อุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกรุ่ง ดันธุรกิจ ePac และ HP Indigo ขยายตัวสูง

กรุงเทพฯ – 30 กันยายน 2563 – เอชพี อิงค์ จับมือพันธมิตรบริษัท ePac ผู้นำด้านการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ระบบดิจิทัล ยกระดับอุตสาหกรรมการพิมพ์ของโลก โดยขยายกำลังผลิตด้วยการสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ดิจิทัล HP Indigo เพิ่มขึ้นอีก 26 เครื่อง ePac จะเป็นบริษัทรายแรกของโลกที่ติดตั้งเครื่องพิมพ์ดิจิทัล HP Indigo 25K ภายใต้แผนการขยายธุรกิจการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ในตลาดโลก ครอบคลุมภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

“ePac ได้พลิกโฉมวิถีการดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั่วโลก ช่วยเปิดตลาดใหม่ ยกระดับศักยภาพการแข่งขัน ด้วยการผลิตบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง รวดเร็วด้วยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก และการสนับสนุนจาก HP Indigo เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นก้าวสำคัญของธุรกิจอีกก้าวหนึ่ง และยังเป็นการนำนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงสู่วงการพิมพ์ทั่วโลกอีกด้วย” มร.แจ็ค น็อทท์ CEO, ePac Flexible Packaging กล่าว

ePac ทำข้อตกลงเพื่อสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ HP Indigo 25K Digital Press จำนวน 26 เครื่อง โดยจะติดตั้งเครื่องแรกที่โรงพิมพ์ในเมืองซาคราเมนโต้ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้ภายในปี 2564 บริษัทฯ จะมีจำนวนเครื่องพิมพ์บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นรวม 76 เครื่อง ความสำเร็จในการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ePac ได้ประมาณการรายได้ในปีนี้ว่าจะสูงมากกว่า 100 ล้านดอลล่าร์ หรือประมาณ 3,150 ล้านบาท

ePac ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2559 ด้วยเครื่องพิมพ์ HP Indigo 20000 เพียงเครื่องเดียว ธุรกิจเติบโตอย่างทวีคูณ ปัจจุบันให้บริการลูกค้าหลายพันราย ตลาดสำคัญของ ePac ได้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์กาแฟ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ของว่าง อาหารออร์แกนิก ชีสนมและเบเกอรี่ ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์

“รูปแบบธุรกิจของ ePac ได้พลิกโฉมอุตสาหกรรมการพิมพ์บรรจุภัณฑ์อย่างแท้จริง เป้าหมายของเอชพี คือการทำงานกับลูกค้าเพื่อพัฒนาและขยายตลาดร่วมกัน ด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิทัลขั้นสูง” มร. ไฮม์ เลวิท ผู้จัดการทั่วไป HP Indigo อธิบาย “เราภูมิใจในความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ ePac และหวังว่าจะได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและเครือข่ายของเอชพีทั่วโลก เพื่อสนับสนุนธุรกิจของ ePac ให้เติบโต ตลอดจนขยายฐานตลาดและลูกค้าทั่วโลกมากขึ้น”

เครื่องพิมพ์ดิจิทัล HP Indigo 25K รุ่นใหม่ ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ ด้วยประสิทธิภาพการผลิตที่ดีเยี่ยม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และพร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและภาคธุรกิจการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ePac จับตลาดการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ระบบดิจิทัล
ความสำเร็จที่น่าทึ่งของ ePac เกิดขึ้นจากความสามารถในการส่งมอบงานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าในท้องตลาด โดยไม่มีการกำหนดจำนวนพิมพ์ขั้นต่ำ ส่วนการขยายธุรกิจเข้าไปในตลาดใหม่ๆ ก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมการพิมพ์โดยรวม

นอกจากนี้ ePac ยังสามารถวิเคราะห์และนำข้อมูลหลากหลายมาใช้ผลิตงานพิมพ์ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจของบรรจุภัณฑ์บนชั้นวางสินค้า ควบคู่กับการใช้ Track & Trace Technology ดังนั้นงานพิมพ์ของ ePac จะเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ช่วยลูกค้าสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค และในอนาคตจะขยายไปครอบคลุมเกี่ยวกับการรีไซเคิลของบรรจุภัณฑ์ นวัตกรรมเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่มีอยู่ในเครื่องพิมพ์ HP Indigo และเทคโนโลยีของพันธมิตรเอชพี ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการพิมพ์ระบบดิจิทัลในปัจจุบัน งานพิมพ์บรรจุภัณฑ์ทุกชิ้นของ ePac จะมีรหัสเฉพาะ ที่สามารถติดตามตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการผลิตจนถึงการนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นการสร้างความโปร่งใสของห่วงโซ่การผลิตและเพิ่มคุณค่าให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ePac ได้มีความร่วมมือกับ RePurpose Technologies (RPT) เพื่อสร้างโซลูชันการรีไซเคิลในชุมชน สร้างความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์ดิจิทัล HP Indigo 25K ได้ที่ hp.com/go/Indigo25K

ข้อมูลเกี่ยวกับ HP Inc.
เอชพี อิงค์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค ภาคธุรกิจ ภาครัฐและสังคมอย่างแท้จริงด้วยพอร์ทโฟลิโอด้านเทคโนโลยี ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ โซลูชั่นการพิมพ์ 3 มิติ และส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอชพี สามารถเข้าชมได้ที่ hp.com

เกี่ยวกับ ePac Flexible Packaging
ผู้ก่อตั้ง ePac เริ่มต้นด้วยพันธกิจในการผลิตงานพิมพ์ให้กับบริษัทท้องถิ่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ด้วยบรรจุภัณฑ์ ลูกค้าของเราส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสำหรับผู้บริโภค นับตั้งแต่เปิดโรงงานผลิตแห่งแรกในปี 2559 ภารกิจของเราคือการช่วยให้แบรนด์เติบโต การได้ช่วยเหลือชุมชนและมีส่วนร่วมในการสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น