สยามคูโบต้า สนับสนุนโครงการพระราชดำริฝนหลวง มอบเครื่องบดสารที่ใช้ในการทำฝนหลวง ช่วยเหลือเกษตรกรไทยที่ประสบภัยแล้ง

0
231
image_pdfimage_printPrint

3

มอบเครื่องบดสารที่ใช้ในการทำฝนหลวง ช่วยเหลือเกษตรกรไทยที่ประสบภัยแล้ง
บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด มอบเครื่องบดสารฝนหลวง ผ่านกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เพื่อส่งไปสนับสนุน การปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกรไทยที่ประสบภัยแล้ง และเพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศ
นายโอภาศ ธันวารชร กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า “จากสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศไทยในปัจจุบัน ได้ส่งผลกระทบแก่เกษตรกรในวงกว้าง ทำให้เกษตรกรขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และ หาแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งบริษัทฯ เล็งเห็นว่ากรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยการออกปฏิบัติการฝนหลวงในหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับการเกษตร และเติมน้ำต้นทุนในเขื่อนทั่วประเทศให้มีปริมาณเพียงพอต่อการอุปโภคและบริโภคของประชาชน บริษัทฯ จึงได้ประสานกับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งของประเทศ ด้วยการมอบเครื่องยนต์ดีเซลคูโบต้า อาร์ที 140 ไดเร็คอินเจคชั่น ติดตั้งพร้อมกับเครื่องบดน้ำแข็งแห้ง และเครื่องบดสารยูเรีย จำนวน 10 ชุด รวมมูลค่า 1,000,000 บาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ในทุกภาคของประเทศ”
สำหรับน้ำแข็งแห้ง และสารยูเรีย เป็นสารสูตรเย็นที่มีสำคัญในขั้นตอนการโจมตีเมฆให้เกิดเป็นฝนตกตรงตามเป้าหมายที่กำหนด โดยปกติน้ำแข็งแห้งจะเป็นก้อนขนาดประมาณอิฐบล๊อก และสาร ยูเรียจะเป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดสาคู ซึ่งจำเป็นต้องบดให้เป็นผงละเอียดก่อนจะนำขึ้นเครื่องบินไปโปรยโจมตีเมฆให้ตกเป็นฝน ยิ่งสามารถบดให้เป็นผงละเอียดได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มปริมาณน้ำฝนได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
“บริษัทฯ หวังว่าการมอบเครื่องบดสารฝนหลวงพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูงที่ใช้เป็นต้นกำลังในครั้งนี้ จะช่วยลดระยะเวลาในการบดและเพิ่มความละเอียดของสารฝนหลวง ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำฝนหลวง เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร รวมถึงปริมาณน้ำกักเก็บในเขื่อนสำคัญทั่วประเทศ ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรน้ำของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน” นายโอภาศ กล่าวเพิ่มเติม