สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” ณ โรงแรม ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง”
ณ โรงแรม ราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดชลบุรี
เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา
“การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
และกฎหมายลำดับรอง” ต่อเนื่องที่จังหวัดชลบุรี หลังจากเปิดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ บุคลากร
ของหน่วยงานของรัฐ ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น ไปก่อนหน้านี้
เจ้าหน้าที่ สคร. เปิดเผยว่าการจัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติ
การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” ที่จังหวัดชลบุรี เป็นการจัดสัมมนาครั้งที่ ๔ ต่อเนื่องจากการสัมมนาที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐในเขตจังหวัดภาคตะวันออก จำนวน
๗ จังหวัด
พระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ (พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒) มีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลงหลายประการ โดยได้กำหนดให้โครงการที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ จะต้องเป็นโครงการร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ส่งผลให้โครงการ
ร่วมลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ เช่น โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายดังกล่าว และได้กำหนดให้มีแผนการจัดทำโครงการ
ร่วมลงทุน ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และด้านสังคมของประเทศที่สำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดนโยบายของรัฐที่ชัดเจนและแน่นอน
ในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะซึ่งเป็นภารกิจหลักของรัฐ โดยกำหนดเป้าประสงค์
ของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน (Public Private Partnership : PPP) มุ่งเน้นการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมของเอกชนในโครงการร่วมลงทุน การถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญไปยังหน่วยงานภาครัฐ การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ
และการเสริมสร้างความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒ ยังมุ่งเน้น
ถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืนของโครงการ PPP โดยกำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมการร่วมลงทุนให้แก่โครงการร่วมลงทุนอย่างเหมาะสมภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง และมีกลไกช่วยแก้ไขปัญหาหรือความล่าช้า
ในการจัดทำหรือดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการจัดทำโครงการ
ร่วมลงทุนให้กระชับมากยิ่งขึ้น
การจัดสัมมนาครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดำเนินการและการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่มีขั้นตอนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PPP ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอิสระ เพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดำเนินการและการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่มีขั้นตอนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PPP ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอิสระ ในเขตจังหวัดภาคตะวันออก เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้เกิดโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้เพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลและเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว