กรุงเทพฯ : อพท.ร่วมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) ขานรับวาระปฏิบัติการลดโลกร้อนโดยสร้างสรร ๒ แคมเปญชวนเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน โดยเปิดตัวในงาน “ยก เกาะโลว์คาร์บอน…มาทองหล่อ !” วันที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๙ ณ Root Garden เพื่อชวนกันมาเปิดประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนในหมู่เกาะทะเลตราด
พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) เผยว่า จากการประชุม COP ๒๑ ที่ผ่านมา ที่ประชุมฯ ได้รับรองข้อตกลงที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ ๒๐ – ๒๕ ภายในปี พ.ศ.๒๕๗๓ ซึ่งสาระสำคัญดังกล่าวส่งผลให้ทุกภาคส่วนต้องผนึกความร่วมมือให้บรรลุเป้าหมาย อพท.เองในฐานะของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้มีการลดภาวะโลกร้อนในภาคการท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลานานแล้ว เห็นได้จากการที่เราได้มีการกำหนดนโยบาย Low Carbon Tourism เป็นนโยบายหลักของทุกพื้นที่ของ อพท.
ภาวะโลกร้อนจึงไม่ใช่สิ่งไกลตัว เราทุกคนเองจะก็จำเป็นต้องปรับตัว และการท่องเที่ยวเองก็ต้องปรับตัวครับ แม้ว่า การท่องเที่ยวนำมาซึ่งรายได้อย่างงดงาม แต่ อพท.ก็อยากให้ทุกภาคส่วนฉุกคิดขึ้นมาว่า เราจะมีส่วนร่วมในการปกป้องความงดงามของประเทศไทย และของโลกของเราให้ยั่งยืน อย่างไร ? โดยที่ประเทศของเราจะไม่สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวไป อพท. จึงได้วางภูมิคุ้มให้กับภาคีเครือข่ายในการวางแผนบริหารจัดการทรัพยากร สิ่งแวดล้อม โดยมุ่งให้เกิดความสมดุลย์ทั้ง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม จนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมที่นำบางส่วนมาแสดงในวันนี้”
“อพท. ได้นำผลลัพธ์จากการเข้าไปพัฒนา ส่งเสริมภาคีเครือข่ายๆในพื้นที่หมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยงมาสู่การสร้างสรรประสบการณ์ท่องเที่ยวและสื่อสารไปยังนักท่องเที่ยว อันเป็นกลยุทธ์ของสร้างให้เกิด Brand engagement แน่นอนครับ ความยั่งยืนของการท่องเที่ยวจะขาดเสียมิได้จากการตระหนักในการดูแลสิ่งแวดล้อมของนักท่องเที่ยวเอง ที่ผ่านมา เราเพาะปลูกเมล็ดพันธ์การท่องเที่ยวยั่งยืนสู่นักท่องเที่ยวผ่านกิจกรรม Low Carbon Holiday (๑๓-๑๕ พย.๒๕๕๘) จากการประเมินผลพบว่า โปรแกรมนี้ได้เพิ่มความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเมื่อเปรียบเที่ยบกับโปรแกรมทั่วไปพร้อมทั้งช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย จากความสำเร็จนี้ อพท. ก็จะส่งไม้ต่อให้สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราดและภาคีเครือข่ายดำเนินการต่อไป”
พร้อมย้ำว่า ในปี ๒๕๕๙ อพท. ให้ความสำคัญสูงในการผลักดันด้านการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศโลก โดยมีเกาะหมากเป็นพื้นที่ต้นแบบในการเป็น Low Carbon Destination และจะขยายผลผ่านกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน รวมไปถึงแคมเปญต่างๆ เพื่อให้ภาคีเครือข่ายทั้ง ภาครัฐ ผู้ประกอบการ ชุมชน และนักท่องเที่ยว และเกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และพัฒนาไปสู่การเป็นศูนย์ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป พันเอก ดร.นาฬิกอติภัค กล่าวเสริม
นายจักรพรรดิ ตะเวทีกุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด และที่ปรึกษาชมรมท่องเที่ยวเกาะหมาก กล่าวว่า “อพท. ได้เข้ามาบ่มเพาะความเป็นโลว์คาร์บอนเดสทิเนชั่นให้เครือข่ายต่างๆมากว่า ๑๐ ปี จนพื้นที่เราถูกรับรู้ว่าเป็น “แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพและรักษาทรัพยากรธรรมชาติสูงมาก” จังหวัดตราดได้ถูกคัดเลือกจากเวทีประกวด Miss Grand International 2015 และได้โอกาสนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนสู่สายตานานาชาติ ถือได้ว่า อพท.ได้เป็นพี่เลี้ยงด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทำให้เรามีจุดยืนที่โดดเด่นเรื่อง ท่องเที่ยวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ขอบคุณอพท.อีกครั้งที่อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่พวกเรามาตลอดทำให้พวกเรามีภูมิคุ้มกันที่จะดูแลชุมชน สิ่งแวดล้อมมากกว่ามุ่งเศรษฐกิจเป็นตัวตั้ง ดังนั้น สมาคมฯ เองพร้อมสานต่อเพื่อดำเนินกิจกรรมตอกย้ำว่า จังหวัดตราดเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพเราเป็นโลว์คาร์บอนเดสทิเนชั่น Low Carbon Destination ”
ในปี ๒๕๕๙ นี้ อพท.และสมาคมฯ จะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเป้นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการเปิดตัว 2 แคมเปญ โดยรายละเอียดเราจะประกาศให้ทราบเร็วๆนี้ครับ
แคมเปญ “ ลดทั้งเกาะ….” (Happy low carbon hours) โดยมอบ 2 ชั่วโมงแห่งความสุขเพื่อให้รางวัลแก่นักท่องเที่ยวที่ช่วยลดโลกร้อนที่ชวนกันปิดไฟแล้วออกมา เที่ยว-เล่น-ชม-ชิม โดยรีสอร์ท ร้านค้าที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ จัดส่วนลดอย่างต่ำ 20 %
แคมเปญค้นหา.. บล็อกเกอร์อาสารักษ์โลก ให้มาชวนเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน ภายใต้ธีม “Castaway @ Low carbon island ” โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกจะถูกปล่อยในเกาะโลว์คาร์บอน (เกาะหมาก และเกาะข้างเคียงจังหวัดตราด) และให้แก้โจทย์ฯ อย่างสร้างสรรค์ เพื่อเที่ยวสไตล์ลดโลกร้อนกัน และแชร์มุมมอง เรื่องราวในช่องทางออนไลน์ให้แฟนๆ ติดตาม อีกด้วย
“ทั้งหมดนี้ นับเป็นความสำเร็จของโมเดลการบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนส่งผลให้เกิดสมดุล ทั้งเศรษฐกิจ-สังคม-สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการสร้างความแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพและเป็นการยกระดับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวคุณภาพอย่างแท้จริง นายธนันธน์ อภิวันทนาพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศและการตลาด สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข้อมูลได้ที่ FB https://www.facebook.com/lcd.chang.mak.kood”
สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
คุณสุทธิวรรณ อมาตยกุล 02-564 4000 คุณอัญชรี พรหมสกุล 082-450 2613