อินทัชจับมือพันธมิตรเข้าร่วมทุนในวายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) รุกดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง วางเป้าดันเข้า SET ในปี 63

0
533
image_pdfimage_printPrint

YDM Thailand ผนึกกำลัง 3 ผู้ร่วมทุน อินทัช, ธนาคารออมสิน และตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์ความพร้อม ก้าวสู่อันดับ 1 กลุ่มบริษัทดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค
● YDM Thailand เปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมเผยผลประกอบการโตกว่า 100% หลังยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ YDM ร่วมถือหุ้น สยายปีกขยายเครือข่ายถึง 7 บริษัทภายใน 2 ปี ครอบคลุมบริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ทุกด้าน และประกาศเดินหน้าเขย่าวงการต่อเนื่องด้วยแพลตฟอร์มใหม่ พร้อมตั้งเป้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2563
● YDM Thailand ประกาศจับมือ 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ อินทัช ธนาคารออมสิน และ SET เสริมแกร่งเงินทุน คอนเนคชั่น และเทคโนโลยี ผงาดสู่ผู้นำกลุ่มบริษัทดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอันดับหนึ่ง

บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือ Yello Digital Marketing (YDM) ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทผู้ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งโซลูชั่น ระดับแนวหน้าของเมืองไทย โดย นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ CEO บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด จัดงานแถลงข่าว “จับมือสู่ศักราชใหม่ของการตลาดดิจิทัล” (Together to the New Era of Digital Marketing) เพื่อเปิดตัว บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด อย่างเป็นทางการ พร้อมแนะนำ 7 บริษัทในเครือ รองรับการขยายการเติบโตธุรกิจทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งแนะนำ 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ ได้แก่ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยโครงการ InVent , บริษัทเอ็น-เวสต์ เวนเจอร์ จำกัด และ บริษัท พรีเมียร์ แอ็ดไวซ์เซอรี่ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดการ กองทรัสต์ SME Private Equity Trust Fund โดย ธนาคารออมสิน และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัลเมืองไทยครั้งใหญ่ ที่มีเป้าหมายร่วมกัน คือ การก้าวสู่ความเป็นกลุ่มบริษัทดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง อันดับ 1 ของเมืองไทย และนำบริษัทฯ เข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี พ.ศ. 2563

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะก้าวไปข้างหน้า ภายใต้ชื่อ YDM Thailand ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งในฐานะเป็นกลุ่มบริษัท Digital Marketing ระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นครบวงจร ภายใต้แนวคิด “DRIVE.CONNECT.GROW” จึงพร้อมขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นฟันเฟืองที่สำคัญให้กับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะเชื่อมโยงศักยภาพของทุกบริษัทในเครือให้เติบ
โตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนทั้งบริษัท ลูกค้า พาร์ทเนอร์ และนักลงทุน
“YDM Thailand คือ กลุ่มบริษัททางด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ที่ทำงานด้วยกันในลักษณะของ E-co System คือ แต่ละบริษัทต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกันและร่วมมือกันทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จสูงสุดในการทำธุรกิจ โดย YDM Thailand นั้นจะโฟกัสในธุรกิจดิจิทัล 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ Digital Marketing Consulting, Digital Marketing Solutions, Digital Media และ Digital Marketing Platform”
ซีอีโอวายดีเอ็ม(ไทยแลนด์) ยังกล่าวต่อว่า การเปิดตัว YDM Thailand อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ยังมาพร้อมกับการจับมือ 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ ได้แก่ อินทัช ธนาคารออมสิน และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อก้าวสู่ “The New Era of Digital Marketing” ที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เป็นตัวขับเคลื่อน โดยเงินทุนที่ได้จากการร่วมทุนครั้งนี้ นอกจากจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เติบโตกว่า 100% ทุกปีแล้ว ส่วนหนึ่งยังนำมาใช้ขยายการลงทุนต่อยอดธุรกิจใหม่ ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดแพลตฟอร์มใหม่ๆ ออกมาเขย่าวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอีกอย่างน้อย 4 แพลตฟอร์ม รวมถึงจะมีการเปิดตัวบริษัทใหม่ๆ พร้อมทีมผู้บริหารที่เก่งกาจเข้ามาเสริมทัพธุรกิจในเครือมากขึ้น และจากการที่มีผู้ร่วมทุนเป็น YDM ประเทศเกาหลีใต้ที่เป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์น ทำให้เราสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่ใช้ในการทำการตลาดดิจิทัล เมื่อเสริมกำลังด้วยการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุน คอนเนคชั่น และเครือข่ายทางธุรกิจจาก 3 ผู้ร่วมทุนใหม่ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้เราสามารถสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลักดันการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยให้เติบโตรวดเร็วยิ่งขึ้น

