อีเอ็มซียกระดับกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่

0
231
image_pdfimage_printPrint

ระบบ Data Domain รุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม 4 เท่า สามารถขยายความจุ
ได้มากกว่า
10 เท่า; ชุดโซลูชั่น Data Protection Suite เพิ่มศักยภาพจากการทำงานร่วมกับระบบสตอเรจและระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น; Mozy ช่วยให้การแบ็คอัพข้อมูลระบบคลาวด์เป็นไปเรื่องง่ายด้วยการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ

กรุงเทพฯ – 11 กรกฎาคม 2556

 EMC_BRS_APJ_CIO_Infographics_v8_HR

ประเด็นสำคัญ:

  • อีเอ็มซียกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านการปกป้องข้อมูล เสริมศักยภาพความเป็นผู้นำและช่วยให้ลูกค้าปรับใช้สถาปัตยกรรมใหม่ Protection Storage Architecture ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลทั้งในปัจจุบันนี้และในอนาคต
  • EMC Data Domain® รุ่นใหม่สามารถขยายความจุได้มากกว่า 27 เท่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่กัน ช่วยให้ลูกค้าขจัดปัญหาพื้นที่เก็บข้อมูลที่แยกกระจัดกระจาย ด้วยการผนวกรวมข้อมูลแบ็คอัพและข้อมูลที่จัดเก็บระยะยาวทั้งหมดไว้บนแพลตฟอร์มสตอเรจเดียวกันสำหรับการปกป้องข้อมูล
  • ส่วนปรับปรุงสำหรับ EMC Data Protection Suite ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุดนี้ นำเสนอการผสานระบบ Data Domain และสตอเรจของอีเอ็มซีชั้นสูง ทั้งยังมีการปรับแต่งสำหรับสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ช่วล ปรับปรุงการตรวจสอบและการควบคุมเพื่อการปกป้องแอพพลิเคชั่นองค์กร
  • Mozy® โดยอีเอ็มซี นำเสนอชุดฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความสะดวกในการปรับขยายและจัดการข้อมูลแบ็คอัพบนระบบคลาวด์

 

เนื้อหาข่าว:

 

อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ๆ หลากหลายรุ่น ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้สถาปัตยกรรม Protection Storage Architecture ที่ช่วยแก้ไขปัญหาท้าทายเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวในวันนี้ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์ชั้นนำของอีเอ็มซี ทั้งในส่วนของ Data Domain, Avamar, NetWorker และ Mozy

ผู้ดูแลระบบแบ็คอัพต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นในการตอบสนองความต้องการของฝ่ายต่างๆ  อาทิเจ้าของแอพพลิเคชั่น ผู้ดูแลระบบเวอร์ช่วลแมชชีน ผู้ดูแลระบบสตอเรจและเซิร์ฟเวอร์ โดยฝ่ายต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเหล่านี้ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมและตรวจสอบการปกป้องสภาพแวดล้อมสำหรับการจัดการและติดตั้งโซลูชั่นของตน และผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ “สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ” ซึ่งประกอบด้วยชุดกระบวนการปกป้องข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานที่แยกออกจากกัน และมักจะบอกไม่ได้ว่าอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของใครกันแน่

ด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ในวันนี้ อีเอ็มซีได้นำเสนอความสามารถที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้ทีมงานฝ่ายแบ็คอัพข้อมูลสามารถปรับเปลี่ยนจากสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไปสู่สถาปัตยกรรม Protection Storage Architecture ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้อย่างลงตัว โดยหลักการสำคัญของสถาปัตยกรรม Protection Storage Architecture ของอีเอ็มซีมีดังนี้:

  • สตอเรจสำหรับการปกป้อง: องค์ประกอบหลักของสถาปัตยกรรมนี้ก็คือ ระบบสตอเรจราคาประหยัดที่มีการปรับแต่งความจุอย่างเหมาะสม มีความทนทานสูง สามารถรองรับการกู้คืนระบบ การแบ็คอัพข้อมูล และการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว
  • การผนวกรวมแหล่งข้อมูล: ใช้ประโยชน์จากกระแสข้อมูลและอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึงไฮเปอร์ไวเซอร์, แอพพลิเคชั่น และสตอเรจ เพื่อนำเสนอประสิทธิภาพและความสามารถในการตรวจสอบอย่างทั่วถึงอย่างที่ลูกค้าภายในองค์กรต้องการ
  • บริการจัดการข้อมูล: แคตตาล็อกของสำเนาข้อมูลทั้งหมด รวมถึงการรายงานและการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

จุดเด่นทางด้านเทคโนโลยี

 

  • ระบบ Data Domain ขนาดกลางรุ่นใหม่: ระบบ Data Domain DD2500, DD4200, DD4500 และ DD7200 มอบประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการปรับขนาด เพื่อผนวกรวมข้อมูลแบ็คอัพและข้อมูลจัดเก็บระยะยาวทั้งหมดไว้บนแพลตฟอร์มสตอเรจเดียวกัน ซึ่งจัดการได้อย่างง่ายดายและประหยัดค่าใช้จ่าย  ระบบขนาดกลางรุ่นใหม่นี้เร็วกว่า 4 เท่า และปรับขยายได้มากกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับระบบ Data Domain รุ่นเก่า  นอกจากนี้ ระบบรุ่นใหม่ยังรองรับการสตรีมข้อมูลสูงสุด 540 สตรีม โดยเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 3 เท่า และจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการผนวกรวมข้อมูลแบ็คอัพและ/หรือข้อมูลที่จัดเก็บระยะยาว  ระบบรุ่นใหม่นี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการแบ็คอัพและจัดเก็บข้อมูลระยะยาว โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 38% ต่อกิกะไบต์

 

  • ขยายการสนับสนุนแอพพลิเคชั่นสำหรับการแบ็คอัพและจัดเก็บข้อมูลระยะยาว: การเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่เจ้าของแอพพลิเคชั่นถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการนำเสนอสถาปัตยกรรม Protection Storage Architecture  ปัจจุบัน ระบบ Data Domain รองรับการแบ็คอัพข้อมูลโดยตรงจาก SAP HANA Studio ผ่านทาง NFS เพื่อให้ SAP HANA DBA สามารถใช้ประโยชน์จากระบบสตอเรจประสิทธิภาพสูงเพื่อการปกป้อง ควบคู่ไปกับการควบคุมกระบวนการแบ็คอัพข้อมูล และตอนนี้ DD BoostTM สำหรับ Oracle RMAN สนับสนุน Oracle Exadata และ SAP ที่รันบน Oracle จึงช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการควบคุม และเพิ่มประสิทธิภาพในการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูล  นอกจากนี้ เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมที่หลากหลายมากขึ้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว ตอนนี้ระบบ Data Domain จึงรองรับการผนวกรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับแอพพลิเคชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลระยะยาวจาก OpenText, IBM และ Dell  ด้วยการผนวกรวมใหม่ๆ เหล่านี้ จะสามารถติดตั้งระบบ Data Domain กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากกว่า 20 รายการสำหรับการจัดการไฟล์, อีเมล์, SharePoint, การจัดการคอนเทนต์ และการจัดเก็บฐานข้อมูลระยะยาว

 

  • ศักยภาพเสริมของ Data Protection Suite: EMC Avamar® 7 รองรับเวิร์กโหลดดาต้าเซ็นเตอร์สำคัญๆ ทั้งหมดที่ถูกส่งไปยังระบบ Data Domain โดยมีการเพิ่มการแบ็คอัพระบบไฟล์และ NAS/NDMP  ด้วยการเพิ่มนี้ เวิร์กโหลดที่สำคัญทั้งหมดของดาต้าเซ็นเตอร์จึงได้รับการปกป้องโดยโซลูชั่นที่รวมเข้าด้วยกัน  Avamar ขยายความเป็นผู้นำสำหรับสภาพแวดล้อมเวอร์ช่วลด้วย VM Instant Access ซึ่งช่วยให้สามารถบูต VM จากระบบ Data Domain และใช้งานได้ทันทีภายในเวลาไม่ถึง 2 นาที  นอกจากนี้ เว็บไคลเอ็นต์ VMware vSphere ยังช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการระบบแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูล Avamar ได้โดยตรงจากอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย

 

 

EMC NetWorker® 8.1 นำเสนอการจัดการสแน็ปช็อตแบบในตัว พร้อมอินเทอร์เฟซแบบที่ใช้วิซาร์ด การค้นหาโดยอัตโนมัติ และการมอบหมายส่วนจัดเก็บข้อมูลสแน็ปช็อตอย่างชาญฉลาด  การผนวกรวมกับระบบ Data Domain มีลักษณะกลมกลืนมากขึ้น ด้วยการสนับสนุน Data Domain Boost บนไฟเบอร์แชนเนล จึงช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการแบ็คอัพข้อมูลได้ถึง 50% และเพิ่มความรวดเร็วในการกู้คืนข้อมูลได้มากกว่า 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับคอนฟิกูเรชั่นแบบ VTL  ยิ่งไปกว่านั้น NetWorker ยังสนับสนุนระบบ VMware โดยใช้ประโยชน์จากบริการทางด้านเทคโนโลยีของ Avamar

 

