สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง”
ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา
“การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
และกฎหมายลำดับรอง” ต่อเนื่องที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ ๕ หลังจากเปิดเวทีสร้างความรู้
ความเข้าใจให้แก่ บุคลากรของหน่วยงานของรัฐ ในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดชลบุรี ไปก่อนหน้า
นางวชิรญา เพิ่มภูศรี ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ สคร.
เปิดเผยว่า การจัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐ
และเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนี้ เป็นกิจกรรมสร้างความรู้
ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐในเขตจังหวัดภาคใต้ จำนวน ๑๔ จังหวัด โดยพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว
มีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงหลายประการเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
สำหรับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
(พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒) ได้กำหนดให้โครงการที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
จะต้องเป็นโครงการร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ส่งผลให้โครงการ
ร่วมลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ เช่น โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายดังกล่าว และได้กำหนดให้มีแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และด้านสังคมของประเทศที่สำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดนโยบายของรัฐที่ชัดเจนและแน่นอน
ในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะซึ่งเป็นภารกิจหลักของรัฐ โดยกำหนดเป้าประสงค์
ของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) มุ่งเน้นการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมของเอกชนในโครงการร่วมลงทุน
การถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญไปยังหน่วยงานภาครัฐ การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ
และการเสริมสร้างความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒ ยังมุ่งเน้นถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืนของโครงการ PPP โดยกำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมการร่วมลงทุนให้แก่โครงการ
ร่วมลงทุนอย่างเหมาะสมภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง และมีกลไกช่วยแก้ไขปัญหาหรือความล่าช้า
ในการจัดทำหรือดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการจัดทำโครงการ
ร่วมลงทุนให้กระชับมากยิ่งขึ้น
กิจกรรมสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” เป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล
และภาคต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดำเนินการและการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่มีขั้นตอน
ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PPP ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอิสระ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้เกิดโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้เพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลและเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว