อินเทลโลจิสติคส์ แต่งตัวเข้าตลาดพร้อมทุ่มกว่า 100 ล้านบาท รุกขยายธุรกิจ
• รุกธุรกิจให้บริการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ รองรับแผนเข้าตลาด
• ลูกค้าเริ่มต้น พีทีที โพลีเมอร์โลจิสติกส์ พร้อมขยายให้บริการแก่รายอื่น
• ย้ำให้ความสำคัญการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับแผนการขยายงาน
บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัดซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายรายใหญ่ เดินหน้าศึกษาแผนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมแผนการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ขยายธุรกิจให้บริการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ โดยศึกษาแนวทางการให้บริการร่วมกับ พีทีที โพลีเมอร์โลจิสติกส์ เพื่อยกระดับการขนส่งเม็ดพลาสติกเพื่อการส่งออกไปยังต่างประเทศ
นายโยธิน โยธิน ตะหง่านศรีประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมศึกษาแนวทางการขยายบริการขนส่งเม็ดพลาสติกในรูปแบบตู้คอนเทนเนอร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ 15 ไร่ในจังหวัดระยองเพื่อรองรับแผนขยายงานดังกล่าว โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบลงทุนในที่ดินประมาณ 90 ล้านบาท และงบพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่มากกว่า 10 ล้านบาท
“ความจริงแล้ว เราให้บริการขนส่งเม็ดพลาสติกให้กับพีทีทีโพลีเมอร์โลจิสติกส์มานานแล้ว เพียงแต่ว่า พีทีทีโพลีเมอร์โลจิสติกส์ มีนโยบายที่จะให้เรายกระดับการให้บริการให้สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของเราที่ต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการอยู่ตลอดเวลาเพื่อสอดคล้องกับความต้องการขององค์กรระดับนานาชาติอย่างบริษัทชั้นนำในระดับโลก” นายโยธิน กล่าว
นายโยธิน กล่าวว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงพื้นที่เพื่อใช้เป็นลานพักตู้คอนเทนเนอร์หรือ Container Yard บนพื้นที่ 15 ไร่ เพื่อเป็นลานพักตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการขนส่งไปยังท่าเรือนํ้าลึกแหลมฉบังและมาบตาพุด เพื่อส่งออกไปยังประเทศโดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ภายในปีนี้
– 2 –
นายโยธิน กล่าวว่าธุรกิจใหม่นี้ ยังคงดำเนินการภายใต้บริษัท อินเทล โลจิสติคส์ จำกัด ทั้งนี้เพราะคณะผู้บริหารได้กำหนดแผนการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการจัดทำแผนธุรกิจเพื่อรองรับแผนการจดทะเบียนครั้งนี้
“แผนลงทุนทำลานพักตู้คอนเทนเนอร์ เป็นหนึ่งในโครงการระยะยาวที่เรากำลังเร่งจัดทำแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวของบริษัทฯ เพื่อให้การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะสร้างผลตอบแทนที่ดีและเป็นแหล่งรายได้ระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นภายหลังการเป็นบริษัทจดทะเบียน” นายโยธิน กล่าว
บริษัท อินเทลโลจิสติคส์ จำกัด ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2547 โดยเป็นบริษัทในเครือ หจก. หยกพาณิชย์ ทรานสปอร์ต
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งมานานมากกว่า 20 ปี โดยมีประสบการณ์บริหารจัดการธุรกิจขนส่งด้วยรถหัวลากและรถบรรทุกมากกว่า 100 คัน โดยเน้นภาคการขนส่งประเภทวัตถุอันตราย โดยมีลูกค้าที่เป็นเน้นการขนส่งอย่างปลอดภัยเช่นบริษัท บางกอก อินดัสเตรียล แก๊ส บริษัท ลินเด้แก๊ส(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทย อินดัสเตรียล แก๊ส จำกัด บริษัท พีทีทีโพลีเมอร์โลจิสติกส์ จำกัด บริษัท แพร๊กแอร์(ประเทศไทย) บริษัท แอร์ลิควิด (ประเทศไทย) จำกัด
นายโยธิน กล่าวว่าสาเหตุที่คณะผู้บริหารกำหนดแผนการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าเพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจแบบมืออาชีพ อีกทั้งลูกค้าของบริษัทฯ เป็นบริษัทชั้นนำของอุตสาหกรรม
“ผมวางแนวทางการบริหารองค์กรระยะยาวเอาไว้ว่าไม่ว่าผมจะอยู่หรือไม่อยู่ องค์กรจะต้องอยู่ในระยะยาว ดังนั้นเราจึงต้องเปิดโอกาสให้องค์กรของเราจะต้องมีมืออาชีพมาบริหารงานในอนาคต ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มของโลกธุรกิจ” นายโยธิน กล่าว
นายโยธิน กล่าวเพิ่มเติมว่าการให้บริการขนส่งวัตถุอันตรายเป็นธุรกิจที่ยังสดใสและมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่วงการจำนวนมาก ส่งผลให้ขณะนี้ธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนพนักงานขับรถ
“ผมพูดได้เลยครับว่าพนักงานขับรถคือหัวใจของธุรกิจนี้ ดังนั้น เราจึงเน้นการพัฒนาพนักงานขับรถอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันเรามีพนักงานขับรถมากถึง 150 คนและเรายังต้องเปิดรับสมัครอยู่ตลอดเวลาเพราะจะต้องเตรียมความพร้อมไว้สำหรับแผนการขยายงาน” นายโยธิน กล่าว
– 3 –
นายโยธิน กล่าวว่าบริษัทฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) ในการวางหลักสูตรพัฒนาพนักงานขับรถ โดยวอลโว่ ทรัคส์ ได้จัดหลักสูตร Train the Trainer ทำให้บริษัทฯ มีครูฝึกพนักงานขับรถถึง 3 คน ซึ่งได้นำหลักสูตรพัฒนาพนักงานขับรถของวอลโว่ ทรัคส์ มาพัฒนาทีมพนักงานขับรถอย่างต่อเนื่อง
“ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวที่ว่ารถที่ดี จะต้องขับโดยพนักงานขับรถที่ดี ซึ่งเราให้ความสำคัญอย่างมากกับพนักงานขับรถ เราเน้นให้พวกเขาขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน ซึ่งเราได้กำหนดกฎเกณฑ์และกระบวนการทำงานของพนักงานขับรถให้ปฏิบัติตามกฎมาตรฐานโลกอย่างวอลโว่ ทรัคส์ และสุดท้ายเราสามารถประหยัดการใช้นํ้ามันได้ซึ่งถือเป็น 35% ของต้นทุนการดำเนินงานของภาคขนส่ง” นายโยธิน กล่าว