เมื่อวันที่ 31 มี.ค.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงพื้นที่ตรวจติดตามโครงการพัฒนา น้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 18 ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 6 บ่อ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าเสร็จแล้ว ที่เหลือเป็นการก่อสร้างระบบสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาลด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ หอถังกระจายน้ำ ความจุ 150 ลูกบาศก์เมตร และวางระบบท่อกระจายน้ำ ครอบคลุมพื้นที่ 520 ไร่
นายศักดิ์ดา กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มเพื่อทำการเกษตรแปลงใหญ่ เนื่องจากที่ผ่านมาการบริหารจัดการแบบเดิมที่ต่างคนต่างทำหรือเป็นแบบแยกกลุ่ม ทำให้เกษตรกรขาดอำนาจในการต่อรองทางการตลาด ช่วยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน หรือใน บางพื้นที่ปริมาณน้ำกักเก็บไว้เป็นแหล่งน้ำสำรองไม่เพียงพอยามฉุกเฉิน หรือระยะทางในการส่งน้ำมีข้อจำกัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงสนับสนุนให้จัดทำโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ รวมทั้งสิ้น 6 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี ลำพูน เพชรบูรณ์ ยโสธร เลย และสระแก้ว ทั้งนี้ หากดำเนินโครงการฯ ทั้ง 6 พื้นที่แล้วเสร็จ เกษตรกรจะได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 300 ราย มีพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 3,000 ไร่ และมีปริมาณน้ำรวมไม่น้อยกว่า 657,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบของโครงการเกษตรแปลงใหญ่พื้นที่บ้านแสนสุข หมู่ที่ 18 ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอ วังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาล ขนาด 6 นิ้ว จำนวน 6 บ่อ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าแบบจุ่มใต้น้ำ ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ หอถังกระจายน้ำ ความจุ 150 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 2 ถัง ระบบท่อกระจายน้ำ ความยาวประมาณ 4,800 เมตร