1

หัวเว่ย เร่งผลักดันผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบคลาวด์ พร้อมช่วยอุตสาหกรรมแนวดิ่งเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

06099

เซี่ยงไฮ้–2 ก.ย.–พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

– ยุคแห่งคลาวด์ ยุคแห่งโลกใหม่

ณ ที่ประชุม Carrier Cloud Transformation Summit อันเป็นส่วนหนึ่งของงาน Huawei Connect 2016 หัวเว่ยและผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับโลก รวมถึงองค์กรอุตสาหกรรม และพันธมิตรรายต่าง ๆ ได้ร่วมกันแบ่งปันความสำเร็จเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล และร่วมกันอภิปรายภายใต้กรอบ “การเร่งผลักดันผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบคลาวด์ พร้อมช่วยอุตสาหกรรมแนวดิ่งเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล”

http://photos.prnasia.com/prnvar/20160901/0861608981
โจว จื้อเหล่ย ประธานกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมของหัวเว่ย

โจว จื้อเหล่ย ประธานกลุ่มธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมของหัวเว่ย กล่าวว่า ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมไอทีได้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว นำโดยคลื่นลูกแรกที่มีเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ตามด้วยคลื่นลูกที่สองซึ่งมีแอปพลิเคชั่นเป็นศูนย์กลาง และขณะนี้กำลังเริ่มก้าวเข้าสู่คลื่นลูกที่สาม ซึ่งอาจยาวนานไปตลอด 20-30 ปีข้างหน้า โดยในคลื่นลูกที่สามนี้ การพัฒนาอุตสาหกรรมจะมีระบบนิเวศอุตสาหกรรมแนวดิ่งเป็นศูนย์กลาง ซึ่งปัจจุบันระบบอินเทอร์เน็ตและคลาวด์ได้พลิกโฉมภาคส่วนต่าง ๆ ในแนวดิ่งแล้ว ตั้งแต่บริการจากภาครัฐ ภาคการศึกษา ภาคการเงิน ไปจนถึงภาคการขนส่ง และภาคการผลิต ขณะที่เทคโนโลยีและแนวทางใหม่ ๆ ก็กำลังก่อให้เกิดการผลิตรูปแบบใหม่ อันจะทำให้อุตสาหกรรมและภาคส่วนที่มีความสำคัญเหล่านี้กลับมายืนอยู่แถวหน้าในด้านของนวัตกรรม

ในคลื่นลูกที่สามของการเปลี่ยนแปลงนี้ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะเป็นตัวเร่งศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างยิ่งใหญ่ อุตสาหกรรมที่ดำรงอยู่มานานนั้นต้องการบริการครบวงจรในจุดเดียวและบริการที่เข้าถึงพื้นที่ มีการผสานระบบคลาวด์และเครือข่ายเข้าด้วยกัน และมีระบบรักษาความปลอดภัยอันสมบูรณ์แบบ ผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะสามารถนำจุดแข็งของตนมาใช้ประโยชน์ในการช่วยให้ภาคส่วนแนวดิ่งสามารถควบรวมขั้นตอนและเครือข่ายต่าง ๆ ที่ยังแยกกันอยู่ ซึ่งการปรับโครงสร้างการดำเนินงานด้านเครือข่ายและกระบวนการทางธุรกิจจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถนำพาอุตสาหกรรมเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้ ทั้งยังจะได้ผลประโยชน์มากมายจากผลิตภาพที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า

สำหรับโอกาสที่จะประสบความสำเร็จนั้นเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในด้านของบริการคลาวด์ Internet of Things (IoT) และวิดีโอ โทมัส อาเชนเบรนเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดระบบคลาวด์ของดอยช์ เทเลคอม กล่าวว่า “คลาวด์เป็นตัวขับเคลื่อนและเป็นตัวสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่อุตสาหกรรมโดยรวม ดอยช์ เทเลคอม และ หัวเว่ย จะร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมต่อไป เพื่อมอบบริการคลาวด์คุณภาพสูงให้แก่บริษัทต่างๆ ผ่านทาง Open Telekom Cloud ของเรา ด้านหวาง จิงจง ซีอีโอของไชน่า โมบาย อันยาง กล่าวว่า ไชน่า โมบาย และ หัวเว่ย ได้นำเสนอบริการคลาวด์สำหรับรัฐบาล องค์กรธุรกิจ บริการสาธารณะ และ IoT ส่งผลให้เกิดเป็นเมืองอัจริยะที่มีการเชื่อมต่อถึงกัน พร้อมด้วยระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ บริการชั้นเยี่ยมสำหรับผู้อยู่อาศัย รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ นายจอห์น ฮอฟฟ์แมน ซีอีโอและกรรมการบริษัท จีเอสเอ็ม จำกัด มีความเชื่อเช่นเดียวกันว่า การบรรจบกันของคลาวด์ IoT และบิ๊กดาต้า ถือเป็นโอกาสใหม่ในการเชื่อมถึงโลกแห่งอนาคต ซึ่งก็คือโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั่นเอง

