ที่งาน CEBIT 2018 หัวเว่ย ได้เปิดตัว FusionCloud 6.3 โซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัวแบบ full-stack ที่ตอบสนองความต้องการขององค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรม โซลูชั่นรุ่นใหม่นี้สร้างบนสถาปัตยกรรมซึ่งพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “One Cloud, One Lake and One Platform” เพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ ย้ายระบบสู่คลาวด์ พร้อมบรรลุเป้าหมายในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัล
วิลเลียม ตง รองประธานฝ่ายขายโซลูชั่นการตลาด กลุ่มธุรกิจธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การย้ายระบบสู่คลาวด์ไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายขององค์กรส่วนใหญ่ ในทางกลับกัน พวกเขามุ่งความสนใจไปยังประเด็นที่ว่าระบบคลาวด์จะช่วยให้พวกเขาปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ตอบรับกับความต้องการของตลาดและการแข่งขันได้อย่างไร โซลูชั่นที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ของหัวเว่ยจะช่วยให้องค์กรสามารถย้ายบริการที่สำคัญ ๆ ไปยังระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ cloud service stacksที่ผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ นอกจากนี้ โซลูชั่นดังกล่าวยังช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรเหล่านี้สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้เร็วขึ้น และบรรลุมูลค่าทางธุรกิจที่แท้จริง”
One Cloud ช่วยเร่งผลักดันการย้ายแอปพลิเคชั่นการใช้งานหลักไปสู่ระบบคลาวด์
FushionCloud 6.3 จะมอบระบบคลาวด์ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว โดยรวมโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการ และการบริการเข้าด้วยกัน พร้อมเปิดให้ใช้งานร่วมกันได้ เพื่อผลักดันประสิทธิภาพและความคล่องตัว โซลูชั่นคลาวด์แบบส่วนตัวรุ่นใหม่นี้ใช้ประโยชน์จาก technology stacks ที่มีการผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เพื่อให้เกิดเป็นบริการคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยโซลูชั่นดังกล่าวจะนำเสนอบริการคลาวด์ในรูปแบบ IaaS รวมมากกว่า 42 รายการ นอกจากนี้ FushionCloud 6.3 ยังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งรวมถึง bare metal, การเพิ่มประสิทธิภาพ GPU และบริการคลาวด์โฮสต์ SAP HANA เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ย้ายระบบการใช้งานหลักไปเป็นระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย หัวเว่ยเป็นผู้ขายเพียงรายเดียวที่นำเสนอเซิร์ฟเวอร์ ผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล และแพลตฟอร์มเวอร์ชวลไลเซชั่น ซึ่งล้วนได้รับการรับรองจาก SAP ให้สามารถนำเสนอบริการคลาวด์โฮสต์ SAP HANA ที่มีมาตรฐานสูงได้ FusionCloud 6.3 ให้บริการประมวลผลที่หลากหลาย (GPUs + CPUs) เนื่องจากเป็นการพัฒนาต่อยอดขึ้นจากแพลตฟอร์มประมวลผลที่มีความหลากหลายอย่าง Atlas ของหัวเว่ย เซิร์ฟเวอร์เพียงเซิร์ฟเวอร์เดียวสามารถรองรับการประมวลผลวิดีโอได้ 512 ช่อง ซึ่งช่วยยกระดับขีดความสามารถในการผลิตวิดีโอได้มากขึ้นถึง 32 เท่า นอกจากนี้ FushionCloud6.3 ยังเป็นโซลูชั่นเดียวที่รองรับการบริการกู้คืนระบบเมื่อเกิดภัยพิบัติ (DR) ทั้งในระดับท้องถิ่น ระหว่างเมือง และระดับภูมิภาค มีเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่พร้อมใช้งานสูง ตลอดจนมีการสำรองข้อมูลข้ามระบบคลาวด์เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้ โซลูชั่นนี้ยังรองรับบริการระบบคลาวด์แบบสาธารณะของหัวเว่ย, APIs ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตลอดจนส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่มีความต่อเนื่อง และการย้ายระบบคลาวด์ที่ไร้รอยต่อ
One Lake เปลี่ยนข้อมูลเป็นมูลค่าทางธุรกิจ
FusionCloud 6.3 ประกอบด้วย data lake หรือคลังข้อมูลที่มอบขีดความสามารถในการประมวลผลตลอดทั้งวงจร ซึ่งรวมถึงการรวมกลุ่มข้อมูล การจัดเก็บ การประมวลผล การบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการแปลงทรัพยากรข้อมูลเป็นสินทรัพย์ข้อมูล มอบความสามารถในการวิเคราะห์บิ๊กดาต้าตามสถานการณ์เฉพาะ สนับสนุนการกระจายบริการบิ๊กดาต้าในระดับสอง และเร่งผลักดันการย้ายบิ๊กดาต้าสู่คลาวด์ FusionCloud 6.3 รองรับฐานข้อมูลหลัก 5 ประเภท (Oracle, SQL Server, MySQL, PostgreSQL และ MPPDB) และมอบบริการรักษาความปลอดภัยฐานข้อมูลเพื่อการย้ายฐานข้อมูลสู่คลาวด์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
One Platform เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรมธุรกิจ
FusionCloud 6.3 นำเสนอแพลตฟอร์มเพื่อการใช้งานที่เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการรวมบริการข้อมูลพื้นฐาน มิดเดิลแวร์อเนกประสงค์ และมิดเดิลแวร์เฉพาะอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ลูกค้าและบรรดาผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์อิสระ (ISV) สามารถพัฒนาบริการใหม่ ๆ ตามประเภทของมิดเดิลแวร์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายได้ การผสมผสานกันของคอนเทนเนอร์และเครื่องจักรเสมือนทำให้การจัดวางและการกระจายบริการที่ซับซ้อนเป็นไปได้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ FusionCloud 6.3 ยังใช้แฟ้มเก็บบริการคลาวด์ (CSC) ในการรวมแอพจากผู้ให้บริการภายนอก เปิดทางให้เข้าถึงการใช้งานรูปแบบต่าง ๆ ของ ISV และปรับตัวเข้ากับข้อกำหนดเฉพาะสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมอบระบบนิเวศสำหรับนวัตกรรมองค์กร หัวเว่ยร่วมมือกับ ISV กว่า 300 รายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างขององค์กรในสถานการณ์ต่าง ๆ และช่วยให้ลูกค้าย้ายบริการสู่คลาวด์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อเร่งขับเคลื่อนนวัตกรรมธุรกิจ
คลาวด์ส่วนตัวของหัวเว่ยนำเสนอโซลูชั่น ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจสู่ดิจิทัล โดยนับตั้งแต่เริ่มให้บริการไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ หัวเว่ยได้ให้บริการลูกค้ากว่า 4,300 รายใน 144 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น ภาครัฐ สาธารณูปโภค โทรคมนาคม พลังงาน การเงิน คมนาคม การผลิต สื่อมวลชน บริการสุขภาพ และการศึกษา
หัวเว่ยร่วมมือกับพันธมิตรและลูกค้าในการจัดแสดงโซลูชั่นใหม่ ๆ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจสู่ดิจิทัล ในระหว่างวันที่ 11-15 มิถุนายนนี้ ที่งาน CEBIT ประเทศเยอรมนี นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมและแบ่งปันแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประมวลผลคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บิ๊กดาต้า IoT และเครือข่าย SDN ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในปัจจุบัน
บูธของหัวเว่ยตั้งอยู่บนพื้นที่จัดแสดง C01 ในฮอลล์ 13 ณ ศูนย์นิทรรศการฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวเว่ยในงาน CEBIT กรุณาเข้าชมที่ http://e.huawei.com/topic/cebit2018-en/index.html และรับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีตัวอย่างการใช้งาน “Leading New ICT” ของหัวเว่ย ได้ที่ http://e.huawei.com/topic/leading-new-ict-en/index.html
รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20180612/2160360-1
คำบรรยายภาพ: วิลเลียม ตง (ซ้าย) รองประธานฝ่ายขายโซลูชั่นการตลาด กลุ่มธุรกิจธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ย และสเตฟาน โซลดัต (ขวา) ซีอีโอของ DU-IT เปิดตัวโซลูชั่นคลาวด์ส่วนตัว FushionCloud 6.3