นายคิมห์ สิริทวีชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานบริหารการลงทุน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมทุนในครั้งนี้ว่า เราเล็งเห็นศักยภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ YDM Thailand ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Advertising Technology และยังประกอบธุรกิจการตลาดดิจิทัลอย่างครบวงจร มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจาก YDM มีทีมงานและบริษัทในเครือที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ รวมทั้งผู้ก่อตั้งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำธุรกิจให้เติบโต และมีแนวคิดการพัฒนาธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายของอินทัช จึงทำให้เราตัดสินใจร่วมทุนผ่านทางโครงการ InVent เป็นมูลค่า 30 ล้านบาท
“เราสนใจในธุรกิจด้านดิจิทัล เอเจนซี่ และเห็นโอกาสในธุรกิจการตลาดดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (DAAT) คาดการณ์ว่าในปี 2561 ตลาดโฆษณาดิจิทัลในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอีก 16% คิดเป็นมูลค่า 14,330 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้ยังเชื่อมโยงโอกาสในการแลกเปลี่ยน Innovation ด้านการตลาดดิจิทัลระหว่างกัน ทำให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้กับบริษัทและลูกค้าของกลุ่มอินทัช”

ขณะที่ นายพิเชฐ ธรรมวิภาค รองผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กลุ่มลูกค้าธุรกิจและภาครัฐ กล่าวถึงการร่วมลงทุนใน YDM Thailand ว่า กองทุน SMEs Private Equity Trust Fund โดยธนาคารออมสินร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้อนุมัติวงเงินลงทุนมูลค่ารวม 60 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการดิจิทัลไทยสามารถแข่งขันได้ และเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อสภาพโดยรวมของตลาด Digital Advertising ในประเทศไทย

“YDM Thailand เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง อย่างเต็มรูปแบบ สามารถตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าได้อย่างครบวงจร ธนาคารเชื่อมั่นว่า การร่วมลงทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากแนวโน้มการเจริญเติบโตของตลาดที่มีการใช้จ่ายเพื่อการโฆษณาออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้ ธนาคารยังมั่นใจในตัวผู้ก่อตั้งคือคุณธนพลที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมากกว่า 20 ปี และยังมีการพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีต่อสภาพตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว”

คุณ ชัชนี จันทจรูญพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงินลงทุนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ทั้ง SMEs และ Startup เป็นหนึ่งกลไกสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ยุคใหม่ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน โดยได้ส่งเสริมธุรกิจทุกขนาดเติบโตด้วยคุณภาพ ขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบการ startup และ SME เพื่อสร้าง ecosystem อย่างครบวงจร โดยการให้ความสนับสนุนด้านเงินทุนผ่านกองทุน SMEs Private Equity Trust Fund ครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

