ในงาน Global Analyst Summit ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่เมืองเซิ่นเจิ้น หัวเว่ยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และพูดคุยถึงโอกาสความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยมีนักวิเคราะห์ ผู้นำทางความคิด ตัวแทนสื่อและแขกผู้มีเกียรติจากทั่วโลกเข้าร่วมงาน
มร. โรเบิร์ต ซิมสันส์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์สตอเรจของหัวเว่ย ได้นำเสนอระหว่างกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Cloud and IT Infrastructure” ถึงโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด “Data on Demand” ของหัวเว่ย เขาได้กล่าวด้วยว่า สตอเรจใหม่ของหัวเว่ย ซึ่งเป็นโซลูชั่น Storage as a Service หรือ STaaS ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถทำงานในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์ได้ เพื่อให้เกิดการทำงานที่สอดคล้องกันทั้งระบบดาต้าที่องค์กรเป็นผู้ดูแลเอง (on premise) และระบบที่ดูแลโดยผู้ให้บริการ (off premise)
โซลูชั่น STaaS จะทำหน้าที่ควบคุมจัดการ SAN, NAS, สิ่งของ และอุปกรณ์สตอเรจอื่นๆ ในหน้าจอเดียว โดยจะรวมระบบสตอเรจต่างๆ เข้าเป็นรีซอร์สเดียว เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถจัดการดาต้าและดำเนินการด้าน O&M ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การที่บริการคลาวด์มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อโครงสร้างพื้นฐานของคลาวด์สาธารณะ องค์กรและหน่วยงานภาครัฐจึงมองว่าบริการคลาวด์สาธารณะเป็นตัวเลือกที่จำเป็นต้องมี หัวเว่ยได้เปิดตัวบริการสตอเรจขึ้นมา 6 บริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านดาต้าที่มากขึ้นของลูกค้า ดังนี้ บริการ Elastic Volume, บริการ Volume Backup, บริการ Object Storage, บริการ Scalable File, บริการ Data Express และบริการ Data Transfer Accelerate
ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง และการเกิดแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ขึ้นมากมายทำให้ต้องการระบบที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและมีความหน่วงต่ำ แฟลชสตอเรจจึงเป็นตัวเลือกสำหรับแก้ปัญหาการทำงานที่ล่าช้าติดขัดและเร่งการทำงานของแอพพลิเคชั่นสำคัญ OceanStor Dorado V3 ซึ่งเป็น all-flash array รุ่นใหม่ล่าสุดของหัวเว่ย ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของโซลูชั่น STaaS การจัดระเบียบข้อมูล array จะรักษาอัตราการตอบสนองต่ำกว่า 500 μs ด้วยประสิทธิภาพระดับสูงสุด และค่าความน่าเชื่อถือ 99.9999% เพื่อตอบสนองความต้องการสตอเรจขององค์กรในยุคดิจิทัล
หัวเว่ยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม “Leader” ของการจัดหมวดหมู่ “Magic Quadrant for General Purpose Arrays” โดยการ์ทเนอร์เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา ด้วยลูกค้าเกือบ 7,000 รายทั่วโลก และด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครบวงจร หัวเว่ยสตอเรจมุ่งมั่นที่จะจัดหาบริการแบบ on-demand ให้แก่ลูกค้าองค์กรและสร้างแพลตฟอร์มบริการดาต้าบนคลาวด์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การทำงานบนคลาวด์ที่คล่องตัวได้สำเร็จ
-จบ-