สองนักดนตรีคลาสสิกชั้นนำ ร่วมถ่ายทอดเสน่ห์ชวนประทับใจของบทเพลงร่วมสมัยของฝรั่งเศส
ในตอนปลายของศตวรรษที่ 19 ดนตรีฝรั่งเศสอยู่ในสถานะของการเปลี่ยนแปลงจากกระแสโรแมนติคอันยิ่งใหญ่ไปสู่โลกของบทเพลงสำเนียงแปลกใหม่ทันสมัย ประกายความคิดและพลังสร้างสรรค์ที่จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากำลังพยายามจะหลีกหนีออกไปจากแบบแผนประเพณีดนตรีดั้งเดิมของยุโรป ขณะช่วงเวลาเดียวกันนั้น กลุ่มจิตรกรแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ชื่อดังเช่น Monet และ Cezanne ต่างก็มีแนวทางศิลปะของตนเองที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บรรดาคีตกวีทั้งหลายก็เริ่มสร้างสรรค์แนวดนตรีซึ่งสะท้อนไปทางเดียวกันกับศิลปะรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งมีความคิดพื้นฐานคล้ายคลึงกัน
คอนเสิร์ต “THE FRENCH ALTERNATIVE” เดี่ยวไวโอลินและเปียโน โดย ดร.ทัศนา นาควัชระ และ ดร.พรพรรณ บรรเทิงหรรษา นักดนตรีคลาสสิกชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งมีผลงานแสดงระดับนานาชาติและผลงานบันทึกเสียงมากมาย จะร่วมกันบรรเลงบทเพลงของคีตกวีฝรั่งเศส 3 คน ได้แก่ กาเบรียล โฟเร, เอริค ซาที และคีตกวีเอก โคลด เดอบูว์ซี ซึ่งบทเพลงทั้ง 3 จะนำเสนอเรื่องราวเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมดนตรีที่น่าทึ่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ไปสู่ยุคต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงที่ศิลปะและดนตรีร่วมสมัยของฝรั่งเศสแนวอิมเพรสชั่นนิสต์เฟื่องฟูและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
กาเบรียล โฟเร (GABRIEL FAURÉ ) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเจ้าของผลงานเพลงเชมเบอร์อันวิจิตรไพเราะ โฟเรเป็นนักออร์แกนที่มีชื่อเสียงเป็นและนักเปียโนชั้นเลิศ ส่วน เอริค ซาที (Erik Satie) นั้น โด่งดังขึ้นมาจากบทเพลงประเภทซาลอน มิวสิค ( Salon Music) ซึ่งต้นกำเนิดของผลงานยอดนิยมแบบนี้ ถ่ายทอดออกมาจากชีวิตจริงของเขาในคาบาเร่ต์ย่านมงต์มาตร์ (Montmartre) ของกรุงปารีส สำหรับ โคลด เดอบูว์ซี หนึ่งในนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดของฝรั่งเศส บทประพันธ์ของเขาสะท้อนกระแสของศิลปะอิมเพรสชั่นนิสต์อย่างลึกซึ้ง และยังผสมผสานกลิ่นอายของดนตรีเอเชียไว้อย่างน่าสนใจ มีความโดดเด่นเฉพาะตัวและติดตรึงใจตั้งแต่แรกที่ได้ยิน
ทั้งนี้ซาทีและเดอบูว์ซี เป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน องค์ประกอบทางดนตรีของเขาทั้งสองได้รับอิทธิพลอย่างมากจากคีตกวีรุ่นพี่อย่างโฟเร และถือเป็นการเปิดโลกทัศน์แห่งความคิดสร้างสรรค์ไปสู่คีตกวีในรุ่นต่อมา เช่น Stravinsky, Poulenc และ Ravel อีกด้วย
รายการแสดง “THE FRENCH ALTERNATIVE” ประกอบด้วย Faure sonata in A major, Debussy sonata in G minor and Satie Three Gymnopédies พิเศษสุดสำหรับการแสดง 3 รอบ ใน 3 จังหวัด คือ ในวันศุกร์ที 1 มิถุนายน ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน , วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน ที่มหาวิทยาลัยพายัพ วิทยาเขตแก้วนวรัฐ เชียงใหม่ และสำหรับคอเพลงคลาสสิกในกรุงเทพฯ วันอังคารที่ 12 มิถุนายน ณ สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมถ์ ถนนอโศกมนตรี สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสำรองบัตรได้ที่ www.tasana-nagavajara.com