สสส.หายไปไหน ! “ดร.สุปรีดา-แม่ทัพภาคีเครือข่ายสุขภาพ” โพสต์ยืนยันร่วมมือช่วยโควิด-19 มาตั้งแต่ม.ค.63 ย้ำแม้ไม่เห็นโลโก้ “สสส.” แต่ทำงานด้านสุขภาพอย่างหนักต่อเนื่อง เผยสั่งปรับแผนงานภาคีเครือข่ายสุขภาพ พร้อมมุ่งเน้นป้องกันไวรัสมรณะ ประกาศขอเป็นแนวหลังอันแข็งแกร่งให้กับแนวหน้าร่วมฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Supreda Adulyanon” ตอบข้องสงสัย “สสส.หายไปไหน” ในท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่าได้ร่วมมือทำเรื่องโควิด-19 กับกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มาตั้งแต่เริ่มต้นเดือนมกราคม 2563 และต่อเนื่องถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามยืนยันว่าแม้สังคมไม่ได้เห็นโลโก้ “สสส.” ไม่ได้เห็นโฆษณา สสส. แต่ สสส.ได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลงานที่เป็นรูปธรรม คือการสร้างต้นแบบในพื้นที่ ผลักดันนโยบายและผลักดันกฎหมายด้านสร้างสุขภาพมาแล้วกว่าร้อยฉบับ พร้อมระบุสถานการณ์ขณะนี้ สสส.ได้มีการปรับแผนการทำงานของภาคีเครือข่ายสุขภาพ โดยมุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 แล้ว โดยเฉพาะการสนับสนุนตำบลสุขภาวะกว่า 2,600 ตำบลในท้องถิ่นที่กำลังรับมืออย่างหนักกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 พร้อมประกาศขอเป็นแนวหลังอันแข็งแกร่งให้กับแนวหน้าทุกแนว ในการต่อสู้เพื่อช่วยผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน
“หลายวันที่ผ่านมา มีคำถามถึงว่า สสส. หายไปไหน ในบทบาทของการร่วมป้องกันแก้ไขปัญหาจากโควิด-19 วนเวียนเข้ามาจากหลายแหล่ง อาจเริ่มจากคนที่คอยเฝ้าดูอยู่ กระจายไปในหมู่พันธมิตรเครือข่าย จนกระจายในหลายๆคนที่รู้จัก สนใจ เคยร่วมงานกับ สสส. ทุกคนต่างช่วยกันตอบไปเท่าที่จะตอบได้ ว่าเราได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และจะทำอะไรต่อไปอีก แต่หลายคนก็โต้กลับมาว่า ก็คนส่วนใหญ่เขายังไม่เห็น เราจึงได้ตระหนักเพิ่มขึ้นว่า คำถามนี้อาจเกิดจากการที่มีคนจำนวนมากที่รับรู้ถึง สสส. ต่างจากองค์กรอื่นๆ นั่นคือ การไม่เห็นโลโก้ “สสส.” การไม่เห็นโฆษณาของ สสส. คือ สสส. ไม่ได้ทำงาน” ดร.สุปรีดากล่าว
ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ทั้งที่ในความเป็นจริง สสส. เข้าไปประสานลงมือทำเรื่องโควิด-19 ร่วมกับกรมควบคุมโรค วอร์รูมการสื่อสารกระทรวงสาธารณสุขตั้งแต่เดือนมกราคม เราเริ่มทำก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมโรคอุบัติใหม่ของชาติด้วยซ้ำไปสสส. สนับสนุนการสื่อสารทุกรูปแบบด้วยความเชี่ยวชาญและทุกทรัพยากรที่มี (ล่าสุดเป็น #ไทยรู้สู้โควิด) ฯลฯ และช่วยทำโจทย์สื่อสารที่ยังมีช่องว่าง จัดทำสิ่งพิมพ์กระจายในแต่ละกลุ่มเป้าหมายเฉพาะรวมกว่าแสนชุด และปรับการรณรงค์ช่วงสงกรานต์ทั้งหมดมาสื่อสาร เพื่อกระตุ้นคนไทยร่วมลดการแพร่ระบาดโรค ด้วยความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคม โดยเฉพาะในประเด็นระยะห่างทางสังคม ขณะเดียวกัน สสส. ปรับแผนการทำงานทุกแผน ให้มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 เป็นลำดับสำคัญ โดยต้องเป็นแผนการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ และเติมเต็มช่องว่างการทำงานที่มีอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนท้องถิ่นต่างๆ ที่ต่อยอดตำบลสุขภาวะกว่า 2,600 ตำบลให้เป็นต้นแบบจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังโรคระบาดระดับตำบล เพื่อรับปัญหาที่เริ่มกระจายตัวจากเมืองใหญ่ อีกทั้งสนับสนุนงบประมาณร่วมร้อยล้านบาทตรงไปที่ 878 อำเภอ ผ่านคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ให้เป็นพี่เลี้ยงในเรื่องนี้ รวมถึงงานในประชากรกลุ่มเป้าหมายอื่นๆอีกมากมาย แม้จะเป็นงานแนวหลัง แต่ตอนนี้ เวลานี้ คือนาทีที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพื่อป้องกันและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ไม่จำเป็นต้องเห็นโฆษณาของ สสส ไม่เห็นโลโก้ สสส. ไม่ต้องรู้ว่า สสส.และภาคีเครือข่ายทำอะไร ขอแค่ท่านได้รับประโยชน์จากสิ่งที่พวกเรากำลังทำ และจะทำต่อไปก็พอ
“ตัวตน ของ สสส. คือการทำงานสร้างเสริมสุขภาพที่ต้องใช้มาตรการหลากหลาย อาทิ การสร้างต้นแบบในพื้นที่ ผลักดันนโยบาย ผลักดันกฎหมาย การสื่อสารเป็นเพียงหนึ่งในมาตรการเหล่านั้น แต่อาจมีคนไม่มากนักทราบเรื่องงานผลักดันนโยบายของ สสส ที่ได้สนับสนุนให้เกิดกฎหมายที่ช่วยสร้างสุขภาพมาแล้วกว่าร้อยฉบับ นโยบายระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ท้องถิ่น องค์กรอีกนับไม่ถ้วน หรือเรื่องการสร้างต้นแบบในองค์กรหรือพื้นที่และขยายผลสู่การปฏิบัติในวงกว้าง จนเป็นบรรทัดฐานสำคัญในสังคม ในนับหมื่นองค์กร หลายพันตำบล ฯลฯ เมื่อผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ ที่เราจะเป็นแนวหลังอันแข็งแกร่งให้กับแนวหน้าทุกแนว ให้ชนะไปด้วยกันแล้ว เราคงจะมีโอกาสสื่อสารกลไกการทำงานสร้างเสริมสุขภาพแบบ สสส. ในเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ มากขึ้นต่อไป”ดร.สุปรีดา กล่าวทิ้งท้าย