“ALL CLOUD” หรือการทำให้ทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ เครือข่าย การปฏิบัติงาน และการบริการอยู่บนระบบคลาวด์ นับเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของบรรดาผู้ให้บริการเครือข่าย นายอู๋ เซียงตง ประธานไชน่า เทเลคอม คลาวด์ คอมพิวติ้ง กล่าวว่า “ไชน่า เทเลคอม และ หัวเว่ยได้ร่วมกันพัฒนาระบบ eCloud 3.0 ใหม่ล่าสุดซึ่งรวมเอาคลาวด์และเครือข่ายเข้าไว้ด้วยกัน พร้อมนำเสนอบริการคลาวด์ที่ปลอดภัยและปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยสามารถสนับสนุนการพัฒนาของอินเทอร์เน็ตระดับอุตสาหกรรม และขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาสารสนเทศของอุตสาหกรรม”

ขณะเดียวกัน หัวเว่ยยึดมั่นในหลักการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ หรือ “Make It Possible” พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการพัฒนาคลาวด์ ทั้งเพื่อตอบโจทย์ สร้างประสบการณ์ และให้ความรู้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นศักยภาพภายในองค์กรของหัวเว่ยได้อย่างดีเยี่ยม และนำไปสู่บริการทีดีกว่าเดิมสำหรับผู้ให้บริการเครือข่าย

เทคโนโลยีคลาวด์นั้นอยู่รอบตัวเรา และหัวเว่ยก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับหุ้นส่วนในอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาระบบนิเวศคลาวด์แบบเปิดที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะสนับสนุนกลยุทธ์ด้านคลาวด์ของบรรดาผู้ให้บริการโทรคมนาคม เร่งผลักดันการพลิกโฉมธุรกิจสู่โลกของคลาวด์ และช่วยให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมทั้งหมดเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ทั้งนี้ เฉิ่น เค่อ รองประธานของไชน่า ยูนิคอม เซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า “ไชน่า ยูนิคอม และ หัวเว่ย ได้ร่วมกันสร้างระบบนิเวศดิจิทัลเชิงธุรกิจ ‘2+N’ อันทรงพลัง สำหรับให้บริการออนไลน์แก่องค์กรธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซคลาวด์ และให้บริการบ่มเพาะธุรกิจแบบครบวงจรในหนึ่งเดียวแก่บรรดาพันธมิตร”

งาน Huawei Connect 2016 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 2 กันยายน ณ Shanghai Expo Centre, Mercedes-Benz Arena และ Shanghai World Expo Exhibition and Convention Center (SWEECC) ในนครเซี่ยงไฮ้ โดยมีผู้นำในวงการอุตสาหกรรมมากกว่า 15,000 ราย มาร่วมกันอภิปรายถึงแนวทางในการสร้างโลกที่เชื่อมต่อถึงกันได้ดีขึ้น และแนวทางส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมต่างๆ สู่ยุคดิจิทัล สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเข้าชมที่ http://www.huawei.com/minisite/huaweiconnect2016/en/index.html

เกี่ยวกับหัวเว่ย

หัวเว่ย เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ชั้นนำระดับโลก เรามีจุดมุ่งหมายในการสร้างโลกที่เชื่อมต่อถึงกันได้ดีขึ้น ผ่านการรับบทบาทเป็นธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ผลักดันนวัตกรรมในสังคมสารสนเทศ และผู้มีส่วนช่วยเหลืออุตสาหกรรม ด้วยแรงผลักดันจากนวัตกรรมที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าและพันธมิตรแบบเปิดกว้าง หัวเว่ยได้สร้างสรรค์โซลูชันไอซีทีแบบเอ็นด์ทูเอ็นด์ที่ช่วยให้ลูกค้ามีความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและเครือข่ายระดับองค์กร อุปกรณ์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง พนักงาน 170,000 คนทั่วโลกของหัวเว่ยมีพันธกิจในการสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม บริษัทและผู้บริโภค โซลูชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอซีทีของเราถูกนำไปใช้ในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค เพื่อให้บริการแก่ประชากรมากกว่าหนึ่งในสามของโลก ทั้งนี้ หัวเว่ยก่อตั้งขึ้นในปี 2530 และเป็นบริษัทเอกชนที่พนักงานเป็นเจ้าของร่วมกัน