สสปน. สร้างเครือข่าย “พันธมิตรไมซ์แห่งอาเซียน” ประเดิมลงนามความร่วมมือ “เวียดนาม”
ปูทางขานรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ปี 58 ดันไมซ์ในภูมิภาคสู้ศึกในระดับโลก
กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม/ 21 มีนาคม 2555 – สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน.เดินเกมกลยุทธ์การตลาดไมซ์ระดับภูมิภาค เร่งผนึกกำลัง สร้างเครือข่าย “พันธมิตรไมซ์แห่งอาเซียน” (ASEAN MICE Collaboration) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน รองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ประเดิมลงนามความร่วมมือร่วมกับ “สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม” หรือ Vietnam Chamber of Commerce and Industry (VCCI) ตั้งเป้าขยายการเติบโตอุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาค เตรียมพร้อมผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์แห่งอาเซียนสู่การเป็นผู้นำระดับโลก พร้อมเล็งขยายความร่วมมือสู่ประเทศสมาชิกอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
นายอรรคพล สรสุชาติ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) เปิดเผยว่า “ที่ผ่านมาสสปน.ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยร่วมดำเนินงานร่วมกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมไมซ์ไทย ใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1) ด้านการดำเนินธุรกิจ 2)ปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อภาค แรงงานไมซ์ไทย 3) การเตรียมความพร้อมในทุกภาคส่วน และ 4) การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐบาลต่อภาคเอกชน ซึ่งเหล่านี้เป็นแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมไมซ์ในประเทศ โดยล่าสุดเราได้จัดทำแผน นโยบายและยุทธศาสตร์การดำเนินงานเพิ่มเติมในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยมุ่งเน้นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐบาล (Government-to-Government) และเอกชน (Government-to-Business) ในกลุ่มประเทศสมาชิกภูมิภาคอาเซียน โดยในเบื้องต้น สสปน.ได้จัดตั้ง “พันธมิตรไมซ์แห่งอาเซียน” เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไมซ์ในภูมิภาคเติบโตขึ้น และมีศักยภาพทัดเทียมแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ
โครงการจัดตั้ง “พันธมิตรไมซ์แห่งอาเซียน (ASEAN MICE Collaboration)” เป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การส่งเสริมความร่วมมือ และสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาค โดยริเริ่มโครงการเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมไมซ์อาเซียน และก่อให้เกิดผลสะท้อนในเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมไมซ์ไทยเช่นเดียวกัน โดยสสปน.ได้ริเริ่มโครงการนำร่องกับประเทศเวียดนาม ซึ่งจากแนวโน้มการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามที่เพิ่มขึ้น และผู้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติจากประเทศเวียดนามที่มีจำนวนสูงสุดอันดับ 5 ในภูมิภาคอาเซียน ดังนั้น สสปน.ได้ร่วมลงนามความร่วมมือร่วมกับ
“สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเวียดนาม” หรือ Vietnam Chamber of Commerce and Industry (VCCI) ภายใต้กรอบข้อตกลงว่าด้วยการส่งเสริมด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล รวมทั้งด้านเศรษฐกิจ ผ่านการท่องเที่ยวและการจัดประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติ ด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การจัดทำกิจกรรมสนับสนุนการตลาดต่างประเทศซึ่งกันและกัน (Cross-Promotion) การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรมไมซ์ ระหว่างประเทศเป็นต้น
“ในระยะเริ่มต้นเราเล็งการขยายความร่วมมือในประเทศเวียดนาม ซึ่งสสปน.ได้เลยลงนามความร่วมมือร่วมกับ “องค์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งเวียดนาม” หรือ The Vietnam Trade Promotion Agency (VIETRADE) มาแล้วตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมไมซ์ระหว่างไทยและเวียดนามเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 15-20 ต่อปีและส่งผลให้ประเทศเวียดนามเป็นตลาดไมซ์ที่มีศักยภาพสูงมากอีกประเทศหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมไมซ์ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้านานาชาติ (Exhibitions Industry) และภายหลังจากการลงนามความร่วมมือร่วมกับ VCCI ในครั้งนี้ สสปน.จึงได้เร่งขยายตลาดการประชุม (Meetings Industry) ในตลาดเวียดนาม ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่ประเทศไทยจะรุกตลาดการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมองค์กร และการประชุมนานาชาติในตลาดเวียดนาม ซี่งคาดว่าจะสามารถขยายตลาดไมซ์ไทยในเวียดนามได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 สร้างรายได้เข้าประเทศผ่าน อุตสาหกรรมไมซ์ไทยอีกว่า 75 ล้านบาทภายในปี 2555” นายอรรคพล กล่าวเสริม
จากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมนิทรรศการระดับโลก หรือ UFI รายงานถึงอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าของไทยและเวียดนามว่า ประเทศไทยมีรายได้จากการจัดงานแสดงสินค้าสูงถึง 132 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาค อาเซียน และประเทศเวียดนามมีมูลค่า 42 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอันดับ 5 ในภูมิภาคอาเซียน โดยสำหรับในส่วนของอุตสาหกรรมการประชุมประเทศไทยและเวียดนามอยู่ในอันดับที่ใกล้เคียงกัน โดยรายงานสถิติ Country and City Ranking Report จากสมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ICCA) ระบุว่าประเทศไทยและเวียดนามติดอันดับ 20 เมืองที่น่าจัดประชุมสูงสุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตะวันออกกลาง โดยประเทศไทยติดอันดับ 9 และประเทศเวียดนามติดอันดับ 13
จากข้อมูลสถิติการค้าและการลงทุน โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงานว่าความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2554 มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 9 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังประเทศเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 7 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าการส่งออกของเวียดนามมายังประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมกันนี้ประเทศไทยยังคงมีโครงการลงทุนอีกกว่า 230 โครงการในประเทศเวียดนาม ติดหนึ่งในสิบประเทศที่มีการลงทุนสูงที่สุดภายในเวียดนาม
“จากการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ สสปน.จะยังคงเดินหน้าขยายความร่วมมือภายใต้แผนกลยุทธ์การสร้างเครือข่าย “พันธมิตรไมซ์แห่งอาเซียน” ร่วมกับกลุ่มประเทศสมาชิกภายในภูมิภาคต่อไป โดยจะมุ่งเน้นประเทศที่เป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง อาทิ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจะค่อยๆ ขยายจนครบทุกประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียน เพื่อร่วมกันผลักดันให้อุตสาหกรรมไมซ์อาเซียนเติบโตอย่างแข็งแกร่งและแข่งขันได้ในระดับโลกตอบรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 พร้อมสะท้อนภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมไมซ์ในอาเซียน” นายอรรคพล กล่าวทิ้งท้าย
# # #
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)
นางสาวปาริฉัตร เศวตเศรนี โทร 02-694-6092 อีเมล์ parichat_s@tceb.or.th
นายสุเมธ กาญจนพันธุ์ โทร 02-694-6096 อีเมล์ sumet_k@tceb.or.th