สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” ณ โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่
เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดสัมมนา
“การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
และกฎหมายลำดับรอง” ต่อเนื่องที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ หลังจากเปิดเวทีสร้างความรู้
ความเข้าใจให้แก่ บุคลากรของหน่วยงานของรัฐในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไปก่อนหน้านี้
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. เปิดเผยว่า การจัดสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง”
ขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่นี้เป็นกิจกรรมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐ
และเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐในเขตจังหวัดภาคเหนือ
๑๗ จังหวัด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดเวทีสัมมนาแล้วที่กรุงเทพฯ โดยพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ
ที่เปลี่ยนแปลงหลายประการเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
สำหรับสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒
(พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒) ได้กำหนดให้โครงการที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
จะต้องเป็นโครงการร่วมลงทุนในกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ ส่งผลให้โครงการ
ร่วมลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในกิจการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ เช่น โครงการพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์ ไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายดังกล่าว และได้กำหนดให้มีแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน ที่สอดคล้องกับแผนแม่บทด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และด้านสังคมของประเทศที่สำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดทำขึ้นเพื่อกำหนดนโยบายของรัฐที่ชัดเจนและแน่นอน
ในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะซึ่งเป็นภารกิจหลักของรัฐ โดยกำหนดเป้าประสงค์
ของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน (Partnership) มุ่งเน้นการใช้ความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมของเอกชนในโครงการร่วมลงทุน การถ่ายทอดความรู้และความเชี่ยวชาญไปยังหน่วยงานภาครัฐ การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ และการเสริมสร้าง
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี ๒๕๖๒ ยังมุ่งเน้นถึงความสำเร็จอย่างยั่งยืนของโครงการ PPP โดยกำหนดให้มีมาตรการส่งเสริมการร่วมลงทุนให้แก่โครงการร่วมลงทุนอย่างเหมาะสมภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง และมีกลไกช่วยแก้ไขปัญหาหรือความล่าช้าในการจัดทำหรือดำเนินโครงการร่วมลงทุน รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการจัดทำโครงการร่วมลงทุนให้กระชับมากยิ่งขึ้น
กิจกรรมสัมมนา “การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง” เป็นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. ๒๕๖๒ และกฎหมายลำดับรอง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล
และภาคต่างๆ และมีกำหนดการครั้งถัดไปที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการดำเนินการและการปฏิบัติงานตามกฎหมายที่มีขั้นตอนที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ PPP ให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอิสระ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้เกิดโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนได้เพิ่มขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล
และเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว