หอมกรุ่นกลิ่นกาแฟ หนังสั้นสร้างแรงบันดาลใจเด็กอาชีวะ “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” โดยมูลนิธิเอสซีจี พร้อมเสิร์ฟให้ดื่มด่ำพร้อมกันทางออนไลน์

0
642
image_pdfimage_printPrint

มูลนิธิเอสซีจีเปิดตัวหนังสั้นสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กอาชีวะฝีมือชนที่มีความฝัน ความพยายาม และมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ผ่านหนังสั้น “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้จากการลงมือ มีฝีมือจากความพยายาม” นำเสนอเรื่องราวของความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝันของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่อเผยแพร่และเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ อาชีวะ รับชมพร้อมกันทั่วประเทศ 19 กรกฎาคมนี้ ทางยูทูปแชนแนล scgfoundation และเฟซบุ๊กแฟนเพจ อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ
กรุงเทพฯ – วันนี้ (19 กรกฎาคม 2562) โครงการอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ โดยมูลนิธิเอสซีจี จัดงานเปิดตัวหนังสั้นเรื่อง “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” หนังสั้นสร้างแรงบันดาลใจ สะท้อนชีวิตเด็กอาชีวะที่มีความฝันอยากเป็นบาริสต้า และเส้นทางแห่งความฝันนี้เธอต้องพบเจอกับอะไรบ้างต้องคอยติดตามกัน งานในวันนี้ นำโดย คุณเชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี และคุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน ไม่เพียงการเปิดตัวหนังสั้นเรื่องใหม่จากมูลนิธิเอสซีจีเท่านั้น บนเวทียังมีการเสวนาในหัวข้อ “เรียนรู้จากการลงมือ มีฝีมือจากความพยายาม” โดย น้องเหมียว – สายชล เศรษฐากา ตัวแทนศิษย์เก่าอาชีวะ คุณครูกันญาภัค คล้ายสิงห์โต ตัวแทนคุณครูอาชีวะ คุณอธิชัย แสงทอง ครีเอทีฟฝีมือเยี่ยมผู้คิดหนังสั้นเรื่องนี้ และแขกรับเชิญพิเศษ คุณเดี่ยว – สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล ตัวแทนศิลปินดารา เจ้าของกิจการร้านกาแฟที่มีประสบการณ์การทำงานกับน้อง ๆ อาชีวะ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ รวมถึงแง่คิดดีๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจ ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
เชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า นับแต่ปี พ.ศ. 2556 มูลนิธิเอสซีจีได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สนใจศึกษาต่อด้านอาชีวะในสายช่างอุตสาหกรรม สายบริการและสายเกษตรกรรม ภายใต้โครงการ “อาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนผู้เรียนอาชีวะ ปัจจุบันนี้มูลนิธิฯ ให้ทุนการศึกษาอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ ไปทั้งสิ้น 2,450 ทุน เพราะมูลนิธิฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างบุคลากรในสาขาวิชาดังกล่าวให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 เด็กอาชีวะฝีมือชนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เด็กอาชีวะ แต่พวกเขาคือฟันเฟืองที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
“ในปีนี้ มูลนิธิเอสซีจีต้องการที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของเด็กอาชีวะสายบริการ โดยข้อมูลความต้องการแรงงานอาชีวศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ (First S-Curve) ในช่วงปี 2560-2564 พบว่ากลุ่ม First S-Curve เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีรายได้และการเติบโตดี นอกจากนี้ การแปรรูปอาหาร การท่องเที่ยว เชิงสุขภาพ ก็เป็นแนวโน้มที่มาแรงในปัจจุบันอีกด้วย นอกจากเรื่องการสร้างกำลังคนในสายอาชีวะด้วยการมอบทุนการศึกษาอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติแล้ว มูลนิธิฯ ยังเดินหน้าเสริมสร้างทัศนคติอันดีของสังคมที่มีต่อผู้เรียนและการเรียนอาชีวะควบคู่กันไป

