บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จํากัด หรือ (ITALTHAI Engineering : ITE) ผู้นำตลาดบริการงานก่อสร้างพลังงานทดแทนแบบครบวงจร และงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ลุยส่งมอบงานโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 66.5 MW จำนวน 8 โรง มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งงานโยธาและไฟฟ้า และส่งมอบ Wind Farm “เทพพนา” ขนาด 7.5 MWac (VSPP พลังงานลมโรงแรกที่จำหน่ายไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ที่จังหวัดชัยภูมิ ด้วยมูลค่าก่อสร้างที่ ITE ได้รับกว่า 110 ล้านบาท และมีเซ็นสัญญารับงานอีกเพียบ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 5,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 4,000 ล้านบาท และปีหน้า 1,000 ล้านบาท
คุณสกล เหล่าสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตัลไทยวิศวกรรม จำกัด หรือ (ITALTHAI Engineering : ITE) หนึ่งในบริษัทผู้นำตลาดงานก่อสร้างงานวิศวกรรมภายใต้ “อิตัลไทย กรุ๊ป” เปิดเผยว่า ด้วยความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของทีมงานวิศวกรรม โดยเฉพาะงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ที่มีความเข้มแข็งจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา อีกทั้งมีระบบการจัดการคุณภาพ ISO 9001:2008 ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่เข้มงวดที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถสร้างความมั่นใจให้เป็นที่น่าเชื่อถือและการันตีความสำเร็จและคุณภาพของโครงการต่างๆตามคำมั่นสัญญา ส่งผลให้บริษัท มีงานก่อสร้างในมืออย่างต่อเนื่อง
ซึ่งล่าสุดถือเป็นโอกาสอันดีในการเปิดบ้านต้อนรับประชาคมอาเซียน ด้วยการรับงานก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จาก บริษัท Soleq จากประเทศสิงค์โปร์ รวม 38 MW จำนวน 4 โรง ที่ จังหวัดกำแพงเพชร และที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1 โรง ซึ่งจะมีการส่งมอบงานก่อสร้างในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 โดยที่ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญระบบไฟฟ้าและฝ่ายงานโครงการของ ITE ร่วมงานกับ ITD และบริษัท Juwi จากประเทศเยอรมัน ซึ่ง ITE ดูแลในส่วนของงานระบบไฟฟ้าทั้งหมด ใช้งบประมาณกว่า 450 ล้านบาท และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์โก จำนวน 3 โรง ขนาดโรงละ 9.5 MW ของบริษัท EGCO ที่จังหวัดนครปฐม ของทางด้านฝ่ายธุรกิจพลังงาน ITE รับผิดชอบงานทั้งหมดทั้งงานโยธาและไฟฟ้า ด้วยงบประมาณกว่า 1,550 ล้านบาท ขณะนี้กำลังส่งมอบโรงที่ 1 และจะส่งมอบครบทั้ง 3 โรงภายในเดือนพฤศจิกายนปีนี้
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ITE ยังได้ร่วมในงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลพบุรีโซลาร์และวังเพลิงโซลาร์ กำลังผลิตรวม 63 MWac ของบริษัทพัฒนาพลังงาน (National Energy Development – NED) ที่จังหวัดลพบุรี จนประสบความสำเร็จ สามารถก่อสร้างจ่ายไฟได้ก่อนกำหนดด้วยผลผลิตพลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพตามเป้าหมาย และรวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานลม (Wind Farm) “เทพพนา” ขนาด 7.5 MWac (VSPP พลังงานลมโรงแรกที่จำหน่ายไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) ที่จังหวัดชัยภูมิ ด้วยมูลค่างานกว่า 110 ล้านบาท
ในส่วนของงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของฝ่ายผู้เชี่ยวชาญระบบไฟฟ้า กำลังก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 69/115 KV แบบ Gas Insulated Switchgear ให้การไฟฟ้านครหลวงจำนวน 4 สถานี อันได้แก่ สถานีไฟฟ้าลาดหญ้า ลาดปลาเค้า บางปลา และวัดคู่สร้าง ขณะเดียวกันก็ได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างสถานีไฟฟ้า 115/22 KV แบบ Conventional กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 3 แห่ง คือ สถานีไฟฟ้าปิ่นทองและพานทอง 2 ในจังหวัดชลบุรี และสถานีไฟฟ้าโพนพิสัย ในจังหวัดหนองคาย มูลค่ารวมกว่า 450 ล้านบาท สำหรับฝ่ายโครงการซึ่งมีตลาดหลักในการก่อสร้างโรงงานและสาธารณูปโภคของโรงงานปิโตรเคมีก็กำลังก่อสร้างงานติดตั้งระบบกำจัดฝุ่นกำมะถัน (FGD) ให้กับ บริษัท IRPC ที่ระยอง และเริ่มก่อสร้างงานระบบให้กับโรงงานไฟฟ้าพระนครเหนือ 2 มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท
ทั้งนี้ผู้บริหารระดับสูง คุณสกล กล่าวทิ้งท้ายว่า ยังขอเน้นย้ำเรื่องการทำงาน ว่าต้องมีการติดตามประสานงานกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อการส่งงานตรงตามคำมั่นสัญญา โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการให้บริการงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ให้บริการในแบบ One Stop Services เพื่อให้ระบบสาธารณูปโภคและระบบผลิตสามารถทํางานได้อย่างต่อเนื่องเชื่อถือได้ (Reliability) มีความปลอดภัยได้มาตรฐานตามกฎหมาย (Safety) ลดความเสี่ยงต่ออุบัติภัย เพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) และประหยัดพลังงาน (Energy Saving) ให้มากที่สุด