  • ฟังก์ชั่นใหม่สำหรับการแบ็คอัพข้อมูลบนระบบคลาวด์: Mozy โดยอีเอ็มซี ช่วยเพิ่มความสะดวกในการปรับขนาดสำหรับการแบ็คอัพข้อมูลบนระบบคลาวด์ ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากซับซ้อน  การผนวกรวม Active Directory จะช่วยลดภาระงานในการสร้างบัญชีผู้ใช้แยกต่างหาก และปรับปรุงการบริการตนเอง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมได้อย่างมาก  การจัดการสตอเรจที่ง่ายขึ้นด้วยการใช้แหล่งรวมสตอเรจ (Storage Pools) ช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการตรวจสอบโควตาสตอเรจของแต่ละเครื่อง และสุดท้าย การเปิดใช้งานโดยไม่ต้องใช้คีย์จะช่วยเร่งกระบวนการตั้งค่าสำหรับผู้ใช้ใหม่ จึงช่วยให้ปรับขนาดได้อย่างยืดหยุ่น

 

คำกล่าวของลูกค้า

ไมค์ สเตรนจ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศของ Great Western Bank

“ก่อนหน้านี้ Great Western Bank ประสบปัญหาในการแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลตามข้อกำหนด และเราไม่แน่ใจว่าจะสามารถกู้คืนข้อมูลและระบบโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจของเราในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ  โซลูชั่นการปกป้องข้อมูลของอีเอ็มซีจะช่วยบรรเทาข้อกังวลใจพื้นฐานดังกล่าว และช่วยให้ทีมงานฝ่ายไอทีสามารถดำเนินบทบาทที่สำคัญมากขึ้นเพื่อรองรับแผนการของธนาคารในการเข้าซื้อกิจการของธนาคารอื่นๆ  เรามั่นใจว่าเรามีโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการปกป้องข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการขยายเป้าหมายทางธุรกิจของเรา  ความยืดหยุ่นและทางเลือกที่มาพร้อมกับชุดโซลูชั่นซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์แบบครบวงจรของอีเอ็มซีเปิดโอกาสให้เรากำหนดกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลได้อย่างเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องยอมสละคุณสมบัติในด้านอื่นๆ”

 

คำกล่าวของนักวิเคราะห์

โรเบิร์ต อามาทรูด้า ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยสำหรับการปกป้องและกู้คืนข้อมูลของไอดีซี

“องค์กรต่างๆ จำเป็นที่จะต้องมีโครงสร้างพื้นฐานและกลยุทธ์การปกป้องข้อมูลที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนเป้าหมายทางด้านไอทีและธุรกิจ โซลูชั่นการปกป้องข้อมูลที่หลากหลายของอีเอ็มซีผสานรวมผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้เข้ากับฟีเจอร์และฟังก์ชั่นใหม่ๆ ช่วยให้ลูกค้าเป็นอิสระจากผลิตภัณฑ์และกระบวนการแบ็คอัพที่ล้าสมัย และหันไปปรับใช้แนวทางแบบรอบด้านที่ยืดหยุ่นมากกว่า”

คำกล่าวของผู้บริหารอีเอ็มซี

กาย เชิร์ชเวิร์ด ประธานกลุ่มธุรกิจระบบแบ็คอัพและกู้คืนข้อมูลของอีเอ็มซี

“การปรับใช้สถาปัตยกรรม Protection Storage Architecture เพื่อหยุดยั้งการแพร่กระจายของ ‘สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญ’ ซึ่งเราพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง นับเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับปกป้องข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ  สถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญเป็นผลมาจากจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายด้านการปกป้องข้อมูลแต่ละอย่างหลังจากที่เกิดขึ้น และมีการใช้ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นราคาแพงแบบติดตั้งเฉพาะจุดหรือแบบ ‘ครอบจักรวาล’ ซึ่งยากแก่การจัดการ ปรับแต่ง และคิดค่าใช้จ่าย  ผลิตภัณฑ์ที่เราเปิดตัวในวันนี้จะช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถผนวกรวมกลยุทธ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านการปกป้องข้อมูล และช่วยให้สามารถเตรียมการเพื่อรับมือกับปัญหาท้าทายด้านการปกป้องข้อมูลที่มาพร้อมกับโครงการริเริ่มด้านการปฏิรูปไอที”

 

การวางจำหน่าย

ผลิตภัณฑ์ด้านการปกป้องข้อมูลรุ่นใหม่ทั้งหมดของอีเอ็มซีจะวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2556 และจะพร้อมใช้งานภายในโครงสร้างพื้นฐาน VSPEXTM Proven Infrastructures ภายในกรอบเวลาเดียวกัน

ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี

อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและจัดหาโซลูชั่นและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้องค์กรทุกขนาดปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่าจากข้อมูลที่มีอยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอีเอ็มซี คลิกไปที่ www.thailand.emc.com