้มงวดและมีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Bio-security) เพื่อเลี้ยงไก่ให้ปลอดจากโรคด้วยการควบคุมและตรวจสอบจากทีมงานนักวิชาการและสัตวแพทย์ของเครือฯ นับตั้งแต่การคัดเลือกไก่พันธุ์ การผลิตลูกไก่ และ การเลี้ยงไก่เนื้อ รวมทั้งการควบคุมฟาร์มให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การใช้ระบบบันทึกข้อมูลการผลิตทั้งกระบวนการโดยได้รับการรับรองจากกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นระบบการจัดการฟาร์มทั้งฟาร์มของบริษัทและฟาร์มเกษตรกรโครงการประกันราคา (Contract farm) ที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ เครือเบทาโกรให้ความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการจัดทำระบบคอมพาร์ทเม้นต์ (Compartmentalization) เพื่อป้องกันความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก โดยมีบริษัทในเครือฯ ที่ดำเนินธุรกิจการเลี้ยงไก่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท บี.ฟู้ดส์ โปรดักส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท อาหารเบทเทอร์ จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตั้งแต่ปี 2549 ระบบคอมพาร์ทเม้นต์ ประกอบด้วย การจัดการฟาร์มที่ดีตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยทางชีวภาพทุกขั้นตอน การควบคุมและเฝ้าระวังโรคหวัดนกในฟาร์มและพื้นที่กันชน (Buffer Zone) รอบๆ บริเวณแต่ละฟาร์มในคอมพาร์ทเม้นต์

นายสุเทพกล่าวต่อไปว่า เครือเบทาโกรให้ความสำคัญกับด้านมาตรฐานคุณภาพ โดย

• § กำหนดเป็นนโยบายให้ฟาร์มไก่และโรงงานทุกแห่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ระบบ GMP, HACCP รวมทั้ง ISO 9001 ส่วนโรงงานผลิตอาหารสัตว์สำหรับไก่เนื้อส่งออกมีการจัดทำระบบ UFAS (Universal Feed Assurance Scheme) เพิ่มเติมสำหรับรองรับการดำเนินโครงการ ABCP (Assured Betagro Chicken Program) เพื่อควบคุมมาตรฐานการผลิตไก่ตลอดกระบวนการให้ได้มาตรฐานสากลตามแบบของ Assured Chicken Production จากประเทศอังกฤษ

• § นำระบบมาตรฐานขั้นสูงมาใช้ เช่น ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Betagro e-Traceability)  รวมทั้งพัฒนาเครื่องมือเพื่อให้ลูกค้าต่างประเทศสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ที่ www.clickspyonme.com  ส่วนลูกค้าภายในประเทศสามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าจาก QR Code ที่ฉลากสินค้าบนบรรจุภัณฑ์  
• § นำระบบ GIS:  Geographic Information System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศทางภูมิศาสตร์มาใช้ สำหรับเก็บข้อมูลที่ตั้งฟาร์มไก่เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและประเมินผลกระทบของภาวะโรคที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
• § และที่สำคัญที่สุด คือ การใช้นวัตกรรม Betagro Quality Management 24/7 ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานการจัดการคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหารสูงสุด 24 ชั่วโมง 7 วันทั่วทั้งระบบห่วงโซ่การผลิตอาหารของเบทาโกร ผ่านมาตรฐานระดับนานาชาติอย่างครบถ้วน

จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกชนิดของเครือเบทาโกรปลอดเชื้อไข้หวัดนก 100% ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพมาตรฐานด้านอาหารปลอดภัยจากบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