คณะผู้บริหาร “อมตะ” เยือนเมืองโยกาฮามาหารือความร่วมมือเดินหน้าโครงการเมืองอัจฉริยะในนิคมฯอมตะนครเต็มรูปแบบสอดรับนโยบายรัฐ พร้อมรับการถ่ายทอดความรู้มุ่งสู่การพัฒนาทุกมิติ การวางผังเมืองเทคโนโลยี และนวัตกรรมการเพื่อการบริหารจัดการ นำร่องพื้นที่การลงทุนในEEC ชูโยโกฮามาเป็นต้นแบบเมืองแห่งอนาคต
ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 คณะผู้บริหารอมตะได้เดินทางเยือนเมืองโยโกฮามาประเทศญี่ปุ่นเพื่อสานสัมพันธ์และร่วมหารือแนวทางการพัฒนาโครงการเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ภายหลังจากได้เคยลงนามความร่วมมือด้านการพัฒนาเมืองอัฉริยะร่วมกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยมีนายคัตสึโนริ วาตานาเบะ (Katsunori Watanabe) รองนายกเทศมนตรีให้การต้อนรับ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมสู่เมืองอัจฉริยะสมบูรณ์แบบ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ซึ่งขณะนี้อมตะอยู่ในระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้เป็นเมืองอัจฉริยะ โดยเริ่มจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
ความร่วมมือกับโยโกฮามาในครั้งนี้ จะทำให้อมตะต่อยอดการพัฒนาเขตเมืองหรือเขตอุตสาหกรรมให้กลายเป็นฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพมีความสามารถทางการแข่งขัน และสามารถอยู่อาศัยได้อย่างยั่งยืน โดยอมตะจะได้รับการถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการวางผังเมืองแบบบูรณาการ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการเมืองอัจฉริยะ สิ่งแวดล้อมในเมืองที่ยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ รวมถึงเมืองอัจฉริยะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
“อมตะตั้งอยู่ใจกลางเส้นทางระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ซึ่งถือว่าเป็นเขตเมืองใหม่ที่มีระบบสาธารณูปโภคชั้นนำและบริการโลจิสติก จึงต้องวางแผนล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการขยายตัวในอนาคต และการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อุตสาหกรรมและการค้าในภาคตะวันออก เพื่อก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรมและเมืองยุคใหม่ ซึ่งแนวความคิดเมืองอัจฉริยะจะช่วยพาเราไปสู่การยกระดับเพื่อรองรับนักลงทุนและลูกค้าของเราได้ในอนาคต” ดร.สุรินทร์ กล่าว
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป้าหมายของอมตะคือการเป็นผู้นำด้านเมืองอัจฉริยะของไทยและอาเซียน การเยือนเมืองโยโกฮามาครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่อมตะจะได้ยกระดับความสัมพันธ์กับข้าราชการเมืองโยโกฮามา และพัฒนาความร่วมมือในการสร้างเมืองอัจฉริยะระหว่างญี่ปุ่นกับไทยต่อไป
“แนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของกลุ่มอมตะจะนำไปสู่การยกระดับนิคมอุตสาหกรรมให้สามารถรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมในอนาคต ซึ่งปัจจุบันอมตะมีลูกค้าทั้งหมดกว่า 1,000 ราย ส่วนมากเป็นบริษัทต่างชาติที่มีโรงงานและฐานการผลิตในนิคมอุตสาหกรรมทั้ง 80 ตร.กม. ของอมตะในประเทศไทย ในแต่ละปีรายได้จากการผลิตของโรงงานเหล่านี้ถือเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของจีดีพีประเทศไทย โดยนักลงทุนเกือบ 60% เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น” นายวิกรม กล่าว
สำหรับเมืองโยโกฮามาเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่อาศัยและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งหนึ่งของโลก จากความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของพลเมืองและภาคเอกชน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายของเมืองโยโกฮามาคือการแบ่งปันความรู้ที่สะสมมาให้แก่เมืองอื่นๆ ที่ประสบกับความท้าทายคล้ายๆ กัน โดยเมืองโยโกฮามายังได้เข้าร่วมกิจกรรมความร่วมมือระดับนานาชาติหลายกิจกรรม รวมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้เมืองโยโกฮามาได้ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเมืองต่างๆ ผ่าน Y-PORT Center (Y-PORT : Yokohama Partnership of Resources and Technologies) ซึ่งก่อตั้งเมื่อเดือน พ.ค. 2558 โดยถ่ายทอดความรู้ทางด้านการจัดการเมือง และแนะนำบริษัทเอกชนที่ให้บริการด้านนี้ในประเทศแถบเอเชียอีกด้วย