จากภาพ – นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ลำดับที่สามจากซ้าย) และนายวัลกัมพาลา วินิล ประธานวินิล เจมส์ แอนด์ วินิล โฮลดิงส์ (ลำดับที่สี่จากซ้าย) ร่วมลงนามเซ็นสัญญาบริหารโรงแรมอมารี โคลัมโบ ศรีลังกา พร้อมด้วยนายรัสเซล คูล ผู้จัดการใหญ่ประจำพื้นที่ประเทศศรีลังกา ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ซ้ายสุด) นายไนเจล แฮร์ริส รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ลำดับที่สองจากซ้าย) นายดิเนช วัลกัมพาลา ผู้อำนวยการ วินิล โฮลดิงส์ (ลำดับที่ห้าจากซ้าย) และนายกายัน รานาทุนกา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วินิล โฮลดิงส์ (ขวาสุด)
โคลัมโบ 21 พฤศจิกายน 2560 – ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป หนึ่งในผู้นำด้านการบริการจัดการโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย เตรียมเปิดให้บริการ อมารี โคลัมโบ ศรีลังกา โรงแรมในเครืออมารีแห่งใหม่ล่าสุดที่เมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา
อมารี โคลัมโบ ศรีลังกา เป็นโครงการที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยร่วมมือกับวินิล โฮลดิงส์ (Winil Holdings) หนึ่งในเครือวินิล เจมส์ กรุ๊ป บริษัทสัญชาติศรีลังกา โครงการนี้ตั้งอยู่ในเขตการค้าคอลลูพิทิยา (Kollupitiya) ใกล้กับบ้านพักประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี สถานทูตสหรัฐฯสถานีรถไฟและรถประจำทางคอลลูพิทิยา (Kollupitiya) นอกจากนี้ยังอยู้่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเมืองโคลัมโบ วัดคงคาราม (Gangaramaya Temple) สวนคงคาราม ร้านค้าและร้านอาหารมากมาย และ ตลาดคอลลูพิทิยา (Kollupitiya) ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านการค้าที่คึกคักที่สุดในเมือง
โครงการอมารี โคลัมโบ ศรีลังกา มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงกลางปีพ.ศ. 2562 มีทั้งหมด 24 ชั้น ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีท 180 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ อฮารา กูร์เมต์ แกลเลอรี่ ห้องอาหารหลักที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสตรีท ฟู้ด บรีซ สปา และโวยาจเจอร์ เลานจ์ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ สระว่ายน้ำ บาร์ ห้องประชุม และร้านอาหารไทยชั้นบนสุดของโรงแรม ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทะเลสุดอลังการและวิวเมืองหลวง นอกจากนี้โรงแรมยังมีบริการห้องพักชั้นเอ็กเซ็คคิวทีฟรวมไปถึงเอ็กเซ็คคิวทีฟ เลานจ์ อีกด้วย
โรงแรมฯ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 254 ถนนกอลล์ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนโคลัมโบ แพลน (เดิมรู้จักกันในชื่อ มารีน ไดรฟ์) และถนนกอลล์ และจากโรงแรมฯ ยังสามารถเดินทางผ่านโครงการทางหลวงใต้ดิน ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อจากเขตโคลัมโบ 3 ไปยังย่านธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า “ตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการโอโซ่ โคลัมโบ โรงแรมแห่งแรก ในประเทศศรีลังกาในปี 2557 ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ยังคงรุกเดินหน้าในตลาดนี้และได้สร้างเครือข่ายโรงแรมทั้งหมด 3 แห่งในสามจุดหมายปลายทางที่เป็นเอกลักษณ์ เราภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับวินิล โฮลดิงส์และประธานวัลกัมพาลา วินิล ในการสร้างเครือข่ายแบรนด์อมารีที่จุดหมายปลายทางที่โดดเด่น ดังเช่นเมืองโคลัมโบ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา”
นายวัลกัมพาลา วินิล ประธาน วินิล เจมส์และวินิล โฮลดิงส์ เสริมว่า “หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้าพักที่โรงแรมในเครืออมารีในประเทศไทยเป็นการส่วนตัวและเห็นการขยายเครือข่ายโรงแรมของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ทั่วภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศศรีลังกาด้วยตนเอง ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของออนิกซ์ฯ และเล็งเห็นถึงความเชี่ยวชาญในด้านการบริการจัดการโรงแรมตั้งแต่โรงแรมเริ่มสร้าง ณ สถานที่ตั้งที่ดีที่สุดแห่งนี้ ผมหวังว่าการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจครั้งนี้จะประสบความสำเร็จในอนาคตอันใกล้
อมารี หนึ่งในแบรนด์หลักของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย และขยายเครือข่ายทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียอย่างรวดเร็วด้วยชื่อเสียงที่มีมายาวนานกว่า 52 ปี สะท้อนให้เห็นถึงสีสันและจังหวะในแบบเอเชียสมัยใหม่ โรงแรมอมารีแต่ละแห่งจึงให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ สัมผัส และกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผ่านสถาปัตยกรรม ดีไซน์ อาหาร รวมถึงการให้บริการ
ตลอดทั้งปีพ.ศ. 2560 นี้ โรงแรมในเครืออมารี มีการขยายเครือข่ายในหลายประเทศ ได้แก่ศรีลังกา มาเลเซีย และจีน อมารี โคลัมโบ ศรีลังกา จะเป็นโรงแรมในเครืออมารีแห่งที่สองในประเทศศรีลังกา ถัดจากอมารี กอลล์ ศรีลังกาที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศศรีลังกาใกล้กับป้อมปราการกอลล์หนึ่งในแหล่งมรดกโลก
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันบริการจัดการโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ทั้งหมด 44 แห่งในแปดประเทศทั่วโลก ภายใต้แบรนด์อมารี ชามา และโอโซ่ และมีแผนรุกขยายเครือข่ายอีกกว่า 20 แห่งในตลาดต่าง ๆ อาทิ ประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายจะเปิดให้บริการโรงแรมในเครือข่ายทั้งหมด 99 แห่งในปี 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการก้าวเป็นผู้นำในการบริหารจัดการโรงแรมระดับกลางที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชีย
