ส่งเสริมนวดแผนไทยสไตล์ลานนาและนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยก้าวไกล สู่สากล
การนวดแผนไทย หรือ นวดแผนโบราณ เป็นการนวดชนิดหนึ่งในแบบไทย ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการยืดเส้น และการกดจุด ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “นวดแผนโบราณ” โดยมีหลักฐานว่านวดแผนไทยนั้นมีประวัติมาจากประเทศอินเดีย และ มีการนำเข้ามาในประเทศไทย จากนั้นได้ถูกพัฒนาให้เข้ากันกับวัฒนธรรมของสังคมไทยจนเป็นรูปแบบแผนที่เป็นมาตรฐานของไทย ปัจจุบันการนวดแผนไทยนั้นได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนช่วยกันผลักดันและยกระดับศาสตร์การนวดแผนไทยให้มีความโดดเด่น มีศักยภาพ และได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ
อาจารย์ดวงสมร ไชยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนนวดเพื่อสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่ และกรรมการบริหารสมาคมส่งเสริมบริการสุขภาพเชียงใหม่ กล่าวว่า “การนวดแผนไทยมีประโยชน์หลายด้าน ช่วยให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น พังผืด ยืดผ่อนคลาย ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหวของร่างกายสะดวกขึ้น การไหลเวียนของโลหิตขยายทำให้ร่างกายสดชื่น เสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกาย กระตุ้นระบบประสาท มีความตื่นตัวในการทำงานและที่สำคัญช่วยยืดอายุการทำงานของข้อต่อกระดูกในการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้จิตใจของเราดีขึ้นตาม และเมื่อมีการนำนวดแผนไทยมาผสานเข้ากับครีมนวดของไทยที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดลำไย ยิ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น และทำให้เกิดความเชื่อมั่นที่จะช่วยกันผลักดันนวัตกรรมธรรมชาติบำบัดนี้ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น ซึ่งนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยนี้เป็นผลงานวิจัยดีเด่นของคนไทยที่คิดค้นโดย ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ”
โดยที่ผ่านมาสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือสวก.ได้ให้ทุนสนับสนุนนักวิจัยไทยดีเด่น ศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้ค้นคว้าวิจัยนำผลไม้เศรษฐกิจของภาคเหนืออย่างลำไยมาพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณค่าของพืชสมุนไพรผลไม้ไทยให้โดดเด่นไม่แพ้สมุนไพรของต่างชาติ และที่สำคัญยังมีส่วนในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยของไทยด้วย ทั้งนี้จากผลการวิจัยพัฒนาพบว่าในเมล็ดลำไยนั้น มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันขบวนการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และยังยับยั้งเอนไซม์แมทริกซ์เมทัลโลโปรทีเนสที่สลายกล้ามเนื้อคอลลาเจนและอิลาสตินรวมทั้งช่วยยืดอายุกระดูกอ่อนและกล้ามเนื้อไม่ให้เกิดการสึกหรอก่อนเวลาอันควร เมื่อนำสารสกัดเมล็ดลำไยมาพัฒนาร่วมกับว่านสมุนไพรไทยล้านนากว่า 12 ชนิด และสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นครีมนวดสกัดจากเมล็ดลำไย ซึ่งได้รับรางวัลการันตีคุณภาพนวัตกรรมดีเด่นจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี พ.ศ. 2552 และรางวัลนวัตกรยอดเยี่ยมจาก CBS จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2554
และเพื่อเป็นการส่งเสริมให้งานวิจัยของคนไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก หน่วยงานภาครัฐและเอกชนยังเตรียมผลักดันนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไย และนวดแผนไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ในเบื้องต้นนั้นได้รับการตอบรับจากกลุ่มธุรกิจชาวต่างชาติ โดยจะนำการนวดแผนไทยและนวัตกรรมสารสกัดจากเมล็ดลำไยออกไปเผยแพร่ในหลายประเทศ อาทิ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง เวียดนาม ออสเตรเลีย อังกฤษ และอเมริกา ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทยที่จะได้แสดงศักยภาพของการนวดแผนไทยในระดับโลก และถือเป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่จะทำให้เยาวชนหรือนักคิดนักวิจัยรุ่นใหม่ตะหนักถึงความสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงาน วิจัยดีๆ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไป ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 090-672 6498, 090-672 8930, 084-399 9299 ในวันและเวลาราชการ