สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ ‘สายการบินชั้นนำของตะวันออกกลาง’ ประจำปี 2556 จากงานประกาศผลรางวัลของภาคธุรกิจการบิน World Travel Awards Middle East ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7
รางวัลนี้เป็นหนึ่งในสามรางวัลที่สายการบินเอทิฮัดได้รับในงานราตรีประกาศผลรางวัลซึ่งจัดขึ้นที่ เลอ รอยัล เมริเดียน บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ณ กรุงดูไบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สายการบินเอทิฮัดยังได้รับรางวัลสายการบินที่มีที่นั่งผู้โดยสารชั้นหนึ่งชั้นนำแห่งตะวันออกกลาง (Middle East’s Leading Airline First Class) และรางวัลสายการบินที่มีลูกเรือชั้นเยี่ยมแห่งตะวันออกกลาง (Middle East’s Leading Cabin Crew)
งานประกาศผลรางวัลของธุรกิจการบิน World Travel Awards เริ่มต้นในปี 2536 โดยมอบรางวัลแก่องค์กรการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดระดับโลก เพื่อแสดงการยอมรับความเป็นผู้นำขององค์กรชั้นนำต่างๆ ในแต่ละสาขาที่แต่ละองค์กรถนัดผ่านการลงคะแนนเสียงโดยผู้ประกอบอาชีพธุรกิจเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวจากทั่วโลก งานประกาศผลรางวัล World Travel Awards ได้ยึดครองสถานภาพการเป็นอุตสาหกรรมชั้นนำและได้รับการขนานนามจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลว่าเปรียบเสมือนกับ “รางวัลออสการ์แห่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว”
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ในฐานะตัวแทนของทีมงานของสายการบินฯ ทุกคน ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะน้อมรับรางวัลสายการบินชั้นนำแห่งตะวันออกกลางประจำปีนี้ ทุกอย่างที่เราทำล้วนแต่มุ่งเน้นการให้บริการที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้กับแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมเดินทางไปกับเราทุกท่าน”
“เราได้ขยายเครือช่ายการบินไปกว่า 248 เส้นทางทั่วโลกในปี 2555 เนื่องจากการเจริญโตจากธุรกิจหลัก การทำเที่ยวบินร่วม และการถือหุ้นในสายการบินต่างชาติ ทำให้เราสามารถจัดสรรความยืดหยุ่นและตัวเลือกการเดินทางที่มากกว่าให้กับผู้ใช้บริการของเรา”
“นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายแล้ว เรายังคงลงทุนในด้านนวัตรกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าแขกผู้มีเกียรติทุกท่านจะได้รับการเอื้ออำนวยความสะดวกจากเทคโนโลยีและการออกแบบที่ล้ำสมัย” มร.โฮแกน กล่าวเสริม
“ยกตัวอย่างเช่นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา การเปิดตัวบริการ “Etihad Wi-Fly” เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระหว่างการโดยสารบนเครื่องบิน เรากำลังผลักดันอย่างหนักให้ทุกฝูงบินมีบริการ “Etihad Wi-Fly” ภายในปี 2557 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแขกผู้มีเกียรติตลอดช่วงระยะเวลาการเดินทางไปกับสายการบินเอทิฮัด”
“นอกจากนี้ เรายังลงทุนมหาศาลอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างห้องรับรองระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมกับการบริการชั้นเยี่ยมที่ออกแบบมาเพื่อให้อาคันตุกะผู้ทรงเกียรติของเราได้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินระหว่างการเดินทาง”
มร. โฮแกนเพิ่มเติมอีกว่า “ลักษณะเด่นของสายการบินเอทิฮัดที่เราภาคภูมิใจเป็นอย่างมากคือการบริการต้อนรับที่เอื้อเฟื้อและอบอุ่นที่ได้รับมาจากวัฒนธรรมดั้งเดิมของอาหรับที่ปรากฏอยู่ทั่วทั้งกรุงอาบูดาบี”
มร. เกรแฮม อี คุค ผู้ก่อตั้งและประธาน งานประกาศผลรางวัล World Travel Awards ชี้แจงว่า “สายการบินเอทิฮัดยังคงสนุกสนานกับการทำงานตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้นี่จะเป็นปีที่ 10 ของสายการบินแล้วก็ตาม ยุทธศาสตร์ในการสร้างการเจริญเติบโตจากธุรกิจหลักและกลยุทธ์ในการสร้างพันธมิตรที่หลักแหลม รวมกับพันธสัญญาที่ยากจะหาใครเทียบเคียงได้ในการสร้างคุณภาพและบริการ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่กลายเป็นสถิติและการเพิ่มทะยานสูงขึ้นของจำนวนผู้ใช้บริการ”
“เราขอแสดงความยินดีกับสายการบินเอทิฮัดที่ชนะเลิศและได้รับรางวัล ‘สายการบินชั้นนำแห่งตะวันออกกลาง’ ‘สายการบินที่มีที่นั่งผู้โดยสารชั้นหนึ่งชั้นนำแห่งตะวันออกกลาง’ และ ‘สายการบินที่มีลูกเรือชั้นเยี่ยมแห่งตะวันออกกลาง’ จากงานประกาศผลรางวัล World Travel Awards Middle East ประจำปี 2556”
ความสำเร็จจากงานประกาศผลรางวัล World Travel Awards เป็นการฉลองชัยชนะอีกครั้งสำหรับสายการบินเอทิฮัด ในงานประกาศผลรางวัล Business Traveller Middle East Awards ประจำปี 2556 ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัล ‘สายการบินที่มีที่นั่งโดยสารชั้นหนึ่งที่ดีที่สุด (Airline with Best First Class) และ ‘สายการบินที่มีโปรแกรมสะสมไมล์ที่ดีที่สุด’ (Airline with the Best Frequent Flyer Programme)
ในปี 2555 สายการบินเอทิฮัด:
- ทำกำไรได้เป็นปีที่สอง
- ซื้อกรรมสิทธิ์หุ้นในสายการบินต่างชาติ ได้แก่ กรรมสิทธิ์หุ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ของสายการบินแอร์เซเชลส์ กรรมสิทธิ์หุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ของสายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลีย และกรรมสิทธิ์หุ้น 2.987 เปอร์เซ็นต์ ของสายการบินแอร์ลินกัส นอกจากนี้ ยังมีหุ้นส่วน 29.21 เปอร์เซ็นต์ ในสายการบินแอร์เบอร์ลิน และ 24 เปอร์เซ็นต์ในสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ และสายการบินทั้ง 6 แห่งก็ได้สร้างการเป็นสหพันธ์หุ้นส่วนของธุรกิจสายการบินเป็นครั้งแรกของโลก
- เพิ่มฝูงบินเป็น 70 ลำ เปิดทางให้กับเส้นทางการบินโดยสายการบินเอทิฮัดทั้งเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสารและเที่ยวบินขนส่งสินค้ากว่า 86 แห่ง และจุดหมายปลายทางกว่า 248 เส้นทางที่เกิดจากการทำเที่ยวบินร่วม
- เริ่มบินเส้นทางการบินใหม่ 6 เส้นทางด้วยกัน ได้แก่ ตริโปลี เซี่ยงไฮ้ ไนโรบี ลากอส อาห์เมดาบัด และบาสรา สายการบินเอทิฮัดยังประกาศเส้นทางการบินใหม่เตรียมบินในปี 2557 สู่งกรุงวอชิงตันดีซี อัมสเตอร์ดัม เซา เปาโล เบลเกรด ซาน่า และโฮจิมินห์ ซิตี้
- เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินและความสามารถในการรองรับบริการใน 6 เส้นทาง ได้แก่ ดุสเซลดอร์ฟ กรุงเทพฯ คูเวต ดัมมัม อิสตันบูล และไคโร
- เดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์จากการทำเที่ยวบินร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีพันธมิตรกว่า 43 สายการบิน
- เริ่มติดตั้งโปรแกรมแพลตฟอร์มเซเบอร์โซนิค (SabreSonic) เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2556
- เปิดตัวบริการ “Etihad Wi-Fly” เพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระหว่างการโดยสารบนเครื่องบิน ซึ่งได้โปรแกรม Panasonic Avionics Global Communications Suite ในการปล่อยสัญญาณ การให้บริการ “Etihad Wi-Fly” เป็นการเตรียมการทางยุทธศาสตร์ของเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่สัญญา 10 ปีกับบริษัทพานาโซนิคมีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ
- ได้มาซึ่งการถือครองกรรมสิทธิ์หุ้นส่วนใหญ่ในฐานะเอนทิตี้ที่มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของโปรแกรมสะสมไมล์ของสายการบินแอร์เบอร์ลิน เอนทิตี้พัฒนาส่วนหนึ่งของบริษัทการจัดการโปรแกรมสะสมไมล์ที่ก่อตั้งขึ้นโดยสายการบินเอทิฮัด
