สายการบินเอทิฮัดแรงต่อเนื่องค้วารางวัลคว้ารางวัล “สายการบินชั้นนำของโลก” สี่ปีซ้อน
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินหน้าสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องล่าสุดคว้ารางวัล “สายการบินชั้นนำของโลก” หรือ “World’s Leading Airline” จากงานประกาศรางวัลเวิร์ล ทราเวล อวอร์ด ได้เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน
งานประกาศรางวัลจัดขึ้น ณ โรงแรมโอเบอรอยกูร์กอน ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยชัเนเฟิร์สคลาสของสายการบินเอทิฮัดยังได้รับการยกย่อง ด้วยการคว้ารางวัล “ชั้นเฟิร์สคลาสยอดเยี่ยมที่สุด”
งานประกาศรางวัลเวิร์ล ทราเวล อวอร์ด จัดขึ้นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2536 เพื่อแสวงหาและมอบรางวัลให้แก่องค์กรการท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งในปีพ.ศ. 2555 นี้ได้รับเกียรติจากผู้เชียวชาญอันทรงคุณวุฒิในวงการมากกว่า 650,000 คนจาก 191 ประเทศทั่วโลกร่วมทำการโหวตและคัดเลือกในสาขารางวัลต่างๆ สำหรับงานประกาศรางวัลเวิลด์ ทราเวล อวอร์ด ถือได้ว่าเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ได้รับการยกย่องจาก วอลล์สตรีท จอร์เนล ให้เป็นรางวัลออสการ์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่สายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า “ผมมีความปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งที่สายการบินเอทิฮัด ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคของเราที่มีการแข่งขันกันสูงมาก สิ่งนี้ถือเป็นของขวัญพิเศษที่เราได้รับในปีนี้”
“เราได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันและทุกๆปีเราได้พยายามที่จะยกระดับมาตรฐานของเราให้สูงขึ้น ที่ผ่านมาเราได้มอบการบริการที่ดีอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะหาหนทางที่จะยกระดับการบริการต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเหนือน่านฟ้า”
“ยกตัวอย่างเช่น ชั้นเฟิร์สคลาสของเรา ที่ผ่านมาได้รับเกียรติและคำชื่นชมอย่างต่อเนื่อง แต่เรายังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้ดียิ่งขึ้นไป โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2554 เราได้เปิดตัวโปรแกรม เฟิร์สคลาสเชฟ ที่จะมารังสรรค์สุดยอดเมนูให้กับบรรดาผู้โดยสาร และในปีนี้เราได้จัดทำโครงการโดยร่วมมือกับ อาบูดาบี ออร์แกนิกฟาร์ม ในการนำผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสดๆ อาทิ ไข่ไก่และน้ำผึ้ง มาเป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารของเรา นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ เวิลด์ทราเวล อวอร์ด ได้มอบรางวัลสายการบินที่ชั้นเฟิร์สคลาสยอดเยี่ยมที่สุด ให้กับเราอีกครั้ง”
“นอกจากนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เครื่องบินลำแรกของเราได้ติดตั้งชุดอุปกรณ์การสื่อสารสำหรับเครื่องบินของพานาโซนิค อาวีโอนิกส์ ที่จะสามารถให้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ความเร็วสูงที่สามารถทำการเชื่อมต่อได้ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือให้กับผู้โดยสารทุกท่าน และภายในสิ้นปีพ.ศ. 2557 เครื่องบินของเอทิฮัดทุกลำจะทำการติดตั้งชุดอุปกรณ์การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทนี้”
“การได้รับรางวัลอันทรงเกียรติเป็นปีที่สี่ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่าเราได้สร้างมาตรฐานที่สูงขึ้น และเราจะยังคงมุ่งมั่นทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ”
มร. เกรแฮม อี คุก ประธานและผู้ก่อตั้ง เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด กล่าวว่า “เวิลด์ ทราเวล อวอร์ด ถือเป็นรางวัลสำหรับองค์กรด้านการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งสายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลสายการบินชั้นนำของโลกตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ในฐานะที่เป็นสายการบินที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในประวัิติศาสตร์ของอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้สายการบินเอทิฮัดได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในฐานะที่เป็นธุรกิจระดับโลก ในขณะเดียวกันก็การยกย่องจากบรรดาผู้โดยสาร ขอแสดงความยินดีกับสายการบินเอทิฮัด กับความสำเร็จในครั้งนี้”
ในงานเวิลด์ ทราเวล อวอร์ด ของตะวันออกกลาง ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ณ เมืองดูไบ สายการบินเอทิฮัดได้รับรางวัลถึง 4 รางวัลด้วยกัน ประกอบด้วย สายการบินชั้นนำของตะวันออกกลาง สายการบินของตะวันออกกลางที่มีชั้นเฟิร์สคลาสยอดเยี่ยม สายการบินชั้นนำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเครื่องยอดเยี่ยม และสายการบินที่มีลูกเรือยอดเยี่ยม
เหตุการณ์สำคัญของสายการบินเอทิฮัดในปีพ.ศ. 2555
– ในเดือนธันวาคม 2554 สายการบินฯเข้าถือหุ้นของสายการบินแอร์เบอร์ลินจำนวนร้อยละ 29.21 เข้าถือหุ้นในสายการบินต่างๆในปีพ.ศ. 2555 ได้แก่ สายการบินแอร์เซเชลส์จำนวนร้อยละ 40 และสายการบินเวอร์จิ้น ออสเตรเลียจำนวนร้อยละ 10 และอีกร้อยละ 2.987 เปอร์เซ็นในสายการบินแอร์ลินกัส
– ทำความร่วมมือโค๊ดแชร์กับ 12 สายการบิน ทำให้มีโค๊ดแชร์รวมทั้งสิ้น 41 สายการบิน ทำให้สายการบินเอทิฮัดมีเครือข่ายการบินครอบคลุมกว่า 328 จุดหมายปลายทาง มากกว่าสายการบินตะวันออกกลางรายอื่นๆ
– ประกาศเปิดเส้นทางใหม่ อาทิ เมืองบัสเราะห์ ประเทศอิรัก (เดือนเมษายน 2555) เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย (เดือนกรกฎาคม 2555) เมืองอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย และเมืองอาห์เมดาบัด ประเทศอินเดีย (เดือนพฤศจิกายน 2555) กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. (เดือนมีนาคม 2556) เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล (เดือน มิถุนายน 2556) และนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ในเดือนตุลาคม 2556
– เปิด อินเตอร์เนชันแนล คอลเซ็นเตอร์ แห่งใหม่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