“ความคิดสร้างสรรค์” คือหนึ่งในกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนโลกของแฟชั่นให้พัฒนาอยู่เสมอ และโครงการ SAHA GROUP BANGKOK YOUNG DESIGNER AWARDS 2016 (สหกรุ๊ป แบงค็อก ยัง ดีไซเนอร์ อวอร์ด 2016) โดยเครือสหพัฒน์ ถือเป็นหนึ่งในเวทีสำคัญ ที่ผู้มีใจรักงานแฟชั่นได้แสดงพลังแห่งไอเดีย ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายเป็นเวลาต่อเนื่องกว่า 15 ปีแล้ว ซึ่งแต่ละปีก็จะมีโจทย์ที่ท้าทายความสามารถแตกต่างกันออกไป และในปีนี้ได้เปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่สนใจอายุตั้งแต่ 18 – 25 ปี จับคู่ทีมละ 2 คน ออกแบบเครื่องแต่งกายชาย หญิง และเด็ก ในสไตล์ครีเอทีฟแวร์ และเรดดี้ทูแวร์ สุดล้ำแต่ใส่ได้จริง ภายใต้โจทย์ “THE INFLUENCER” แต่งต่าง….ให้คนตาม กับการหยิบยกแรงบันดาลใจด้านการแต่งตัวอันโดดเด่นของแฟชั่นไอคอนระดับโลก มาสร้างสรรค์ใหม่เป็นสไตล์ที่แตกต่าง หรือ การครีเอทเทรนด์เฉพาะตัวสุดเจ๋ง จนใครๆ ก็อยากแต่งตัวตามคุณ
มากกว่า 120 ชิ้นงาน จากมหาวิทยาลัยและสถาบันแฟชั่นทั่วประเทศ ที่น้องๆ นักศึกษาซึ่งมีความใฝ่ฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ ส่งผลงานการออกแบบชุดเป็นภาพดรออิ้งเข้ามาชิงชัย คณะกรรมการได้คัดเลือกผลงานที่ตอบโจทย์มากที่สุด จนได้ทีมที่เข้าสู่รอบ 20 ทีม และสิ่งสำคัญในลำดับต่อมาก็คือการเตรียมความพร้อม เสริมทักษะให้กับน้องๆ ทุกทีมด้วยกิจกรรมเวิร์คช็อป
เริ่มต้นกับ คอร์สความรู้ด้านแพทเทิร์นและตัดเย็บ ซึ่งทาง บุนกะ แฟชั่น อะคาเดมี่ ที่นำทีมโดย สมพร สุนทรธำรง รองผู้อำนวยการสถาบัน ร่วมมือกับ บริษัท วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาช่วยกันปูพื้นฐานให้น้องๆ ทั้ง 20 ทีม สำหรับด้านแพทเทิร์นนั้นได้ มาซาโกะ ทาคิเซะ หัวหน้าครูของสถาบันบุนกะแฟชั่น มาให้ความรู้เกี่ยวกับการทำเสื้อกั๊ก ทุกคนได้เรียนรู้ถึงโครงสร้างและสัดส่วนต่างๆ ของการทำเสื้อหนึ่งตัวว่าควรมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ซึ่งการเป็นดีไซเนอร์ที่ดีนั้น นอกเหนือจากเรื่องความสร้างสรรค์ พื้นฐานด้านแพทเทิร์นนั้นก็สำคัญเช่นกัน หลายครั้งที่ไอเดียอันยอดเยี่ยมจากจินตนาการในภาพดรออิ้ง ไม่สามารถออกมาเป็นชิ้นงานชั้นดีได้ เพราะตัวผู้ออกแบบขาดความเข้าใจในพื้นฐานโครงสร้างของแพทเทิร์น จนไม่สามารถควบคุมหรืออธิบายงานให้กับช่างตัดเย็บผลิตผลงานออกมาตามต้องการได้