โดยในปีนี้ มูลนิธิฯ ได้นำเสนอเรื่องราวที่แสดงให้เห็นศักยภาพและความสามารถของน้อง ๆ อาชีวะ ที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบลงมือปฏิบัติ เพื่อนำไปประกอบอาชีพได้จริง ผ่านหนังสั้นเรื่อง “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้จากการลงมือ มีฝีมือจากความพยายาม” เพื่อส่งเสริมให้สังคมมีมุมมองและทัศนคติที่ดีต่อนักเรียนอาชีวะ มองเห็นถึงความตั้งใจในการเลือกเรียนสายปฏิบัติ และรู้จักสาขาบริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาจริง ๆ แล้ว สังคมก็มีมุมมองที่ดีต่อนักเรียนอาชีวะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่หากเมื่อพูดถึงอาชีวศึกษาคนส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่สายช่าง และอาจยังไม่รู้จักอาชีวะสายบริการดีเท่าที่ควร ซึ่งในสายนี้น้อง ๆ สามารถที่จะใช้ทักษะฝีมือที่ได้จากการเรียนอาชีวะ ไม่ว่าจะเป็นจากการจัดดอกไม้ การประกอบอาหาร การทำเครื่องดื่ม หรือการแกะสลัก มาเลี้ยงดูตัวเองได้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ หรือยึดเป็นอาชีพหลักได้ เหล่านี้ถือเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปในอนาคต” เชาวลิต กล่าว
ด้าน วิทิต คำสระแก้ว ผู้กำกับหนังสั้น “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” เล่าให้ฟังถึงการนำเสนอเนื้อหาของหนังสั้นเรื่องนี้ว่า ภาพจำของคนที่รู้จักเด็กอาชีวะส่วนใหญ่ คือเป็นผู้ชาย เรียนช่างยนต์ ช่างก่อสร้าง แต่ในปีนี้ได้รับโจทย์เบื้องต้นจากมูลนิธิเอสซีจี ที่อยากจะหยิบยกเด็กอาชีวะอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นบุคลากรที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นรายได้หลักของประเทศมาพูดถึง เรามีเจตนาที่จะพูดถึงทักษะฝีมือของเด็กอาชีวะ เชิดชูคุณค่าของคนที่ลงมือทำ ตลอดจนปรับเปลี่ยนทัศนคติของสังคมให้รู้ว่ายังมีเด็กอาชีวะจำนวนมากที่เป็นเด็กที่มีคุณภาพและมีศักยภาพ และเป็นสิ่งที่ควรจะถ่ายทอดออกไปให้คนภายนอกได้รับรู้
“มูลนิธิฯ และทีมผู้สร้างมีเจตนาที่ดีเสมอ โดยพื้นฐานตั้งต้นอาจจะเหมือนแค่เล่าเรื่องเด็กอาชีวะทั่วไป แต่ผมว่าหนังทุก ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเพียงแค่เด็กอาชีวะ แต่พูดถึงสังคมไทยโดยรวมเลยก็ว่าได้ คือการให้ความสำคัญกับคนที่มีส่วนผสมของความรู้ในเชิงทฤษฎีและเป็นนักปฏิบัติในคน ๆ เดียวกัน ซึ่งมูลนิธิฯ พยายามจะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ตลอดเวลา และคิดว่าหนังเรื่องนี้จะช่วยสื่อออกไปได้ ทั้งช่วยสร้างแรงบันดาลใจกับเด็กอาชีวะเบื้องต้นก่อน แล้วก็รวมไปถึงผู้ปกครองหรือญาติพี่น้อง ทำให้เค้ารู้สึกภาคภูมิใจในตัวบุตรหลานของตัวเองที่จบจากสถาบันอาชีวะ และสนับสนุนให้เด็กทำในสิ่งที่รัก ผมเชื่อว่าการเริ่มต้นจากสิ่งที่เรารัก จะทำให้เราพยายามมากกว่าปกติ และความพยายามที่มากกว่าปกติ ก็มักจะทำให้การเติบโตของเราเร็วกว่าปกติ และเมื่อเติบโตเร็วกว่าปกติ ความสำเร็จก็จะมาถึงเร็วกว่าปกติเช่นกัน ดังนั้น ความรักจึงเป็นจุดตั้งต้นที่สำคัญในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง และความพยายามในการฝึกฝนตัวเอง ฝึกทักษะฝีมือ และสั่งสมประสบการณ์ ถือเป็นสูตรลับสู่ความสำเร็จ” นายวิทิต กล่าว
ทั้งนี้ หนังสั้น เรื่อง “ชงด้วยเลิฟ เสิร์ฟด้วยรัก” โดยมูลนิธิเอสซีจี จะเริ่มเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2562 เป็นต้นไป ผ่านทางยูทูปแชนแนล scgfoundation และเฟซบุ๊กแฟนเพจอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