ในส่วนของภาพรวมการตลาดดิจิทัลในมุมมองของ ซีอีโอ YDM Thailand ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในแวดวงการตลาดดิจิทัลมองว่าดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยตัวแปรสำคัญ ที่ทำให้สื่อดิจิทัลโดดเด่นและมีงบโฆษณาสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น เพราะมีเทคโนโลยีเป็นตัวผลักดัน โดยเฉพาะในเรื่องของ Big Data ทำให้สื่อดิจิทัลมีประสิทธิภาพสูง Target ได้อย่างแม่นยำ วัดผลได้ ส่งผลให้ โฆษณาดิจิทัลมี ROI ที่สูงมาก

ปัจจุบันมูลค่าเม็ดเงินที่แบรนด์ต่าง ๆ ใช้จ่ายผ่านสื่อดิจิทัลในประเทศไทยในปี 2560 มีมูลค่า 12,402 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 30% แต่คิดเป็นสัดส่วนแค่ประมาณ 10% ของมูลค่าการโฆษณาทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งถือว่ามูลค่าโฆษณาในสื่อดิจิทัลในไทยนั้นยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก และยังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต เช่น เดียวกับประเทศอื่นๆ ในโลก เช่น จีนปัจจุบันมีสัดส่วนโฆษณาดิจิทัลประมาณ 57%, สหราชอาณาจักร
60% และอเมริกา 30%

นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวยังมีการเปิดตัว 7 บริษัทในเครือ YDM Thailand ได้แก่

● Adyim : Digital Marketing Solution Hub หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการทางด้านการทำการตลาดออนไลน์ยุคแรกเริ่มของไทย จากพนักงาน 3 คน จนเป็น 100 กว่าคนในปัจจุบัน ดูแลแบรนด์ชั้นนำมาแล้วกว่า 500 แบรนด์ โดยบริการจะมีตั้งแต่การวางกลยุทธ์ออนไลน์ สร้างสรรค์ไอเดีย, วางแผน Social Media, จัดซื้อสื่อออนไลน์, Bloggers, Influencers, SEO, SEM, จัดทำเว็บไซต์, VDO Production, Mobile Application, Data Analysis, Big Data ฯลฯ
● Gottimize: Performance Media Agency ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนและการซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์แบบเน้นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ โดยมีลูกค้าทั้งในส่วนที่เป็นบริษัทชั้นนำ และเอเจนซี่ระดับโลก ยอด Billing มากกว่า 100 ล้านบาท
● Alt65 : เจ้าของแพลตฟอร์ Revu ที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างรีวิวสินค้า ผ่าน Micro influencer ครอบคลุมครบทุก product category มีนักรีวิวในเน็ตเวิร์ก กว่า 8,000 คน และสร้างรีวิวมาแล้วกว่า หนึ่งหมื่นรีวิวบนโลกออนไลน์
● Adpocket: Mobile Screen Lock Ads แอปพลิเคชั่น เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย ที่เปลี่ยนหน้าจอมือถือให้เป็นพื้นที่โฆษณา ติดตัวไปกับผู้บริโภคได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยฐานผู้ใช้งานมากถึง 5 ล้านคน
● Doer: Freelance Management Platform แพลตฟอร์มรับพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีทีมฟรีแลนซ์ทำงานผ่านระบบมากกว่า 200 คน และด้วยระบบการจัดการที่มีคุณภาพ ทำให้ Doer สามารถรับงานสเกลใหญ่ๆ ได้โดยไม่มีปัญหา
● AVG: บริษัททำ Digital Marketing สำหรับเจาะตลาดจีน และนักท่องเที่ยวจีนในไทย เป็นบริษัทเดียวในไทย ที่เป็น Official Partner กับ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ในจีน Baidu, Tencent , Alibaba พร้อมกันทั้ง 3 บริษัท
● Nawin: บริษัท Creative Consulting ที่มีครีเอทีฟระดับโลก “กอลฟ์”- นันทวัฒน์ ชัยพรแก้ว มาช่วยให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจกับลูกค้า เริ่มต้นแต่การคิด Branding จนไปถึงการหา Business Model ใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งไอเดียในการทำโฆษณา