อิ่มท้องพร้อมสุขภาพดีได้ทุกวัน ด้วยมื้ออาหารโภชนาการที่สมดุล

0
403
image_pdfimage_printPrint

หากเราอยากดูดีและรู้สึกดีกับตัวเองที่สุด ก็ต้องรู้ว่าร่างกายเราต้องการสารอาหารแต่ละประเภทในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เพียงโภชนาการ 5 หมู่ที่ดีอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่เท่านั้น แต่เรายังต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ และที่สำคัญต้องกินอาหารที่มีเส้นใยอาหารอย่างเหมาะสมด้วย ถือว่าเป็นอะไรที่เยอะมากเพราะแม้กระทั่งคนที่ควบคุมอาหารการกินของตนอย่างดีที่สุดก็ยังรู้สึกยากที่จะกินสารอาหารให้ครบทุกประเภทได้ทุกวัน
จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลักปรัชญาของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ถึงต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการที่สมดุล เพราะโภชนาการที่สมดุลคือองค์ประกอบของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพิ่มเติมด้วยอาหารเสริมที่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ต้องการในแต่วันอย่างเหมาะสมและมีปริมาณแคลอรี่ที่สมดุลด้วย
7 องค์ประกอบสำคัญเพื่อการมีโภชนาการที่สมดุล
เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เชื่อว่าสุขภาพที่ดีอยู่ที่การกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งโภชนาการที่ดีและสมดุลจะช่วยเติมเต็มพลังงานให้ร่างกายทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ดี และยังส่งเสริมสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ได้อย่างยืนยาว
โดยองค์ประกอบโภชนาการสำคัญ 7 อย่างเพื่อมื้ออาหารที่สมดุล มีดังต่อไปนี้
1. โปรตีน
โปรตีนถือเป็นสารอาหารหลักที่มีความสำคัญต่อทุกเซลล์ในร่างกาย เราใช้โปรตีนสร้างโมเลกุลสำคัญต่างๆ เช่น ฮอร์โมนและเอ็นไซม์ อีกทั้งใช้สร้างและรักษาเนื้อเยื้อกล้ามเนื้อ โปรตีนยังช่วยระงับความหิวได้เป็นอย่างดีด้วย
ร่างกายเรามีกระบวนการสร้างและสลายอยู่ตลอดเวลาซึ่งกระบวนการเหล่านี้ต้องใช้โปรตีน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องได้รับโปรตีนอย่างเหมาะสมเพียงพอในมื้ออาหารทุกวันเพื่อชดเชยโปรตีนที่เราใช้ไปในร่างกาย แนะนำให้รับประทานโปรตีนจากพืชและสัตว์เช่น ถั่วเหลือง สัตว์ปีก ปลา และไข่ ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 30 ของปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
2. คาร์โบไฮเดรต
นอกจากโปรตีน ร่างกายก็ยังต้องการอีกหนึ่งสารอาหารหลักอย่างคาร์โบไฮเดรตเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน เราจึงต้องได้รับปริมาณคาร์โบไฮเดรตอย่างเหมาะสมทุกวัน แนะนำให้รับประทานคาร์โบไฮเดรตจากธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี ถั่วต่างๆ ผักและผลไม้ ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 40 ของปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตชนิดที่อุดมด้วยแป้งและน้ำตาล ที่เราเจอในพวกขนมปัง เบเกอรี่ น้ำอัดลม หรือลูกอมต่างๆ
3. ไขมัน
ร่างกายต้องการไขมันที่ดีมีประโยชน์ในปริมาณเล็กน้อยและเหมาะสม แต่อย่าเพิ่งกระโจนเข้าหาไขมันตอนนี้ เพราะจริงๆ คุณอาจได้รับปริมาณไขมันที่เพียงพออยู่แล้ว ในมื้ออาหารแต่ละมื้อส่วนใหญ่จะมีปริมาณไขมันทั้งหมด รวมถึงไขมันอิ่มตัว มากเกินความต้องการของร่างกาย และอาจขาดไขมันดีเช่นไขมันจากปลา ถั่ว น้ำมันมะกอก และอะโวคาโด้
ไขมันเป็นสารอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูงมาก จึงเป็นสาเหตุที่หลักปรัชญาโภชนาการของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น แนะนำให้เราจำกัดสัดส่วนไขมันอยู่ที่ร้อยละ 30 หรือน้อยกว่านั้นของปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน
4. วิตามินและแร่ธาตุ
วิตามินและแร่ธาตุเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายทุกวัน และแร่ธาตุอย่างแคลเซียมและแมกนีเซียมก็มีบทบาทสำคัญเชิงโครงสร้างในร่างกายด้วย มื้ออาหารที่สมดุลจะช่วยเพิ่มวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ การรับประทานอาหารเสริมอย่างวิตามินและเกลือแร่รวมก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการทุกวัน
5. สารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์
พืชเป็นแหล่งอาหารที่ผลิตสารเคมีธรรมชาติหลากหลายชนิดที่เรียกว่าสารพฤกษเคมีหรือไฟโตนิวเทรียนท์ ซึ่งมีคุณประโยชน์กับร่างกายนานัปการ ทั้งป้องกันโรค เสริมภูมิคุ้มกัน และซ่อมแซมดีเอ็นเอที่สึกหรอ รงควัตถุหรือ สารมีสีที่ (pigments) ช่วยให้ผักและผลไม้มีสีสันสวยงามน่ารับประทาน เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของผักผลไม้ที่มีสีสันและคุณประโยชน์ดีๆ ต่อร่างกาย
6. เส้นใยอาหาร
เส้นใยอาหารช่วยเรื่องกระบวนการย่อยอาหาร ให้คุณรู้สึกอิ่มท้อง และเสริมสร้างการเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดดีต่อระบบการย่อยอาหาร ผักผลไม้ทั้งลูก ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี และถั่วต่างๆ ถือเป็นแหล่งเส้นใยอาหารชั้นยอด แต่หากคุณไม่สามารถรับประทานเส้นใยอาหารได้ถึง 25 กรัมต่อวันตามปริมาณที่แนะนำ ก็สามารถรับประทานอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มเส้นใยอาหารได้
7. น้ำ
ร่างกายคนเรามีน้ำเป็นประกอบถึงร้อยละ 70 จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่เราต้องดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่างกายเราต้องการน้ำเพื่อลำเลียงสารอาหารไปสู่เซลล์และกำจัดของเสียออกจากร่างกาย น้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย รวมถึงหล่อเลี้ยงข้อต่อ อวัยวะ และเนื้อเยื่อต่างๆ
นอกจากนี้ กระบวนการปฏิกิริยาเคมีส่วนใหญ่ในร่างกายยังเกิดขึ้นในน้ำด้วย เราจึงควรดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวัน เลือกดื่มน้ำเปล่าเป็นอันดับแรก ส่วนชาและกาแฟที่ไม่ผสมน้ำตาลหรืออื่นๆ ก็ช่วยให้คุณได้รับน้ำเพียงพอตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเช่นกัน
รับประทานให้ครบและควบคุมแคลอรี่ให้สมดุล
เรื่องการควบคุมแคลอรี่ให้สมดุล หรือการรักษาสมดุลระหว่างสิ่งที่คุณกินกับสิ่งที่คุณต้องเผาผลาญ เป็นอะไรที่ตรงไปตรงมาและชัดเจนมาก เพราะ “แคลอรี่ที่กินเข้าไป” ก็คือจำนวนแคลอรี่ทั้งหมดของอาหารและเครื่องดื่มทุกอย่างที่คุณรับเข้าไปในร่างกาย ส่วน “แคลอรี่ที่เอาออกไป” คือจำนวนแคลอรี่ทั้งหมดที่ร่างกายได้เผาผลาญไปในแต่ละวัน ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วนคือ ปริมาณแคลอรี่รวมที่ร่างกายคุณต้องการเพื่อทำหน้าที่พื้นฐานแต่ละอย่างในร่างกาย (หรือที่รู้จักกันว่าอัตราการเผาผลาญของร่างกายขณะพัก) และแคลอรี่ที่คุณต้องใช้ในการออกกำลังกายและทำกิจกรรมอื่นๆ
หากจำนวนแคลอรี่ที่คุณกินสมดุลกับจำนวนแคลอรี่ที่คุณเผาผลาญ น้ำหนักของคุณก็จะคงที่ แต่ถ้าคุณกินมากกว่าที่เผาผลาญ ก็มีแนวโน้มที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันถ้าคุณกินน้อยกว่าที่ต้องเผาผลาญ น้ำหนักก็จะลดลง
เมื่อพูดถึงการบาลานซ์แคลอรี่แล้ว คุณต้องควบคุมปริมาณแคลอรี่ทั้งสองฝั่งให้เหมาะสมโดยสามารถกำหนดจำนวนแคลอรี่ที่เรากินได้จากการนับจำนวนแคลอรี่ในอาหาร และอย่างน้อยที่สุด คุณก็จะสามารถควบคุมจำนวนแคลอรี่ที่คุณต้องเผาผลาญในแต่ละวันด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ดังนั้น ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะต้องการลดน้ำหนัก เพิ่มน้ำหนัก หรือรักษาน้ำหนักให้คงที่ พลังในการรักษาความสมดุลก็อยู่ที่ตัวคุณเอง
กดไลค์เราที่เฟซบุ๊ค พร้อมอีกหลากหลายเคล็ดลับดี ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีและไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง ได้ที่
www.facebook.com/HerbalifeThailandOfficial
และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้ที่ www.instagram.com/HerbalifeThailandOfficial