ด้าน ธีรนันท์ สุขสมมนัส ตัวแทนจาก วีน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มาแนะนำในเรื่องของการตัดเย็บด้วยจักร โดยได้เรียนรู้กันตั้งแต่เทคนิคขั้นพื้นฐาน อย่างเรื่องการปรับความตึงความหย่อนของด้ายเพื่อการเย็บในแต่ละสถานการณ์ หรือการเลือกใช้เข็มและด้ายให้เหมาะกับเนื้อผ้าแต่ละชนิดที่มีความหนาและบางแตกต่างกัน เพื่อทำให้ชิ้นงานออกมามีคุณภาพมากที่สุด นอกจากนี้น้องๆ ยังได้มีโอกาสใช้จักรเย็บผ้าเพื่อฝึกทักษะการเย็บจริง ทั้งแบบเส้นตรง เส้นโค้ง วงกลม สลับฟันปลา ฯลฯ ซึ่งทักษะในส่วนนี้สามารถนำไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์และซ่อมแซมเสื้อผ้า รวมถึงสร้างลวดลายให้สวยงามบนเนื้อผ้าได้อีกด้วย ก่อนที่สุดท้ายทุกทีมจะได้เอาความรู้ด้านแพทเทิร์นที่เรียนมาร่างแบบลงบนผ้าจริง และใช้ทักษะการเย็บจักรมาใช้ในการตับเย็บตามไอเดียของตัวเอง สร้างเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเก็บกลับบ้านไปชื่นชม
หลังจากนั้นคณะกรรมการได้มีการสอบสัมภาษณ์ ถึงไอเดียการทำชุดของน้องๆ แต่ละทีม พร้อมคำแนะนำในการพัฒนาจุดที่ยังบกพร่องอยู่ ก่อนที่จะคัดเลือกให้เหลือเพียง 8 ทีมสุดท้าย เพื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และเดินหน้าเข้าสู่เวิร์คช็อปสุดท้าย ที่ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) กับการเรียนรู้เรื่องการแต่งหน้าที่ถูกวิธี นอกจากช่วยในเรื่องของความสวยงาม ทำให้ดูสุขภาพดี ปรับบุคลิกให้โดดเด่นขึ้น ที่สำคัญทักษะด้านนี้เป็นส่วนหนึ่งในงานแฟชั่นและการแข่งขันครั้งนี้ด้วย เพราะทุกทีมจะต้องครีเอทเมคอัพให้แมทช์เข้ากับชุดที่ออกแบบมา เพื่อใช้ในการโชว์บนเวทีจริง ซึ่งในครั้งนี้วิทยากรและเมคอัพอาร์ติสต์ก็ได้มาให้ความรู้ในเรื่อง วิธีการดูแลผิวพรรณเบื้องต้น แบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการหลีกเลี่ยงแสงแดด ดื่มน้ำสะอาด 8-1 0 แก้วต่อวัน พักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ ต่อมาทุกทีมก็ได้ เรียนรู้ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนแต่งหน้า แบบ Step By Step ตั้งแต่ขั้นตอน ทำความสะอาด ปรับผิวใช้ชุ่มชื่น และวิธีการแต่งแต้มสีสันบนใบหน้าแต่ละส่วน จนออกมาเป็นการแต่งหน้าในสไตล์ Natural Look ก่อนที่จะให้น้องๆ ทุกคนได้ลองแต่งหน้านางแบบที่ได้เตรียมมาในสไตล์ของตัวเอง เป็นอันจบการเวิร์คช็อปในครั้งนี้
โดยหลังจากนี้ ทั้ง 8 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จะได้รับทุนตัดเย็บชุดจริง เพื่อจัดแสดงผลงานเป็นแฟชั่นโชว์แบบเต็มคอลเลกชั่น บนเวทีการประกวดรอบชิงชนะเลิศที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 เวลา 14.30-16.00 น. ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อชิงเงินสดและแพ็คเกจท่องกรุงโตเกียว พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 550,000 บาท