การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา น.พ. นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อดีต ส.ส. จ. แพร่ ให้ข้อสังเกตต่อสภาฯ กรณีการขึ้นภาษีบุหรี่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มี ส.ส. จากพื้นที่ยาสูบหลายท่านปรึกษาเรื่องความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ ว่า “รัฐบาลมีความตั้งใจดีที่จะจำนวนผู้สูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นสินค้าที่อันตราย แต่การปรับภาษีบุหรี่ให้สูงขึ้น จนทำให้ราคาบุหรี่ขั้นต่ำขยับขึ้นเป็น 60 บาท และ 90 บาท ส่งผลต่อผลประกอบการของการยาสูบแห่งประเทศไทย ที่รายได้ลดลง 86% จาก 9 พันล้าน เหลือประมาณ 800 ล้านบาท จนต้องลดการรับซื้อใบยาลง 50% พี่น้องชาวไร่ยาสูบต้องขาดรายได้ อีกทั้งรัฐบาลยังเก็บภาษีได้ลดลงเพราะตลาดบุหรี่เถื่อนที่เติบโตขึ้น แต่จำนวนผู้สูบบุหรี่กลับไม่ได้ลดลง”
เป็นที่น่าสังเกตว่าประเด็นความเดือดร้อนของชาวไรยาสูบ-ยาเส้นจากการขึ้นภาษีสรรพสามิต ถูกหยิบยกขึ้นมาอภิปรายในสภาบ่อยครั้งในระยะนี้ จนทำให้นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ออกมาเปิดเผยว่าจะหารือกับกรมสรรพสามิตเพื่อลดภาษียาเส้นพร้อมพิจารณาเลื่อนการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ออกไปอีก เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบกับเกษตรกรชาวไร่ ผู้ประกอบการ และ ยสท.
ทั้งนี้ ก่อนเบนเข็มไปร่วมกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ น.พ. นิยมเป็นอดีต ส.ส. พรรคเพื่อไทย จ. แพร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียอันดับสองของประเทศ มีพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ และมีชาวไร่ยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียและครอบครัวกว่า 4 พันคน และยังเป็นที่ตั้งของสาขาพรรคเศรษฐกิจใหม่อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปยัง นายล้วน ร่องแก้ว ชาวไร่ยาสูบ จ. แพร่ ซึ่งกล่าวว่า “ท่าน รมช. คลัง เพิ่งออกมาบอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาให้ชาวไร่โดยการทบทวนการขึ้นภาษีซึ่งเป็นต้นตอของการที่ชาวไร่ต้องโดนตัดโควตาปีที่แล้ว ชาวไร่ภาคเหนือรวมทั้งจังหวัดแพร่ก็โดนตัดโควตาไปแล้ว 4.2 ล้าน ก.ก. ช่วงนี้ก็ใกล้เวลาที่ ยสท. จะประกาศโควตารับซื้อของปีนี้แล้ว พวกเราไม่อยากให้มีการตัดโควตาเพิ่มอีกเลย จึงอยากขอให้กระทรวงการคลังและกรมสรรพสามิตยกเลิกการขึ้นภาษีบุหรี่ 40% ในเดือน ต.ค. 63 แล้วเปลี่ยนเป็นกำหนดขึ้นภาษีทีละน้อยๆ แทน”
