“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ยืนหนึ่งผู้นำค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ APEA 2019 ประกาศศักดาแบรนด์ไทยบนเวทีโลก

นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านครบวงจรชั้นนำของไทย ที่ล่าสุด คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก “Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2019 Thailand” (APEA 2019) นำโดย พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ เข้ารับรางวัลในสาขา Outstanding Category ประเภทธุรกิจค้าปลีก และ กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการฯ เข้ารับรางวัลสาขา Corporate Excellence Category ประเภทธุรกิจค้าปลีก จัดโดย เอ็นเตอร์ไพรส์เอเชีย (Enterprise Asia) องค์กรอิสระที่สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทในภูมิภาคเอเชีย เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการชั้นนำทั่วเอเชีย
พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ารางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของผมและทุกคนในบริษัทฯ ให้มีพลังและความมั่นใจในการขับเคลื่อนและต่อยอดบริษัทฯ ก้าวไปสู่ระดับสากล เพราะผมมุ่งหวังให้อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เป็นบริษัทของคนไทย ที่สร้างขึ้นโดยคนไทย บริหารโดยคนไทย ที่สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จให้แก่ประเทศไทย โดยได้การยอมรับจากตลาดและธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จากนานาชาติ เราสัญญาว่าจะไม่หยุดยั้งความตั้งใจในการคิดค้นพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตและคุณภาพสินค้า ตลอดจนการออกแบบดีไซน์ฟังก์ชัน รวมถึงการบริการเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเรา”
โดยงานมอบรางวัล “Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2019 Thailand” (APEA 2019) ในปีนี้ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่กรุงเทพ ณ ห้องรอยัลมณียาบอลรูม โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการที่มีผลงานโดดเด่น และดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยได้รับเกียรติจากบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมาย รวมถึง ดร.ฟงชานออน ประธาน เอ็นเตอร์ไพรส์เอเชีย และ มร.ดาโต๊ะ วิลเลี่ยม เอิง ประธานบริหาร เอ็นเตอร์ไพรส์เอเชีย ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการมอบรางวัลนี้ ให้เกียรติขึ้นมอบรางวัล
สำหรับรางวัล Asia Pacific Entrepreneurship Awards หรือ APEA นับเป็นรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจัดโดย เอ็นเตอร์ไพรส์เอเชีย (Enterprise Asia) ซึ่งเป็นสมาคมที่มีความสำคัญที่สุดในระดับภูมิภาค โดยมีแนวคิดที่ต้องการจะผลักดันกลุ่มผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และในแต่ละจะปีมีพิธีมอบรางวัลในกว่า 12 ประเทศ สำหรับเกณฑ์ในการตัดสินรางวัลค่อนข้างเข้มงวด และมีการแข่งขันขันสูง ผู้ถูกเสนอชื่อจะต้องได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวดรวมถึงการตรวจสอบทางการเงินของทางบริษัทผ่านทางบริษัทผู้สอบบัญชีที่ได้รับการแต่งตั้ง และการตรวจสอบสถานที่จริงทางกายภาพ รวมถึงการสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการองค์กรของ เอ็นเตอร์ไพรส์เอเชีย (Enterprise Asia)
ทั้งนี้ ทั้ง 2 รางวัลที่ทาง อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ได้รับพร้อมกันนี้ ถือเป็นความสำเร็จก้าวสำคัญ โดยเฉพาะรางวัลสาขา Outstanding Category ที่ทาง พิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับนั้น เป็นผลมาจากการเป็นผู้บริหารธุรกิจที่เริ่มต้นจากความุ่งมั่น เติบโตอย่างมั่นคง และมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปอย่างแข็งแกร่งในอนาคต การันตีโดยผลการดำเนินงานที่โดดเด่น พร้อมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม นำพาองค์กรไปสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจ
ขณะที่รางวัลสาขา Corporate Excellence Category ประเภทธุรกิจค้าปลีกนั้น บ่งชัดถึงการสร้างแบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ที่ประสบความสำเร็จ โดยราวัลนี้มีเกณฑ์การพิจารณาองค์กรจาก การพัฒนาคนและการจัดการ การสร้างมูลค่า การเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจน การปรับปรุงและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคม และความเป็นเลิศในการดำเนินงาน
ซึ่งทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงศักยภาพการสร้างชื่อแบรนด์สินค้าไทยไปสู่เวทีระดับโลก ในฐานะที่เป็น “ผู้บริหาร” และ “องค์กร” ที่ได้รับการยอมรับในภาคอุตสาหกรรมและค้าปลีก ที่มีความโดดเด่น และเป็นเลิศ นำพาองค์กรเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบริหารงานอย่างยั่งยืนที่เป็นรูปธรรม อันตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์เบอร์หนึ่งตัวจริง ที่ครองตลาดรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโต ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดที่แตกต่างและโดดเด่นให้กับแบรนด์ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ทำให้เข้าถึงลูกค้าในทุกวัย และทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘เป็นที่หนึ่งในใจเรื่องธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย’ ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนภาพความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและบ่งบอกความเป็นมืออาชีพในการดำเนินธุรกิจที่แท้จริง” กฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวปิดท้าย